พี่ ม.3 ยกพานธูปเทียนแพ ขอโทษผู้ปกครองน้องป.2 โดยแม่หลั่งน้ำตารับคำขอโทษ หลังผู้ว่าฯตรัง ส่งผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เป็นคนกลางแก้ปัญหาความขัดแย้ง หลังโรงเรียนปัดความรับผิดชอบ โดยระบุเหตุแค่เกิดในโรงเรียนๆ ไม่ต้องรับผิดชอบ เป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกัน และพูดจาไม่ดีใส่ผู้ปกครองน้องป.2 และศึกษาธิการจังหวัดตรัง ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จนผู้ปกครองน้องป.2 ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่ เดือดร้อนทางผู้ว่าฯส่งตัวแทน แก้ปัญหา หวั่นบานปลายขึ้นโรงขึ้นศาล โดยพี่ ม.3 ขอขมาแม่น้องป.2 พร้อมเยียวยาสภาพจิตใจ 10,000 บาท และทางโรงเรียนยอมกล่าวคำขอโทษ ด้านแม่หลั่งน้ำตา พอใจยอมรับคำขอโทษ และเดินทางเข้าถอนแจ้งความในทันที เพื่อยุติปัญหา
วันที่ 22 ตุลาคม 2563 จากกรณีเกิดเหตุนักเรียนชั้น ป.2 อายุ 8 ขวบ ประจำโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในอ.ย่านตาขาว ที่ถูกรุ่นพี่ ม.3 ทำร้ายร่างกายด้วยกับตบตีจนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ศีรษะ หลังมือ และกลางหลัง เหตุเพราะน้อง ป.2 ล้อเลียนพี่ ม.3 ว่าเป็น “กะเทย”เหตุเกิดภายในโรงเรียนวันที่ 2 กันยายน 2563 ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุรุ่งขึ้นวันที่ 3 กันยายน ทางครอบครัวได้พยายามติดต่อกับทางโรงเรียน เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางโรงเรียนบอกว่าได้ แต่ไม่ยอมให้ดู จนกระทั่งมาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ปกครองขอดูภาพวงจรปิดอีก แต่ทางโรงเรียนระบุว่าภาพไม่มีแล้ว เพราะถูกบันทึกซ้ำไปแล้ว และได้รับคำพูดที่ไม่ดีจากปากผู้บริหารโรงเรียน จนต้องย้ายลูกออกจากโรงเรียนดังกล่าว และเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม ทั้งจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จนสุดท้ายผู้ปกครองนักเรียน ป.2 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่ ม.3 ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.ย่านตาขาว เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง นายปราโมทย์ เกี่ยวพันธ์ ศึกษาธิการจังหวัดตรัง ได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนวัดนิกรรังสฤษฎ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนในอ.ย่านตาขาว นำโดยนายอำนวย เชยชื่นจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ผู้บริหารโรงเรียนคนอื่นๆ ผู้ปกครองนักเรียนพี่ ม.3 คู่กรณี และนางวรรดี ณ พัทลุง แม่น้อง ป.2 เพื่อหวังไกล่เกลี่ยปัญหา เพราะหวั่นคดีจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ทั้งนี้ หลังนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ทราบเรื่อง ซึ่งเกรงว่าการเจรจาระหว่าง 3 ฝ่าย โดยมีศึกษาธิการจังหวัดตรัง เป็นคนกลาง จะไม่สำเร็จเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริหารโรงเรียนบางคนแข็งกร้าว ไม่ยอมให้โรงเรียนขอโทษ และไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ในนามโรงเรียนเหมือนเช่นเคย จนทำให้เรื่องราวลุกลามบานปลายเหมือนที่ผ่านมา จึงได้มอบหมายให้ นายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง พร้อมด้วยฝ่ายนิติกร เป็นตัวแทนผู้ว่าฯ เข้าเป็นคนกลางแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยตนเอง ร่วมกับศึกษาธิการจังหวัดตรัง โดยเรียกคนที่เกี่ยวข้องที่สุดเท่านั้น เข้าร่วมวงเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหา แต่ไม่วายที่ผู้บริหารบางคนของโรงเรียนที่เข้าร่วมเจรจาด้วย พูดจาแข็งกร้าวเหมือนเดิม จนนายภานุวัฒน์ต้องใช้อำนาจไม่ให้แสดงความคิดเห็น เพราะไม่มีอำนาจสูงสุดของโรงเรียน ท้ายที่สุด ก็สามารถตกลงกันได้ โดยผู้ปกครองของพี่ ม.3 จ่ายค่าทำขวัญให้ครอบครัวจำนวนเงิน 10,000 บาท พร้อมกับกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากผู้ปกครองรุ่นพี่ และคำขอโทษจากทางโรงเรียน โดยทางคุณแม่น้อง ป.2 ก็ยอมรับคำขอโทษ โดยกล่าวว่า น้าขอให้อภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้ข้อคิดรุ่นพี่ม. 3 ว่า ให้รู้จักควบคุมอารมณ์ มีสติ เพื่อจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีอนาคตที่สดใส หากวันข้างหน้าเจอเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกว่านี้ ให้ใช้สติและนึกถึงพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ก่อนการตัดสินใจ ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน อย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินและแก้ไขปัญหา พร้อมกล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ที่มีส่วนร่วมหาข้อสรุปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้คุณแม่ไม่ได้ติดใจอะไร และยอมรับการขอขมาแล้ว
นายปราโมทย์ เกี่ยวพันธ์ ศึกษาธิการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากกรณีที่พี่ม.3 ทำร้ายร่างกายน้องป 2 วันนี้ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ได้เชิญผู้ปกครองของรุ่นพี่ม.3 ผู้ปกครองของรุ่นน้องป.2 และตัวแทนโรงเรียน โดยมีศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง ทำหน้าที่เป็นผู้ประสาน วันนี้ได้รับความร่วมมือด้วยดีทุกฝ่ายมีความเข้าใจกันและให้อภัยกัน ทางรุ่นพี่ม.3 และผู้ปกครองของรุ่นพี่ม. 3 ขอโทษคุณแม่น้องป. 2 ทางโรงเรียน โดยรองผู้อำนวยการโรงเรียนได้ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับครอบครัวน้องป. 2 โดยคุณแม่ของน้องป 2 ยอมรับคำขอโทษ และทุกคนต้องอยู่ร่วมกันในสังคม สำหรับเรื่องค่าทำขวัญผู้ปกครองของนักเรียนม 3 ได้จ่ายค่าทำขวัญตามสมควรตามสภาพ ทั้งนี้คุณแม่น้องป 2 น้อมรับคำขอโทษและค่าทำขวัญ ทางศึกษาธิการให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ตลอดทั้งโรงเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยดี
ข่าวน่าสนใจ:
- ไร้ปาฏิหาริย์ สิ้น “อ.สุนทรี สังข์อยุทธ์” อดีตหัวหน้าหอจม.เหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ กวีซีไรต์ “จิระนันท์ พิตรปรีชา” โพสต์อาลัย
- ตรัง ชนสนั่น! เก๋งปะทะกระบะ ถนนตรัง-สตูล ดับ 2 เจ็บอีก 9 ราย
- ตรัง ชาวบ้านร้องตรวจสอบทน.ตรังทำถนนรวดเดียว 65 สาย วิจารณ์หนักเปลืองงบประมาณ
- เที่ยวชมฟรี งานวันเด็ก กองบิน 7 โชว์เครื่องบินขับไล่กริพเพน
ทางด้านคุณป้า รุ่นพี่ ม.3 กล่าวว่า ดีใจที่ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน เด็กทั้งสองฝ่ายได้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น โดยเรื่องนี้ ความจริงโรงเรียนมีส่วนต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรง เพราะเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในโรงเรียนไม่ได้เกิดที่บ้าน วันนี้รู้สึกมีความสุขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมฝากไปถึงโรงเรียนว่า สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ สภาพจิตใจของเด็ก เพราะเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่ทราบสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก ขาดความไต่ตรอง ขาดความรอบคอบ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ฝ่ายรุ่นพี่ ม. 3 ถูกรุ่นน้องล้อเลียนมายาวนานนับเดือน และได้ไปบอกกับคุณครูประจำชั้น ทางโรงเรียนเมื่อทราบเรื่อง ควรมีมาตรการป้องกัน เช่น การคาดโทษหรือการตักเตือน ตามที่โรงเรียนเห็นสมควร โรงเรียนต้องรับผิดชอบเบื้องต้น อย่ากล่าวโทษว่าใครผิดใครถูก เพราะเด็กยังไม่รู้ว่าอะไรสมควรหรือไม่สมควร เรื่องที่เกิดขึ้นโรงเรียนควรให้จบที่โรงเรียน ไม่ควรปล่อยให้เวลายืดยาวจนกระทบจิตใจทั้งสองฝ่าย กระทบความรู้สึกของทุกฝ่าย ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันแก้ปัญหาจนนำมาสู่การเข้าใจซึ่งกันและกัน คุณแม่น้องม 3 พอใจที่ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน เด็กทั้งสองฝ่ายได้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันแก้ปัญหาจนนำมาสู่การเข้าใจซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากพูดคุยตกลงปัญหากันได้ ทางนางวรรดี ณ พัทลุง คุณแม่น้อง ป.2 อายุ 8 ขวบ ได้เดินทางไปที่ สภ.ย่านตาขาว เข้าพบกับ พ.ต.ท.สาโรจน์ ช่องรักษ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เพื่อถอนแจ้งความในทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: