คุณยายเมืองย่านตาขาวจังหวัตรัง เดินคอตก หลังนำนำบัตรเอทีเอ็มธนาคารออมสินไปกดเงินเยียวยา 5 พัน แต่ไม่มียอดเงิน สมุดเงินฝากปรับพบว่ามีการกดเงินออกเกลี้ยง 5 พันบาท เร่งขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาคนกดเงิน ด้านผู้จัดการออมสิน สาขาย่านตาขาว ชี้แจงยืนยันไม่มีการบังคับ หรือยัดเยียดลูกค้าทำบัตรเอทีเอ็มราคาแพงใบละ 699 บาท แต่พนักงานได้ชี้แจงในผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ทำให้ลูกค้าพอใจ จึงยอมสมัครทำบัตรเอทีเอ็ม แต่มาถึงเวลานี้หากใครจะคืนบัตรเอทีเอ็มก็สามารถมาทำเรื่องคืนได้
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่หน้าบริเวณธนาคารออมสิน สาขาอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง พบว่า มีชาวบ้านแห่ไปถอนและกดเงินเยียวยาที่รัฐบาลให้ 5,000 บาท และยื่นเรื่องขอกู้เงินฉุกเฉินจำนวน 10,000 บาท และ 50,000 บาท กันเป็นจำนวนมาก โดยที่ทางธนาคารจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้วยการจัดแถวและที่นั่งให้ห่างตามระเบียบการจัดระยะห่างทางสังคม พร้อมทั้งให้ผู้มาใช้บริการทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศหน้าธนาคารมีผู้ใช้บริการยืนรอคิวเพื่อกดเงินจากตู้เอทีเอ็มกันเป็นจำนวนมาก
ขณะที่นางละมุล ศรีวุ่น อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่1 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กล่าวว่า วันนี้ตนและลูกชายเดินทางมาธนาคารเพื่อมากดเงินที่รัฐบาลโอนเข้าบัญชี 5,000 บาท โดยให้ลูกชายกดปรากฏว่าเงินไม่ออกจากนั้นจึงนำสมุดเงินฝากมาปรับปรากฎว่าเงินถูกกดออกไปเมื่อวันที่12 พฤษภาคม โดยเงินโอนเข้าวันที่11 พฤษภาคม ตนจึงได้รับความเดือดร้อนมากเพราะต้องนำเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้านที่ค้างมาหลายเดือนแล้ว สอบถามลูกสาวว่าได้กดเงินไปหรือไม่ลูกสาวบอกว่าไม่ได้กด จากนั้นคุณยายละมุนจึงเดินทางเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินให้ช่วยตรวจสอบบัญชีให้
อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีปัญหาชาวบ้านซึ่งเป็นลูกค้าธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาวได้ร้องเรียนก่อนหน้านี้ว่า นำสมุดบัญชีเงินฝากไปถอนเงินเยียวยาของรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาท และถอนเงินฝากส่วนโดยใช้สมุดเงินฝากแต่ถูกเจ้าหน้าที่ยัดเยียดให้ทำบัตรเอทีเอ็ม ราคาบัตรละ 699 บาท ด้วยวิธีหักเงินออกจากบัญชี ทั้งๆที่ชาวบ้านไม่ยินยอม จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์นางวรรณา ภักดีไทย ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตามปกติลูกค้าที่เข้ามาติดต่อทำธุรกรรมกับทางธนาคารในขณะนี้ มีเป็นจำนวนมาก ทั้งรับเงินเยียวยา ,ทำธุรกรรมกู้ฉุกเฉิน และลูกค้าทั่วไป ทางธนาคารจึงต้องบริหารจัดการ ให้ลูกค้ารับบัตรคิว จัดระยะห่าง และขณะนี้ปรับเวลาบริการเป็น 09.00 – 15.00 น. จึงต้องทำงานแข่งกับเวลา และจัดแบ่งงานบริการ เช่น ลูกค้าเปิดบัญชีใหม่วันละ 50 คิว ลูกค้าทั่วไปวันละ 100 – 150 คิว แต่หากมีมากกว่านี้ก็ต้องทำเหลือเวลากันไป และรับลูกค้าตามมาตรการวันละ 70 คิว ส่วนกรณีที่ลูกค้าทำบัตรเอทีเอ็ม 699 บาท โดยที่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการฝากถอน ธนาคารจะมีการแนะนำให้ฝากถอนไปตามปกติ พร้อมกับแนะนำให้ทำบัตรเอทีเอ็ม เพื่อความสะดวกในการถอนเงิน ไม่ต้องมาเข้าคิวรับบริการ และลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นประชาชนทั่วไปที่ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงแนะทำให้หากทำบัตรเอทีเอ็มในราคา 699 บาท เพื่อความสะดวกในการกดเงิน และจะได้ประกันอุบัติเหตุด้วยวงเงิน 100,000 บาท เข้ารับการรักษากรณีเกิดอุบัติเหตุได้ครั้งละ 5,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และจะได้เงินค่าเสียเวลาคืน 500 บาท จึงทำให้ลูกค้าพอใจ จึงสมัครใจทำบัตรเอทีเอ็ม ยืนยันไม่มีการบังคับหรือยัดเยียดให้ประชาชนทำแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าที่ทำบัตรเอทีเอ็มชนิด 699 บาท ต้องการจะคืนบัตรก็สามารถมาทำเรื่องได้ แต่จะถูกหักเงินค่าธรรมเนียมประกันวันละ 1.90 บาท เพราะหลังจากมีการทำบัตรไปแล้ว ประกันอุบัติเหตุก็จะเริ่มทำงานทันที และหากลูกค้าเก็บไว้หากครบกำหนด 1 ปี ไม่ต้องต่อค่าธรรมเนียมบัตร 599 บาท บัตรก็จะหมดอายุโดยอัตโนมัติ และขอยืนยันว่าทางธนาคารไม่ได้มีการบังคับหรือยัดเยียดให้ลูกค้าทำบัตรเอทีเอ็มแต่อย่างใด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: