นายสาธร วงศ์หนองเตย ยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ร้อง กกต.เอาผิดผู้กระทำผิดทุจริตการเลือกตั้ง ส.อบจ. และ นายก อบจ.ตรัง และคัดค้านการเลือกตั้งหลังพบความผิดปกติ และเตรียมเข้ายื่นหลังสือต่อ กกต.กลาง เพราะเกรงว่าการทำงานของกกต.ตรัง จะถูกแทรกแซงโดยผู้มีอิทธิพลในจังหวัด
วันที่ 28 ธ.ค.63 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง นายตรัง นายสาธร วงศ์หนองเตย หัวหน้าทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง น้องชายนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย พร้อมทีมงานผู้สนับสนุน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนางสาวอรพิน อาชีวะสุข ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง เพื่อยื่นคัดค้านการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งพบความผิดปกติหลายประการ ที่เป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตเลือกตั้ง ซึ่งนายสาธร วงศ์หนองเตย ยื่นหนังสือขอให้ กกต.กลาง ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายจัดการเลือกตั้งว่าเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมหรือไม่ และในวันพรุ่งนี้นายสาธรฯ ตนจะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อนำหลักฐานไปร้องต่อกกต.กลาง
นางสาวอรพิน อาชีวะสุข ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้กกต.ตรังรับเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้งแล้ว 3-4 เรื่อง ทุกเรื่องอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรณีจับกุมการทุจริตซื้อเสียงด้วย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเรียกพยานมาสอบปากคำ รวมทั้งการลงพื้นที่ไปสอบปากคำชาวบ้าน แต่ยังไม่ครบ ซึ่งทางกกต.ต้องทำด้วยความรอบคอบ รัดกุม ส่วนประเด็นที่ชุดสืบสอบสวน กกต. เข้าถึงผู้กระทำผิดช้า ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนปกติ ไม่มีเหตุผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวและสอบปากคำ ตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากกระบวนการสืบสวนของตำรวจเรียบร้อย ชุดสอบสวนของ กกต.จึงจะเข้าไป
อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด แต่การตัดสินไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน กกต.จังหวัด จะส่งเรื่องไปยัง กกต.ส่วนกลาง และ กกต.ส่วนกลางจะเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย ถ้าหากพยานหลักฐานไม่เพียงพอก็จะส่งกลับมาให้ กกต.จังหวัด ดำเนินการหาหลักฐานต่อ และอาจไปถึงขั้นตอนของศาล ตามกระบวนการยุติธรรม ด้านกรณีจับการจับกุมซื้อเสียง ในเบื้องต้นการจะสาวถึงตัวผู้สมัคร ส.อบจ.เขต หรือถึงตัวผู้สมัคร นายก อบจ. หรือไม่ อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน โดยกกต.ตรังได้รายงาน กกต.กลางให้ทราบเป็นระยะๆ สำหรับโทษกรณีซื้อสิทธิ์ขายเสียงมีโทษตามกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 65 (1) ระวางโทษจำคุก 10 ปี หากเป็นผู้สมัครกระทำผิด จะต้องโดนใบแดง โดนตัดสิทธิทางการเมือง ในส่วนของการทำงานของกกต.ตรัง ยืนยันไม่มีกระบวนการแทรกแซงการทำงาน แต่อย่างใด
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ผู้สมัครกลุ่มตรังก้าวใหม่ โดยนายภูผา ทองนอก ผู้สมัครนายกอบจ.ตรัง ได้ไปยื่นหนังสือต่อ กกต.จว.ตรัง กรณีพบการทุจริตจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 2ราย เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้กระจ่างชัดว่าการ เลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง เป็นไปโดยเสรี สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ เพื่อปกป้องคะแนนเสียงอันบริสุทธิ์
นายภูผา ทองนอก ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาส่วนท้องถิ่นและผู้บริหารส่วนท้องถิ่นจังหวัดตรังในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ปรากฏว่าได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในท้องที่ ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรังโดยมีการจับกุมนายทวีเกลี้ยงรัตน์อายุ 61 ปี และจับกุมนายวิชิต พลอินทร์ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง หัวคะแนนผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ที่ศาลาประชาคมหมู่ 4 บ้านหนองดุก ตำบลท่าสะบ้า ปรากฏตามข่าวฯ ซึ่งในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในครั้งนี้ ได้มีการลงสมัครรับเลือกตั้งสังกัดทีมผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และมีการหาเสียงสนับสนุน นายกอบจ. ทั้งโปสเตอร์หาเสียง และบัตรแนะนำตัว ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาเสียงต่างๆ ของผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่น จึงเชื่อได้ว่าในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น (นายกอบจ.ตรัง)ในครั้งนี้เชื่อมโยงไปถึงผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมสังกัด และ ที่สนับสนุน ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่เสรี ไม่สุจริต และไม่เที่ยงธรรม จึงขอคัดค้านการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารส่วนท้องถิ่น จนกว่าจะได้มีการสืบสวนสอบสวนให้เป็นที่ประจักษ์ และคลี่คลายข้อสงสัยต่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อไป และหากปรากฏว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในคณะกรรมการเลือกตั้ง ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นตกเป็นโมฆะและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด
