สุดเวทนา ชาวบ้านพื้นที่รอยต่อระหว่างอ.ห้วยยอด จ.ตรัง และ อ.บางขัน จ.นครศรีฯ ดิ้นหนีอดตาย ต้องเดินลอดช่องด่านท่อระบายน้ำเพื่อไปกรีดยาง ขนสินค้าเกษตร หรือไปทำงาน และบางรายต้องทำงานบนท่อระบายน้ำด่านแยกคนตรัง – คนนครศรีฯ บนเส้นทางถนนสายรองเชื่อมต่อระหว่าง อ.รัษฎา,อ.วังวิเศษ และอ.ห้วยยอด ตามมาตรการปิดช่องทางเข้า – ออก ในพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อไม่ให้คนสัญจรไปมา โดยให้ไปใช้ทางบกที่ด่านคัดกรองหลัก 4 มุมเมือง พท.รอยต่อจ.ตรัง- พัทลุง-สตูล-กระบี่ และนครศรีฯเท่านั้น ทำให้บางรายต้องทำงานบนท่อระบายน้ำ เร่งต้องขนน้ำยางดิบจากฝั่ง อ.บางขัน มาขนถ่ายใส่รถฝั่งอ.ห้วยยอด เพื่อจะให้ทันส่งโรงงานในพื้นที่จ.ตรัง
วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 จากกรณีที่จังหวัดตรังได้ออกคำสั่งปิดเส้นทางเข้า – ออก ในพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 เมย.ที่ผ่านมา คงเหลือให้สามารถเข้าได้เฉพาะ 4 ด่านคัดกรองหลักที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเท่านั้น เช่น ด่านลิพัง อ.ปะเหลียน, ด่านช่อง อ.นาโยง ,ด่านควนกุน อ.สิเกา และด่านคลองปาง อ.รัษฎา ส่วนถนนสายรองทั้งหมด โดยเฉพาะถนนสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างตำบลต่างๆใน 3 อำเภอ คือ อ.วังวิเศษ , อ.ห้วยยอด และ อ.รัษฎา กับ อ.บางขัน จ.นครศรีฯ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ระบาดพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รับผิดชอบเร่งปิดตายเส้นทางสายรองดังกล่าวทั้งหมด ไม่ให้คนไปมาหาสู่กัน เพื่อป้องกันและควบคุมโรคไม่ให้คนนอกนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ จึงมีการนำท่อระบายน้ำไปวางขวางถนนเชื่อมรอยต่อระหว่างตำบลและ อ.บางขัน จ.นครศรีฯ จนกระทั่งรถจยย.และรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทั้งนี้ การใช้ท่อระบายน้ำปิดตายเส้นทางสายรองเชื่อมการเดินทางระหว่างชาวบ้านในพื้นที่รอยต่อดังกล่าว ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ไปกรีดยาง ทำสวนปาล์ม ไปทำงานที่อยู่ในพื้นที่รอยต่อดังกล่าว หรือเดินทางไปโรงพยาบาล หรือไปตลาดซื้ออาหาร ต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แต่ในหลักความจริงท่อระบายน้ำปิดตายเส้นทางสายรองทั้ง 3 อำเภอดังกล่าว ไม่สามารถทำให้ชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอ หยุดการเดินทางไปทำธุระ ทำมาหากิน หรือไปมาหาสู่กันได้ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการปิดเส้นทาง แต่ชาวบ้านยังดิ้นรนด้วยความจำเป็น ต้องเอาชีวิตรอด ต้องทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว คงใช้วิธีเดินเท้าลอดช่องว่างระหว่างท่อระบายน้ำ รวมทั้งนำรถจยย. รถยนต์ ไปจอดไว้ฝั่งตรงข้าม แล้วใช้วิธีต่อรถและเดินลอดช่องไปขึ้นอีกฝั่งไปทำธุระ โดยที่ด่านย่อย ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด ซึ่งมีท่อระบายน้ำปิดขวางปิดตายเส้นทางสัญจรเชื่อมระหว่าง ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด กับต.บ้านนิคม อ.บางขัน พบว่าชาวสวนยาง ซึ่งออกกรีดยางกลางดึก ก็ต้องใช้วิธีเดินเท้าไปกลับระยะทางไม่ต่ำกว่า 2-3 กม. และขนลูกหลานในครอบครัวไปด้วย เพื่อช่วยถือข้าวของเครื่องใช้จำเป็นกลับมา เพื่อให้พ่อสามารถแบกขนน้ำยางสดกลับบ้านมาขายเลี้ยงครอบครัวได้ และต้องยกรถเข็นข้ามผ่านด่านท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่น่าอนาถใจกับชะตากรรมของชาวบ้านที่ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ เช่นเดียวกับชาวสวนบางคนที่ต้องแบกปุ๋ยไปใส่บำรุงสวนยางก็ต้องใช้วิธีแบกและเดินเท้าเช่นกัน
ขณะเดียวกันพ่อค้ารับซื้อน้ำยางสด ซี่งปกติต้องใช้เส้นทางสายนี้ในการขนน้ำยางจากชาวสวนยางในพื้นที่ ต.บ้านนิคม อ.บางขัน และของชาวบ้าน ต.ห้วยนาง ต้องนำรถบรรทุกน้ำยางสดมาจอดบนสะพานตรงด่านปิดตายด้วยท่อระบายน้ำ โดยเจ้าของและคนงานต้องทำงานบนท่อระบายน้ำ ช่วยกันถ่ายน้ำยางดิบลงใส่กระบะ แล้วสูบด้วยเครื่องมอเตอร์ใส่รถบรรทุกอีกคัน และต้องทุ่นแรงด้วยรถโฟคลิฟท์ช่วยทำงาน ซึ่งเป็นไปอย่างทุลักทุเล และน่าอนาถใจเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของและคนงานต่างก็บอกว่า ต้องใช้วิธีนี้ เพราะหากจะขนน้ำยางดิบไปเข้าด่านคลองปาง อ.รัษฎา ระยะทางอ้อมและไกลมาก จะทำให้น้ำยางดิบเสียหายจับตัวเป็นก้อน นำไปส่งโรงงานที่อยู่ในอ.ห้วยยอด และอ.เมืองตรัง ไม่ทันเวลา จะทำให้น้ำยางดิบเสียหาย โดยขณะนี้ชาวสวนเพิ่งเปิดกรีดได้วันละประมาณ 6-7 ตัน แต่หากเปิดกรีดเต็มที่จะได้ประมาณ 50 ตัน/ วัน ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้เป็นอย่างมาก และต้นทุนก็เพิ่มสูงขึ้น และเสียเวลาเป็นอย่างมาก
ทางด้านตัวแทนชาวบ้าน (และคุณลุงสมศักดิ์ ศุภศรี อายุ 61 ปี ชาว ต.ห้วยนาง ) ต่างก็ร้องขอไปยังนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าฯตรังให้ช่วงลงมาดูทุกข์สุขของชาวบ้าน และช่วยเปิดด่าน ผ่อนปรนให้รถยนต์และรถจยย.ของชาวบ้านผ่านได้ โดยระบุว่า ด่านปิดตายนี้ไม่สามารถห้ามชาวบ้านไม่ให้ข้ามไปมาได้ โดยการใช้วิธีให้คนมาส่ง และนำรถมาจอดไว้อีกฝั่ง และบางคนก็เดินเท้า มาตรการห้ามคนไปมา ไม่ได้ผล แต่จะยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ต่างจะอดตาย ไม่มีเงิน ไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัวหรือจ่ายหนี้ พร้อมระบุว่า ชาว อ.บางขัน จ.นครศรีฯ หลายตำบลรู้เส้นทางในพื้นที่ ขณะนี้ด่านคลองปาง อ.รัษฎา คัดกรองเข้ม เขาก็ใช้วิธีเลี่ยงข้ามด่านสายรองตามตำบลต่างๆไปมาหาสู่กัน และไม่มีการคัดกรอง อาจเป็นผลทำให้คนติดเชื้อเล็ดลอดมาใช้เส้นทางนี้ได้ จึงร้องขอให้ทางจังหวัดผ่อนปรน เปิดให้รถไปมาได้ แต่ให้จัดคนมาประจำด่านเข้าเวรยามตลอด 24 ชม. เพื่อวัดไข้ และคัดกรองคน โดยให้คนที่ผ่านไปมาประจำผ่านได้ พร้อมตั้งคำถาม รัฐบาลยังผ่อนปรนมาตรการได้ ทำไมจังหวัดไม่มาดูความเดือดร้อน ผ่อนปรนให้ชาวบ้านบ้าง
ทางด้านนายจรัญ จบฤทธิ์ อายุ 37 ปี ชาว ต.ห้วยนาง ซึ่งเป็นพ่อค้ารับซื้อน้ำยางสด กล่าวว่า อยากเสนอแนะไปยังทุกจังหวัด่ รวมทั้งผู้ว่าฯตรังหากปิดเส้นทางเข้าออกระหว่างจังหวัด และเส้นทางสายรองเชื่อมต่อระหว่างตำบล อำเภอใกล้เคียง ให้ใช้วิธีเปิดเส้นทาง และด่านคัดกรอง ตำบลละ 1 เส้นทาง จัดเวรยามคัดกรองคน เพื่อให้ประชาชนทำมาหากินได้ และไม่กระทบปากท้องชาวบ้าน แต่ที่เป็นอยู่ขณะนี้เดือดร้อนกันอย่างมาก ในขณะที่ห้ามคนไม่ได้ ที่จะไม่ให้ไปมาหาสู่กัน แต่ชาวบ้านทำมาหากินกลับทำไม่ได้ เดือดร้อนกันอย่างหนัก
