ตรัง – ตร.เร่งสอบปากคำผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการยิงรถยนต์ชาวบ้านกลางสี่แยก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้น ยังไม่แจ้งข้อหาผู้ใด อยู่ระหว่างการสอบปากคำให้ครบทุกฝ่าย และยืนยันให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ และเจ้าหน้าที่รับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ขณะที่ญาติพี่น้องเดินทางเข้าเยี่ยมผู้ป่วยไม่ขาดสาย
วันที่ 6 มกราคม 2564 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ปฏิบัติการไล่ล่าจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุยิงจนท.ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.คลองพน จ.กระบี่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง สุดท้ายตำรวจยิงผิดคัน โดยยิงเอารถของประชาชนทั่วไปที่ขับขี่อยู่บนถนนตามปกติ แค่เห็นว่ารถเป็นสี และยี่ห้อเดียวกันเท่านั้น โดยทำให้คนในรถเป็นหญิงบาดเจ็บถูกยิงที่ขา เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุด ที่โรงพยาบาลห้วยยอด พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด ได้เดินทางเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมนายสุธิราช หมาดแด้หวา เจ้าของรถ และนางสาวหนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ ภรรยา ซึ่งเป็นครอบครัวผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนางสาวหนึ่งฤทัย ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณขาซ้าย ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษ โดยอาการทั่วไปพบว่า ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะสภาพจิตใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ยังเจ็บบาดแผลรอยเฉี่ยวบริเวณหน้าท้อง และบริเวณขาซึ่งยังช้ำบวมจากการถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และยังคงให้ยาฆ่าเชื้อ นอกจากนั้น ยังมีครอบครัว ญาติพี่น้องเดินทางมาจาก ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เดินทางมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงไม่ขาดสาย
พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งต้องสอบถามในรายละเอียดทั้งหมด ว่าผู้เสียหายออกจากบ้านตอนไหน อย่างไร มาถึงที่เกิดเหตุจนกระทั่งเกิดเหตุ เพื่อให้ได้หลักฐานข้อมูลรอบคอบรอบด้าน และตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏขณะเกิดเหตุ เพื่อประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ หลังสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จแล้ว ก็จะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต่อไป รวมถึงตรวจสอบอาวุธปืน กระสุนปืน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ปรากฎตรงกัน และจะต้องดูแลฝ่ายผู้เสียหาย เหมือนญาติ ในส่วนของการตั้งข้อกล่าวหาของผู้กระทำ ในขณะนี้ทาง เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการต้องตั้งข้อหาใคร เนื่องจากอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เนื่องจากอาวุธปืนที่ใช้ในที่เกิดเหตุมีมากกว่า 2 กระบอก ต้องมีการตรวจสอบ เพราะหลักฐานทุกสิ่งอย่างต้องเป็นเรื่องเดียวกัน ตรงกัน สอดรับกัน และในการเยียวยาสภาพจิตใจผู้เสียหาย ทางผู้บังคับบัญชาของฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้เสียหายที่โรงพยาบาลเป็นระยะๆ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับผู้เสียหาย และทางโรงพยาบาลโดยตลอด ซึ่งจะดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในด้านคดี ก็ต้องดำเนินการไปให้ชัดเจนและครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย
