ตรัง – จังหวัดตรังส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ร่วมปฏิบัติการเข้มตรวจสอบรถทุกคัน คนทุกคน งัดคำสั่งจังหวัดคนปฏิบัติงานนอกจังหวัด ห้ามเดินทางข้ามจังหวัดไปมาต้องเลือกลางานหรือไปพักอาศัยในพื้นที่ทำงานชั่วคราว ยกเว้นแพทย์ พยาบาลที่ต้องปฏิบัติงานข้ามจังหวัด ขณะเดียวกันปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดตรังอย่างเคร่งครัด ส่งคนตรังที่เดินทางกลับจากพื้นที่ระบาดไปกักยังสถานที่กักกลางของแต่ละอำเภอ เพื่อเฝ้าระวังอาการให้ครบ 14 วัน เพื่อแยกออกจากการกักตัวที่บ้าน ป้องกันการนำเชื้อไปสู่ครอบครัวในช่วงสงกรานต์ประเพณีไทยที่ลูกหลานกลับบ้าน
วันที่ 12 เมษายน 2563 ที่ด่านคลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง พื้นที่รอยต่อระหว่างจ.ตรังกับจ.นครศรีธรรมราช และมีประชาชนอีกจำนวนมากที่หลบด่าน จ.กระบี่ อ้อมมาเข้าทางช่องทางด่านนี้ พบว่านายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอรัษฎา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง, ตำรวจ สภ.รัษฎา และกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกันคัดกรองรถทุกคัน และคนทุกคน ที่จะผ่านด่านเข้ามาในจังหวัดตรัง ทั้งรถขนส่งสินค้า ซี่งจะให้ผ่านได้เฉพาะสินค้าตามข้อยกเว้นในคำสั่งจังหวัดเท่านั้น เช่น สินค้าอุปโภค บริโภค อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาเวชภัณฑ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ผลผลิตการเกษตร พัสดุภัณฑ์ สินค้านำเข้าหรือส่งออก ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีหนังสือจากต้นสังกัดผ่านเข้าไปส่งสินค้าและต้องกลับในทันทีห้ามค้างคืน ส่วนคนต่างจังหวัดห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด แต่คนตรังอนุญาตกลับเข้าพื้นที่ได้ ทั้งนี้ ถ้าไม่เดินทางกลับจากจังหวัดพื้นที่ระบาด และที่บ้านไม่มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็กอายุไม่เกิน 5 ปี ให้สามารถกลับไปกักตัวอยู่ที่บ้านได้ แต่ต้องแยกตัวเองให้เด็ดขาดออกจากทุกคนในครอบครัว แต่หากเป็นคนที่กลับจากจังหวัดพื้นที่ระบาด (ยกเว้น จ.ระนอง และจ.พังงา) จะต้องพาไปกักตัว ณ สถานที่กักตัวกลางเท่านั้น ทั้ง 2 ประเภท จะต้องมีเจ้าหน้าที่ อสม.รพ.สต.รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดและต้องมีการตรวจวัดไข้ทุกวัน จนครบกำหนด 14 วัน ตามมาตรฐานสาธารณสุข แต่ทั้งนี้ ทุกคนจะต้องลงจากรถไปตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ซึ่งคำสั่งจังหวัดไม่เกิน37.3 องศาเซลเซียสเท่านั้น จึงจะให้ผ่านด่าน
ทางด้านนายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอรัษฎา พาผู้สื่อข่าวไปดูสถานที่กักตัวกลางของคนตรังที่เดินทางกลับจากจังหวัดพื้นที่ระบาด ที่โรงแรมพิมาน อ.รัษฎา พร้อมพาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ อสม.เข้าตรวจวัดไข้ของผู้ที่เข้าระบบกักกันตัว โดยกล่าวว่า อ.รัษฎา เลือกสถานที่กักตัวกลางเป็นโรงแรมทั้งหมด 3 แห่ง และหากไม่เพียงพอจะใช้ศาลาประชาคม อ.รัษฎาเพิ่มเติม รองรับได้ทั้งหมดประมาณ 106 คน แบ่งเป็นโรงแรมจำนวน 43 ห้อง/คน สำหรับโรงแรมพิมานมีทั้งหมด 15 ห้อง/คน และขณะนี้รับเข้ามาแล้วรวม 8 คน/ห้อง (แยกห้องละคน) ซึ่งทั้งหมดขณะนี้ที่พบเป็นคนตรังที่ไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดระบาดสูงสุด และต้องการกลับบ้านที่จังหวัดตรัง จึงไม่อนุญาตให้กักตัวที่บ้าน ต้องกักสถานที่กักกลางเท่านั้น เป็นไปตามคำสั่งของจังหวัดอย่างเด็ดขาดนับจากวันที่ 10 – 30 เมษายนนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้พื้นที่อ.รัษฎา พบคนที่กลับมาจำนวน 400 กว่าคน ไปกักตัวอยู่กับบ้านไม่ค่อยมีวินัย ยังออกไปพบปะคนอื่นภายนอก เมื่อคำสั่งนี้ออก จึงต้องเด็ดขาดนำไปกักในสถานที่กลางเท่านั้น
ส่วนที่ว่าการ อ.รัษฎา แม้จะเป็นวันหยุดราชการ แต่ก็มีประชาชนในอ.รัษฎา ที่ทำงานในพื้นที่ อ.ทุ่งสง ได้เดินทางไปสอบถามถึงความชัดเจนของคำสั่งห้ามออกนอกพื้นที่โดยนายอำเภอรัษฎาอธิบายและยืนยันอย่างเด็ดขาดว่า คนจังหวัดตรังสามารถเข้าพื้นที่ได้ตลอดเวลายกเว้นช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่จะไปทำงานต่างพื้นที่แล้วกลับเข้ามาไม่ได้ เช่นเดียวกับคนจังหวัดอื่นที่เข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดตรังแต่จะผ่านทุกวันไปมาไม่ได้ หากไม่มีเหตุจำเป็นตามข้อยกเว้นใสคำสั่ง จะต้องเลือกเอาว่าจะต้องลาหยุดงาน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หรือย้ายไปอยู่ชั่วคราวในพื้นที่ทำงานในระหว่างวันที่ 10 -30 เม.ย. ช่วงเวลาตามคำสั่ง ทั้งนี้ เจตนาของคำสั่งคือ ไม่ต้องการให้คนติดต่อกันไปมาและไม่ต้องการให้นำเชื้อเข้ามาในพื้นที่
