ลูกจ้างโรงพยาบาลตรังดีใจ หากได้รับการบรรจุ หลังทำงานลูกจ้างชั่วคราวมาเป็นเวลานานถึง 27 ปี เหลืออายุงาน 5 ปี ก็จะเกษียณ ที่ผ่านมาไม่เคยมีโอกาสได้รับการพิจารณาบรรจุ เพราะหากคนในสายงานเกษียณ ทางรัฐบาลก็จะไม่มีการบรรจุทดแทน
วันที่ 5 เมษายน 2563 ตามที่ครม.อนุมัติหลักการบรรจุพนักงาน ลูกจ้าง สาธารณสุข เป็นข้าราชการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นำเสนอ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบสาธารณสุขไทย อย่างยั่งยืน และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ต่อสู้กับโรคโควิด-19 จำนวน 45,242 ตำแหน่ง นั้น
นางสุนทรี เมืองแก้ว อายุ 55 ปี ลูกจ้างชั่วคราว รพ.ตรัง กล่าวด้วยน้ำเสียงแสดงความดีใจล่วงหน้าอย่างเห็นได้ชัด หากจะได้รับการพิจารณาบรรจุให้เข้ารับราชการ เนื่องจากตนเองทำงานเป็นลูกจ้างที่ รพ.ตรังมายาวนานถึง 27 ปี นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2536 เป็นลูกจ้างชั่วคราวห้องผ่าตัด ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2563 ย้ายมาประจำที่ฝ่ายเภสัชกรรม และทำงานมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ค่อยมีสิทธิ์ได้เรียกร้องให้ได้รับการบรรจุ นอกจากเขาเปิดให้ไปสอบ แต่ในสายงานเภสัชกรรมนี้ ไม่เคยมีโอกาสได้ไปสอบ เพราะเขาบอกว่าตำแหน่งนี้จะไม่มีแล้ว โดยหากมีคนเกษียณ ก็ไม่มีนโยบายบรรจุทดแทน จึงทำให้ไม่มีสิทธิ์ได้รับการบรรจุ หากได้รับบรรจุจริงถือว่าเป็นข่าวดีมากสำหรับพวกตน ทั้งนี้ มีลูกจ้างประจำอยู่ประมาณ 3 คน และ ยังมีลูกจ้างรายวันที่ยังไม่เป็นลูกจ้างรายเดือนอีกหลายคน การทำงานในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ทุกคนเครียดมาก ทุกคนต้องป้องกันตนเอง เพราะกลัวจะติดเชื้อ ซึ่งหากติดเชื้อกลัวจะพาเชื้อไปติดที่บ้าน ทุกคนทำงานด้วยความเสี่ยงเช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไป แต่แตกต่างกันตรงที่ลูกจ้างชั่วคราวไม่มีสวัสดิการใดๆจากภาครัฐ ถ้าเกษียณอายุราชการก็ไม่ได้อะไรเลยจากรัฐบาล หรือหากจะได้ก็จะได้เป็นการส่วนตัวที่ผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงานให้มา แต่ถ้าเขาไม่ให้ก็จะไม่ได้อะไรเลย ทั้งนี้ หากได้รับการบรรจุจริงจะรู้สึกดีใจมาก และยังมองเลยไปถึงรุ่นน้องๆที่เพิ่งเข้ามาทำงานในตำแหน่งลูกจ้าง หากได้บรรจุจะได้รับสวัสดิการ หากเกษียณก็จะได้มีเงิน ลูกๆก็สามารถเบิกค่าเล่าเรียนได้ เพราะเห็นตัวอย่างพวกตนที่ทำงานต้องกู้หนี้ยืมสินมาส่งเสียลูกเรียนหนังสือ ไม่ได้มีสวัสดิการ หากทุกคนได้รับการบรรจุจะทำให้มีสวัสดิการเช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไป
