เจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำพนักงาน ผู้บริหาร และคนงานไทยที่เหลือชุดสุดท้าย ในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา เข้าทำ Swab เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ด้วยรถพระราชทาน ชีวนิรภัย เพื่อค้นหาเชื้อ หวั่นจะมีคนติดเชื้อเพิ่มจากแรงงานเมียนมา 2 คน ส่วนการนำน้ำลายของแรงงานเมียนมาไปตรวจหาเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรังเกือบ 200 คน ก่อนหน้านี้ จะทราบผลในวันนี้ หากพบกลุ่มใดผลเป็นบวก จะเร่งทำการ Swab ด้วยรถพระราชทานชีวนิรภัย ค้นหาตัวตนผู้ป่วยติดเชื้อเช่นเดียวกัน แต่เบื้องต้น ผลตรวจหาเชื้อผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับแรงงานเมียนมาทั้ง 15 คน ตั้เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ผลออกมาแล้วเป็นลบ
วันที่ 22 มกราคม 2564 ที่บ.วู้ดเวร์อค จำกัด ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแห่งใหญ่ หลังเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ค้นหาเชิงรุกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ในแรงงานข้ามชาติ จำนวน 150 คน แล้วพบแรงงานเมียนมา 2 คน ติดเชื้อโควิด 19 ทำให้ทางสาธารณสุขจังหวัดตรัง ร่วมกับโรงพยาบาลห้วยยอด นำโดยนายแพทย์ปิยวิทย์ เนกขพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้วยยอด และผู้บริหารบริษัท เร่งประสานขอรถพระราชทาน ชีวนิรภัย จากจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นหาเชื้อในแรงงานข้ามชาติที่เหลือและแรงงานไทยในทันที โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 2 วัน วันแรกเป็นการนำแรงงานข้ามชาติ สัญชาติเมียนมาที่เหลือทั้งหมด และแรงงานไทยส่วนหนึ่ง เข้ารับการตรวจหาเชื้อ จำนวน 192 คน โดยเลือกใช้วิธีการตรวจหาเชื้อด้วยน้ำลายแบบ Pooled simple Testing หรือวิธีการตรวจแบบรวมกลุ่มหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยแบ่งกลุ่มละ 5 คน เก็บน้ำลายส่งไปตรวจหาเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรัง หากพบกลุ่มใดผลเป็นบวก จะต้องนำแรงงานกลุ่มดังกล่าวมาตรวจหาเชื้อซ้ำ 2 ด้วยวิธีการ Swab ด้วยรถพระราชทาน ชีวนิรภัย ค้นหาตัวตนต่อไป ซึ่งผลตรวจเบื้องต้นจากศูนย์วิทย์ฯตรัง จะออกในวันนี้
และล่าสุด ในวันนี้ ถือเป็นชุดสุดท้ายที่เข้าตรวจครบ 100% มีจำนวน 172 คน เป็นแรงงานคนไทยที่เหลือ จำนวน 62 คน , พนักงานส่วนออฟฟิส และผู้บริหาร หรือคนที่เข้าไปทำงานในโรงงานทั้งหมด เช่น แม่ค้า จำนวน 110 คน เข้าทำ Swab ในการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ด้วยรถพระราชทาน ชีวนิรภัย เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด19 ซึ่งวิธีนี้เป็นการตรวจหาเชื้อแบบรายบุคคล จะคาดผลภายในพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ในการตรวจหาเชื้อในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามประวัติการเดินทาง พร้อมลงบันทึกเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประกอบผลการตรวจหาเชื้อด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการทำ Swab ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับแรงงานเมียนมาที่ติดเชื้อ จำนวน 15 คน เป็นแรงงานเมียนมา 9 คน และคนไทย 6 คน ซึ่งผลตรวจหาเชื้อโควิด19 ปรากฏว่าทั้งหมดมีผลเป็นลบ แต่ทางโรงงานยังให้ทั้ง 15 คน กักตัวต่อจนครบ 14 วัน ตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค โดยทางบริษัทได้คัดแยกคนกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมดไปพักที่บ้านพัก 4 ชั้นของบริษัทฯ เป็นการปิดพื้นที่ทั้งตึก ในการกักตัวพนักงานฯ โดยกันพื้นที่กักเป็นการเฉพาะห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าบริเวณพื้นที่ และทางบริษัทฯ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ซื้อข้าวของเครื่องใช้ อาหาร และสิ่งจำเป็น มาส่งให้คนงานและพนักงาน เพื่อลดความเสี่ยง และยังหยุดการทำงานเป็นชั่วคราวในทุกแผนก เพื่อลดการติดต่อสัมผัสใกล้ชิดกัน กำหนดให้พนักงานบางส่วนปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work from home) เพื่อเว้นระยะห่างลดการเดินทาง และได้ดำเนินการทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในโรงงานทั้งหมดไปแล้ว
