สองหนุ่มทิ้งงานประจำ สู่นักล่ากุ้งแม่น้ำตรังส่งขายร้านอาหาร แม้สถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิดที่ร้านอาหารต้องปิดชั่วคราว แต่ก็ไม่กระทบทั้งคู่มากนัก เพราะสามารถส่งขายให้กับบุคคลทั่วไป และจัดเรือทัวร์ตกกุ้ง สร้างรายได้อย่างงาม
วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 นายชูพงษ์ เหล็กกล้า อายุ 43 ปี อดีตพนักงานโรงแรม อยู่บ้านเลขที่ 65/35 ถ.ห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง และ นายอรุณ คงสีทอง อายุ 35 ปี อดีตพนักงานห้างสรรพสินค้า อยู่บ้านเลขที่ 10/65 ถ.กันตัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง คู่หูนักตกกุ้งแห่งแม่น้ำตรัง ผู้ทิ้งงานประจำมาเป็นนักตกกุ้งแม่น้ำ ในแม่น้ำตรัง ทุก ๆวันทั้งคู่จะออกเดินทางด้วยเรือไฟเบอร์ ขนาด 3 ที่นั่ง ติดเครื่องยนต์ จากคลองช้าง ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นคลองสาขาของแม่น้ำตรัง สู่แม่น้ำตรัง เพื่อตกกุ้งก้ามกรามหรือกุ้งแม่น้ำธรรมชาติ โดยการตกกุ้งแต่ละวันมีช่วงเวลาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ได้แก่ ช่วงน้ำในแม่น้ำใสหรือช่วงหน้าแล้ง ต้องออกตกกุ้งในเวลากลางคืน , ช่วงน้ำในแม่น้ำขุ่น หรือหน้าฝน ต้องออกตกกุ้งในเวลากลางวัน การตกกุ้งช่วงกลางวัน แต่ละวันทั้งสองจะตกได้กุ้งแม่น้ำคละไซส์ ประมาณ 2-3 กิโลกรัม และจะนำกุ้งที่ได้ส่งขายให้กับลูกค้า ที่บางส่วนสั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊ก และ บางส่วนส่งขายให้ร้านอาหารในจังหวัดตรัง และร้านอาหารจังหวัดพัทลุง และจ.สงขลา เป็นต้น ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดทำให้ร้านอาหารต้องหยุดบริการชั่วคราว ทำให้ยอดการสั่งซื้อกุ้งหายไปด้วย แต่ยังมีลูกค้าทั่วไปสั่งซื้อเข้ามา เพื่อบริโภคในครัวเรือน ก็ยังทำให้มีไม่เพียงพอความต้องการ โดยราคาขายมีตั้งแต่กิโลกรัมละ 400 – 750 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวกุ้ง
นายชูพงษ์ เหล็กกล้า กล่าวว่า เดิมตนเป็นคนจังหวัดกรุงเทพฯ และแต่งงานกับภรรยาซึ่งเป็นชาวจังหวัดตรัง ได้ย้ายมาทำงานเป็นพนักงานโรงแรมในจังหวัดตรัง ระหว่างทำงานที่ตรังมีโอกาสออกเรือไปตามแม่น้ำตรัง เพื่อตกกุ้งแม่น้ำ เพราะตนมีความสามารถ และชื่นชอบการตกกุ้งแม่น้ำมาก่อน จากการออกทริปตกกุ้งกับเพื่อน ๆ ในแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อคราวตนอยู่กรุงเทพฯ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
เมื่อเริ่มตกกุ้งในแม่น้ำตรัง ได้มีโอกาสรู้จักกับอรุณฯ ซึ่งชอบตกกุ้งเหมือนกัน และชักชวนกันตกกุ้งเป็นงานอดิเรก หารายได้เสริมให้ครอบครัว และเมื่อ 5 ปี ก่อน ตนตัดสินในลาออกจากงานประจำมาตกกุ้งอย่างจริงจัง ยึดเป็นอายุชีพเลี้ยงครอบครัว ซึ่งสร้างรายได้วันละ 1,000 – 1,500 บาทต่อวันต่อคน และบางวันยังได้ปลาตัวใหญ่ๆติดไม้ติดมือมาด้วย โดยเฉพาะปลากดสีทองตัวเหลืองอร่าม
นอกจากจะมีรายได้จากขายกุ้งแม่น้ำ ทั้งคู่ยังมีรายได้จากการจัดทริปตกกุ้งสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้สนใจ ในราคา 1,300 บาทต่อวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.หรือใช้เวลาน้อยกว่านั้นก็ได้ โดยจะตกไปด้วย ย่างหรือเผากุ้งรับประทานไปด้วยก็ได้ดังในภาพ โดยเมื่อลงเรือไปตกกุ้ง นักท่องเที่ยวจะได้รับกุ้งทั้งหมดที่ตกได้ กลับไปรับประทานที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม สำหรับกุ้งแม่น้ำตรัง มีลักษณะเด่นคือ เนื้อแน่น เนื้อเด้ง มันสีเข้ม มีตัวเนื้อมีรสชาติเข้มข้นมีความมันในตัว จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและร้านอาหารทั่วไปอย่างมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: