ผู้บริหารโรงเรียนขนาดใหญ่ จ.ตรัง เห็นด้วยรัฐบาลจะผ่อนปรนมาตรการให้เรียนเต็มรูปแบบ เนื่องจากเป็นความต้องการทั้งของครู ผู้ปกครองและนักเรียน เพื่อคุณภาพการศึกษาที่ดี แต่หากเปิดแล้วยังกำหนดให้มีระยะห่างห้องละไม่เกิน 25 คน จะทำให้เกือบทุกโรงเรียนประสบปัญหาเดียวกันคือ ห้องเรียนไม่พอ เพราะต้องหาอีกห้องเรียนเพิ่มอีก 1 เท่าตัว จึงเสนอแนะให้เปิดเต็มรูปแบบตามจำนวนนักเรียนที่มีในห้องเรียน โดยทางโรงเรียนจะบริหารจัดการเอง ด้วยการกำหนดเป็นห้องเรียนประจำ ไม่มีการเปลี่ยนห้องเรียนรายวิชา เพื่อลดปัญหานักเรียนไปมาหาสู่กัน หรือพบปะกันระหว่างอยู่ภายในโรงเรียน เชื่อมั่นว่าทางโรงเรียนสามารถจัดการได้
วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่โรงเรียนสภาราชินี ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นางสาวนวลจันทร์ ช่องดารากุล รองผู้อำนวยการกลุ่มบริการงานวิชาการ พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการกลุ่มงานต่างๆ นำผู้สื่อข่าวสังเกตุบรรยากาศการเรียนการสอนภายในห้องเรียนต่างๆ แบบ New Normal ในยุคโควิด-19 ซึ่งพบว่าบริเวณหน้าห้องเรียนเต็มไปด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ที่เหลือจากจำนวนนักเรียนที่มีได้ในแต่ละห้องเรียน ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม คือ สลับกันมาเรียน และจำกัดจำนนห้องเรียนละประมาณ 20 – 23 คนเท่านั้น นั่งเรียนในห้องเรียนประจำของตนเอง และนักเรียนทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน และห้องเรียน
โดยนางสาวนวลจันทร์ ช่องดารากุล รองผู้อำนวยการกลุ่มบริการงานวิชาการ กล่าวว่า ในภายหลังจากรัฐบาลมีแนวคิดที่จะให้โรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ ทางโรงเรียนก็มีความพร้อมในการจัดการเรียนรู้มาตลอดอย่างเข้มงวดตั้งแต่เปิดเทอม โดยการเรียนสลับวันระหว่างเรียนประจำห้อง และเรียนระบบออนไลน์อยู่กับบ้าน และเมื่อมาถึงเวลานี้หากรัฐมีนโยบายจะให้เปิดเรียนตามปกติ แต่จำกัดจำนวนนักเรียนด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคมห้องละ 20 – 25 คน เหมือนเดิม โรงเรียนก็จะประสบปัญหาเรื่องจำนวนห้องเรียนทันที เนื่องจากโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 2,855 คน มีห้องเรียนทั้งหมด 77 ห้องเรียน หากต้องเพิ่มจำนวนห้องเรียนอีก 1 เท่าตัว ทางโรงเรียนไม่มีห้องเรียนสำหรับรองรับ และเชื่อว่าหากใช้วิธีนี้จะต้องเป็นปัญหาใหญ่ของโรงเรียนเกือบทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่นักเรียนมีสูงสุดไม่เกิน 45 คนต่อห้อง แต่สำหรับโรงเรียนสภาราชินี 1 มีห้องเรียนพิเศษต่างๆที่หลากหลาย บางห้องเรียนมีประมาณ 30 คน หรือ 40 คน แต่ส่วนใหญ่ห้องละ 45 คน ดังนั้น หากจะต้องจัดห้องเรียนเพิ่ม เพื่อให้นักเรียนมาพร้อมกันทั้งหมดแต่จำกัดห้องละไม่เกิน 25 คน ทางโรงเรียนจะไม่มีห้องเรียนเพียงพอ เพราะขณะนี้ก็ใช้หมดทุกห้องรวมทั้งห้องประชุมเล็ก ก็นำมาจัดเป็นห้องเรียน
นอกจากนั้นหากกลับมาเปิดเรียนเต็มรูปแบบพร้อมกันทั้งหมด แม้จังหวัดตรังจะเป็นจังหวัดสีเขียวมานานมากแล้ว และในประเทศก็ไม่มีการระบาด จะมีก็ที่มาจากต่างประเทศ ทางโรงเรียนก็ยังรู้สึกกังวล แต่ทางโรงเรียนก็พร้อมให้ความรู้กับนักเรียนในกรณีที่นักเรียนมีญาติมาจากต่างจังหวัด หรือพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะต่างประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดูแลกันเองได้แน่นอน แต่สิ่งที่กังวลใจมากที่สุดคือ เรื่องคุณภาพของผู้เรียน การเรียนรู้ ที่มีเด็กบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ได้มากกว่า ทั้งนี้ ผู้ปกครอง และนักเรียนก็เรียกร้องให้เปิดเรียนเต็มรูปแบบตามปกติ ซึ่งทางโรงเรียนก็เห็นด้วย ส่วนข้อเสนอแนะที่จะมีไปถึงรัฐบาลคือ อยากให้รัฐบาลฟังความคิดเห็นของผู้ปกครอง และนักเรียน ซึ่งโรงเรียนอยู่ใกล้ชิดทั้งผู้ปกครองและนักเรียน จะได้คำตอบเดียวกันคือ อยากให้เปิดการเรียนการสอนตามปกติ แต่ในมาตรการอื่นๆทางโรงเรียนยินดี และมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ยกเว้นจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนที่ต้องออกแบบตารางสอนใหม่ โดยทุกวันนี้ก็ใช้วิธีการเรียนในห้องเรียนประจำ ไม่มีการเดินเปลี่ยนห้องเรียนตามรายวิชาเรียน ถ้าหากรัฐสามารถอนุญาตให้มีจำนวนนักเรียนได้ตามปกติ ทางโรงเรียนก็มีห้องเรียนประจำรองรับอยู่ โดยลดการแออัด และการพบปะกัน โดยการลดการเคลื่อนที่ของนักเรียนให้น้อยที่สุด จึงให้อยู่ประจำห้อง โดยให้ครูผู้สอนเป็นฝ่ายไปหา
8 Attachments
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: