X

ตรัง – เลือกตั้ง อบจ.ล้มเหลวควรทบทวนบทบาทกกต.

“สาทิตย์” ชี้การเลือกตั้ง อบจ.ล้มเหลว สมควรทบทวนบทกกต.ทั้งระบบ ทั้ง กกต.กลาง,กกต.จังหวัดและ กกต.ท้องถิ่น และอาจต้องยุบ โดยตั้งหน่วยงานใหม่ทำงานแทน

วันที่ 20 ธันวาคม 2563 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมุมมองการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้ว่า การเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หลังว่างเว้นการเลือกตั้งมานานถึง 8 ปี ซึ่งถือว่านานมากที่ไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงถือว่าจะต้องเป็นโมเดลหรือรูปแบบของการจัดการเลือกตั้งอบต.และเทศบาล ที่ใกล้จะถึงนี้ด้วย แต่เมื่อดูภาพรวมการจัดการเลี้ยงตั้งเท่าที่สังเกตการณ์มา 40 กว่าวัน คิดว่าน่าผิดหวังมาก การเลือกตั้งครั้งนี้มีเวลาเตรียมการค่อนข้างนาน ตลอดทั้งมีกฎหมาย กฎระเบียบมารองรับค่อนข้างพร้อม แต่การลงปฏิบัติจริงกลับมีปัญหาเยอะ ทั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ 1. ด้านการประสัมพันธ์การเลือกตั้งต้องถือว่าสอบตก ซึ่ง กกต.อปท.ประจำจังหวัดควรที่จะประชาสัมพันธ์ผ่านการประสานเครือข่ายผวจ.,อปท.,หรืออื่นๆ แต่กลับไม่ได้ทำ และมีความหวาดระแวง อบต. หรือ เทศบาล หากดึงมาทำงานด้วยเกรงกลัวว่าจะมีการแอบแฝงหาเสียง จึงส่งผลการกลไกลการประชาสัมพันธ์ทำให้อ่อนด้อย แต่ยังโชคดีที่มีสื่อมวลชน นำเสนอข่าวอย่างคึกคัก แต่หากมองไปยังพื้นที่ลึกๆ ห่างไกล ประชาชนยังไม่เข้าถึงสื่อมวลชน หรือ โซเชียลมีเดีย ถือว่าข่าวสารยังไม่ถึงคนกลุ่มนี้ หรือ ไปถึงแต่น้อยมาก 2. เป้าหมายของการเลือกตั้ง คือ ความสุจริต และเที่ยงธรรม แต่การออกกฎของกกต.เป็นที่วิจารณ์เป็นอย่างมาก เช่น การออกกฎว่าพรรคการเมืองส่งผู้สมัครได้ แต่ห้ามไม่ให้ผู้บริหารพรรค หรือ ส.ส.ไปหาเสียง ซึ่งมีความย้อนแย้งในตัว หากเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย ควรให้ ส.ส และ ผู้บริหารพรรค ไปหาเสียงได้ ส่วนตัวคิดว่าการห้ามไม่ใช้พรรคไปช่วยหาเสียง เป็นการตีความที่แคบมาก และปัญหาที่เกิดขึ้นแทนที่ กกต.จะมุ่งไปที่การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม ป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง แทบจะไม่มีจังหวัดไหนออกมารณรงค์เรื่องนี้ จนในหลายพื้นที่มีการซื้อสิทธิ์การขายเสียงกันอย่างชัดเจน ในไลน์ ในเฟสบุ๊ก มีการพูดถึงเรื่องนี้ อย่างจังหวัดตรังเองก็มี คนรู้ทั้งจังหวัด แต่ กกต.กลับนอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น แม้แต่การกำหนดให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งตอนเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้ง คาดหวังว่าผู้ตรวจการเลือกตั้งจะเป็นมือไม้ที่สำคัญ มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ได้มาไปตีความกฎหมายอย่างแคบ เป็นนักกฎหมายครึ่งๆกลางๆ ไปเข้มงวดกับเรื่องหยุมหยิม เล็กน้อย แต่ไปไม่ถึงเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งอาจเป็นการเกรงกลัวอิทธิพลหรือไม่ จึงทำให้ลดประสืทธิภาพลงด้วย 3.ว่าด้วยการจัดหน่วยเลือกตั้ง กฎเกณฑ์ กติกา การทำความเข้าใจเรื่องบัตรเลือกตั้ง ซึ่งล้วนเป็นหน้าที่โดยตรงของ กกต.ประจำอปท. ที่กำหนดไว้ในระเบียบการเลี้ยงตั้ง ซึ่งสับสนตั้งแต่เรื่องสีของบัตรเลือกตั้ง สับสนเรื่องบัตร หลายพื้นที่บัตรเลือกตั้งมากองอยู่ที่จังหวัดแล้ว แต่คนในจังหวัดพึงจะรับรู้ หลังเวลาผ่านไป 20-30 วัน โดยจังหวัดตรังมาเปิดเผยสีของบัตรเลือกตั้งในช่วงค่ำของวันที่ 19 ธันวาคมแล้ว ซึ่งทำให้หลายจังหวัดมีความกังวนเป็นอย่างมาก ว่าจะมีกลโกงสลับสับเปลี่ยนบัตรเลือกตั้ง โดยผู้มีอิทธิพล ฉะนั้น สรุปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ หากมองจากกลไกของ กกต.ถือว่าล้มเหลว และน่าผิดหวัง ดังนั้น บทเรียนของการเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประทศครั้งนี้ กกต.กลาง กับรัฐบาล ต้องสรุปบทเรียนเพื่อนำไปสู่การเตรียมการเลือกตั้ง อบต.และเทศบาล ที่จะจัดขึ้นต่อไป ไม่เช่นนั้นแล้ว การจัดการฯจะยากกว่าครั้งนี้ เพราะมีหน่วยเลือกตั้งจำนวนมาก ซึ่งหากทำไม่ได้การจัดการเลือกตั้งจะล้มเหลว รวมทั้งจะได้คนที่มาจากการทุจริต ซื้อสิทธิขายเสียง หรือแม้แต่ได้คนที่สมคบกับกกต.ประจำท้องถิ่น

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า เมื่อดูผลจากการจัดการเลือกตรั้งครั้งนี้แล้ว รู้สึกว่ากกต.ที่ทุกคนคาดหวังกันไว้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 มันเวิร์คจริงหรือไม่ เท่าที่ดูไม่ว่ากกต.ส่วนกลาง หรือ กกต.ส่วนท้องถิ่น มีช่องว่างเยอะมาก ทั้งที่เป้าหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 คือ สุจริต เที่ยงธรรม ป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียง แต่ยังมีข่าวฉาวเรื่องวิ่งเต้น ส่วนตัวจึงคิดว่าหากมีการจัดการเลือกตั้งอบต.กับ เทศบาลล้มเหลวอีก ก็คิดว่าต้องทบทวนบทบาทของกกต. เช่น การเสนอให้ยุบไปเลย หรือ เปลี่ยนมาจัดตั้งองค์กรรูปแบบอื่น ซึ่งการยุบไปเลยไม่ใช่เรื่องใหม่ และได้เคยพูดไปแล้วหลังจากการยึดอำนาจโดยคสช. ส่วนตัวเคยบอกว่า กกต.มีอำนาจ 3 อย่าง คือ 1. อำนาจบริหารจัดการเลือกตั้ง 2. อำนาจนิติบัญญัติ คือ ออกกฎระเบียบเอง และ 3. อำนาจกึ่งตุลาการ คือ พิพากษาให้ใบแดงแก่ผู้กระผิดกฏหมายเลือกตั้งได้ แต่เมื่อ 3 อำนาจนี้ไปอยู่กับกกต.กลับไม่มีประสิทธิภาพ แต่กลับเป็นการรวบอำนาจไว้กับตัวเอง แล้วถ้าจัดการเลี้ยงตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ผมเสนอให้ยุบกกต.แล้วหารูปแบบใหม่สำหรับจัดการเลือกตั้งที่เหมาะสม

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน