ผู้สมัคร ส.อบจ.ตรัง ทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง โร่พบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง หลังถูกผู้ไม่หวังดีมาพบพูดจาในลักษณะไม่หวังดีข่มขู่ให้ถอนตัวเลือกตั้ง อ้างอดีตกำนันชื่อดังเมือง หวั่นไม่ปลอดภัยครอบครัวเป็นห่วงจึงลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน และแจ้งต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังแล้ว ด้านผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง สั่งนำตู้แดงไปติดหน้าบ้าน และจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยสอดส่อง พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว โทรหาได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันยังพบการทำลายป้ายหาเสียง ของผู้สมัครนายกอบจ.ตรัง ทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง อย่างต่อเนื่อง
วันที่ 9 ธันวาคม 2563 นายภวัต รักษศรี(ลูกหมา) อายุ 46 ปีอยู่บ้านเลขที่ 42/1ถบางรัก ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.ตรัง) เขต3 อ.เมืองตรัง หมายเลข 3 ทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง เจ้าของสโลแกนหาเสียง “ อย่าทุ่มลูกหมา ขอลูกหมาเข้าไปเฝ้าปลาย่าง “ พร้อมทีมงาน เดินทางไปที่ สภ.เมืองตรัง อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.จำรูญ สังขารา พนักงานสอบสวน เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งให้เป็นข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เพื่อใช้ในการตรวจสอบหาข่าว และเข้าพบ พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง เพื่อขอความมั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีมาพูดจาในลักษณะปองร้าย เพื่อให้ถอนตัวจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์กาารบริหารส่วนจังหวัดตรัง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปที่ สภ.เมืองตรัง ทางทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังด้วย
นายภวัต บอกว่า ขณะที่ตนพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 75 ถท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าขายบะหมี่ ได้มีชายอายุประมาณ 50 ปี และหญิงอีกคน อายุประมาณ 40 ปี ได้มาพูดในลักษณะข่มหรือปองร้าย โดยเริ่มจากทั้ง 2 คน ได้เดินเข้ามาที่ร้าน จากนั้นได้สั่งอาหาร คือ ก๋วยเตี๋ยว 2 ชาม จากนั้นชายคนที่มาด้วย ทำทีเป็นสอบถาม และชวนคุยเรื่องการเมืองท้องถิ่น โดยเริ่มจากการเมืองเทศบาลนครตรัง และวกกลับมาที่การเลือกตั้ง อบจ.ตรัง ในครั้งนี้ แต่จากนั้น ก็พูดกับตน ถามว่าลงสมัคร ส.อบจ.แบบนี้ ไม่กลัวหรือ ตนเองก็บอกว่า ไม่ได้กลัวอะไร เพราะไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ตนตั้งใจเข้าไปทำด้านกีฬา เพราะตนมีความถนัดด้านกีฬา และเป็นผู้ฝึกสอนกีฬา ของจังหวัดมาก่อน จึงตั้งใจจะเข้าไปทำงานด้านส่งเสริมกีฬา และชายคนดังกล่าวยังพูดว่า “ไม่กลัวอดีตกำนันคนดังหรือมีลูกน้องมากมาย ลูกน้องพร้อมที่จะทำงานให้แก ผมคนวงในเคยเห็นมาแล้ว” ทั้งนี้ ชายและหญิงคนดังกล่าวมานั่งกินก๋วยเตี้ยว และบะหมี่ อย่างละถ้วยโดยไม่ทันหมดก่อนที่จะออกไป
นายภวัต กล่าวว่า บางทีคนมาบอกอาจประสงค์ดี หรือ มาแบบนอกคำสั่ง ตรังมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ต้องขอให้คนข้างบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล คนแปลกหน้า โดยเฉพาะช่วงนี้ และส่วนตัวเชื่อสุจริตใจ คนที่ถูกชายคนดังกล่าว นำมากล่าวอ้าวพาดพิงถึง ไม่เกี่ยวข้อง เพราะไม่ใช่ผู้สมัคร หรือคู่แข่งขัน และเท่าที่เห็นในยุคในผ่านมาบุคคลดังกล่าว ไม่เคยยุ่งเรื่องการเมืองท้องถิ่น และคำพูดนี้โดยส่วนตัวไม่หวั่นไหว ตนเองทำงานสุจริตค้าขายและเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาบาสเก็ตบอลอยู่กับเด็กๆ อย่างไรก็ตาม ตัดสินใจทำการเมืองให้สุจริตและช่วยบ้านเมืองช่วยตรังให้เจริญขึ้น ที่สำคัญครอบครัวเป็นห่วง กลัว และหวั่นไหวอยากให้หยุดเล่นการเมืองทันที จึงเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- นายก อบจ.ลำปาง ร่วมงาน Lampang Proud : เทศกาลกินดีลำปาง ส่งเสริมและสนับสนุนแนวคิดท้องถิ่นนิยม
- นายก อบจ.ลำปาง เปิดสะพานข้ามแม่น้ำตุ๋ย อำนวยความสะดวกการสัญจรของชาวบ้าน
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
ทางด้าน พล.ต.ต.สานิตย์ พลเพชร ผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง หลังรับฟังเรื่องราว ได้รับปากพร้อมจะดูแลความปลอดภัยให้ความมั่นใจกับนายภวัต อย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้น สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำตู้อุ่นใจ (ตู้แดง) เข้าไปติดไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ทางตำรวจได้เข้าไปลาดตระเวนและสอดส่องให้ พร้อมให้เบอร์มือถือส่วนตัวสามารถโทรหาได้ตลอดเวลา และจะให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว เก็บข้อมูลหลักฐาน เพื่อตรวจสอบประวัติบุคคล และตรวจสอบประวัติ
นอกจากนั้น พบว่ายังมีการทำลายป้ายหาเสียงของนายสาธร วงศ์หนองเตย ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกอบจ.ตรัง หมายเลข 2 ทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด พบถูกทำลายอีก 2 ป้าย โดยป้ายที่ 1 เกิดขึ้นที่บริเวณหลังวัดกุฎิยาราม (วัดกุฎใน) โดยป้ายถูกผู้ไม่ประสงค์ดีถีบจนหัก และล้มลงนอนกับพื้น และได้มีการกรีดป้ายหายไปทั้งแผน เหลือเพียงโครงไม้ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และ ป้ายที่ 2 เกิดขึ้นริมถนนสายบ้านหาดยาว – หยงหลิง ต.บางสัก อ.กันตัง พบป้ายถูกกรีดที่ใบหน้าติดลำตัว และที่เบอร์ผู้สมัคร และก่อนหน้านี้ บางป้ายถูกกรีดเฉพาะเบอร์ผู้สมัครหายไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: