กรมชลประทานเร่งก่อสร้างคลองผันน้ำแม่น้ำตรัง หลังผู้รับเหมาทิ้งงานโดยยืนยันขณะนี้พร้อมรับมือน้ำหลาก หลังการก่อสร้างในปีงบประมาณ 2563 เร่งดำเนินการขุดลอกคลองสร้างประตูระบายน้ำ และสร้างสะพานแบริ่ง ให้รองรับการระบายน้ำได้ประมาณ 300 ลบ.ม./วินาทีได้แล้วเสร็จตามเป้า ส่วนโครงการทั้งระบบจะแล้วในปี 2564 อย่างแน่นอน พร้อมกำลังเสนอชื่อผู้รับจ้างรายเดิมเป็นผู้ทิ้งงานราชการ และเตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
วันที่ 22 กันยายน 2563 นายอนัฎ สุขลังการ นายช่างโยธาอาวุโส หัวหน้าฝ่ายโครงการควบคุมก่อสร้าง สำนักงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ 11 (สงขลา) นำผู้สื่อข่าวดูความคืบหน้าโครงการขุดคลองผันน้ำแม่น้ำตรังโดยการขุดคลอง – ผันน้ำท้องคลองกว้าง 102 เมตร ยาว 7.55 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอเมืองตรัง ประกอบด้วย ต.หนองตรุด,ต.นาตาล่วง และต.บางรัก และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในยามหน้าแล้งด้ว ทั้งนี้ กรมชลประทาน โดยสำนักงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่11 (สงขลา) เป็นผู้เข้ามาดำเนินโครงการด้วยตนเอง ต่อจากบริษัทสยามพันธุ์วัฒนา จำกัด ผู้รับจ้างรายเดิมที่ทำงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นผู้ทิ้งงานราชการ และกรมชลประทานได้บอกเลิกสัญญาไปตั้งแต่ปลายปี 2562
ทั้งนี้ นายอนัฎ กล่าวว่า หลังจากผู้รับจ้างรายเดิมทิ้งงาน และทางกรมชลประทานได้บอกเลิกสัญญาจ้างไปแล้ว เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา และต่อมาทางกรมชลประทานเป็นผู้รับผิดชอบโครงการเองด้วยงบประมาณก่อสร้างรวมกว่า 900 ล้านบาท แต่เชื่อว่าก่อสร้างจริงน่าจะใช้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2563 นี้ ทางกรมชลประทานอนุมัติงบประมาณมาให้ดำเนินการในส่วนของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รองรับปัญหาน้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นในปี2563 นี้ โดยได้รับงบประมาณมา2 ส่วน คือ ส่วนแรก จำนวน 59 ล้านบาท สำหรับการขุดลอกคลอง และการก่อสร้างอาคารประตูระบายน้ำ ซึ่งกำลังจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ และส่วนที่ 2 จำนวนเงิน 35 ล้านบาท เพื่อสำหรับการก่อสร้างสะพานแบริ่ง เชื่อมระหว่างหมู่บ้านในตำบลหนองตรุด ขณะนี้ดำเนินการได้แล้วเสร็จ พร้อมรับปริมาณน้ำหลากได้ตามเป้าหมายคือ จำนวน 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจากเป้าหมายประมาณ 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ลดปริมาณน้ำในแม่น้ำตรังไม่ให้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ต.หนองตรุด ,ต.นาตาล่วง และต.บางรัก ขณะเดียวกันชาวบ้านก็จะได้สัญจรไปมาได้ตามปกติ ส่วนงานโครงการทั้งระบบขณะนี้ดำเนินการคืบหน้าไปแล้วประมาณ 27% โดยกำหนดแล้วเสร็จอย่างแน่นอนในปีงบประมาณ 2564 และยืนยันว่า ขณะนี้คลองผันน้ำแม่น้ำตรังซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ พร้อมรับมือน้ำท่วม หากเกิดพายุฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำหลากในพื้นที่ ก็พร้อมรับมือระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ตามแผนแล้ว โดยประชาชนไม่ต้องกังวล
ทางด้านนายรุทร์ อินนุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 (สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์) กล่าวถึง การดำเนินการเอาผิดกับ บริษัทสยามพันธุ์วัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับจ้างรายเดิมที่ทิ้งงานและถูกกรมชลประทานบอกเลิกสัญญาไปนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอชื่อบริษัทดังกล่าวให้เป็นผู้ทิ้งงานราชการ หลังจากนั้นเมื่อโครงการขุดคลองผันน้ำแม่น้ำตรัง ดำเนินการได้แล้วเสร็จตามสัญญาปี 2564 ทางกรมชลประทานก็จะคำนวณความเสียหาย เพื่อฟ้องร้องเอาผิดและเรียกค่าเสียหายจากบริษัทดังกล่าวแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุมูลค่าความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวของบริษัทได้ ต้องรอให้โครงการแล้วเสร็จเสียก่อน
