กู้ภัยเร่งพ่นยาฆ่าเชื้อภายในบ้าน และรอบบริเวณบ้านผู้ป่วยโควิด 19 หลังเพื่อนบ้านต้องย้ายครอบครัวหนีไปอยู่บ้านญาติชั่วคราว เพราะไม่มั่นใจในการแพร่กระจายของเชื้อ ขณะที่ยังมีผู้ใกล้ชิดกักตัวเองอยู่ภายในบ้านอีก 1 คน แต่ยังไม่พบอาการผิดปกติใดๆ
วันที่ 7 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ จ.ตรัง (หน่วยกู้ภัยห้วยนาง) ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ระดมทีมเร่งพ่นยาฆ่าเชื้อภายในบ้าน รวมทั้งพื้นที่บริเวณโดยรอบบ้านของผู้ป่วยไวรัสโควิดรายหนึ่งของ อ.ห้วยยอด ซึ่งมีบ้านญาติพี่น้องและบ้านเพื่อนบ้านหลังอื่นๆ ตั้งอยู่รายรอบ หลังพบว่าเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันต้องปิดบ้านหนีไปอาศัยอยู่บ้านญาติชั่วคราว เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากเชื้อ ขณะที่ผู้ป่วยโควิดรายดังกล่าวเป็นเพศหญิง เดินทางกลับจากประเทศฟิจิ พร้อมสามี แต่ทั้งคู่รับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม โดยแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ และมาถึงก็กักตัวเองภายในบ้านพักส่วนตัว โดยมีพี่สาว รวมทั้งญาติพี่น้อง ซึ่งมีบ้านใกล้ๆ กัน คอยช่วยเหลือส่งข้าวปลาอาหารให้ จนกระทั่งฝ่ายภรรยามีอาการไข้ ทีมสาธารณสุขจึงจัดรถไปรับพาไปตรวจอาการ พบติดเชื้อโควิด -19 รายที่ 6 ของจังหวัดตรัง จึงเข้าระบบการรักษาอยู่ที่ รพ.ในขณะนี้ ส่วนสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ขณะนี้ยังไม่มีอาการใดๆ โดยจะต้องกักตัวเองอยู่ภายในบ้าน รอดูอาการให้ครบกำหนดในอีก 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม หลังมีคนป่วยทำให้เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากเชื้อ บางหลังจึงได้ย้ายออกไปที่อื่นเป็นการชั่วคราว เพราะหลังพบเชื้อทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ต้องจัดซื้อยาฆ่าเชื้อ และจัดกำลังคนลงฉีดพ่นเอง เพื่อให้ญาติพี่น้อง รวมทั้งเพื่อนบ้านได้อุ่นใจ ขณะที่ชาวบ้านที่กลับจากต่างจังหวัด และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดในหมู่บ้านอื่นๆ ต่างร้องขอให้ช่วยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อด้วย คิวยาวเหยียด แต่อย่างไรก็ตาม กลับพบว่ามีผู้เดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ตบางราย ไม่กักตัวเอง แต่มีการจับกลุ่มรวมตัวกัน ทำให้ชาวบ้านวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.เร่งเข้าตรวจสอบ และกำชับการกักกันของตัวเองอย่างเด็ดขาด ป้องกันการระบาดของเชื้อภายในหมู่บ้าน
สำหรับสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดตรัง พบผู้ติดเชื้อสะสม 6 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 5 คน รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 1 คน ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 158 คน ไม่พบเชื้อ 139 คน รอผลการตรวจ 13 คน
