ตรัง – ประมงพื้นบ้าน ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน พร้อมภาคประชาสังคมในนามชุดเฉพาะกิจทางทะเล และกรรมการประมงจ.ตรัง ร้องอ่าวปะเหลียน ถูกประมงผิดกฎหมายจากต่างถิ่น รวมทั้งในพื้นที่บางราย เข้าครอบครองยึดพื้นที่อันกว้างใหญ่ ทำโป๊ะน้ำตื้น และวางโพงพางปากเสือ ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงแบบทำลายล้าง ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ กีดขวางทางน้ำ แจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล เขต 3 กระบี่ ร่วมออกตรวจสอบ อ้างไม่มีงบประมาณ จึงร่วมออกตรวจสอบไม่ได้
วันที่ 25 มกราคม 2564 ชาวประมงพื้นบ้าน ต.เกาะสุกร พร้อมด้วยอาสาสมัครชุดเฉพาะกิจทางทะเล และภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประมงจังหวัดตรัง ข่าว ตรัง นำผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สบทช.10 อ.สิเกา จ.ตรัง เข้าสำรวจพื้นที่การทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเลตรัง โดยภาพที่เห็นข้างหน้าจากระยะไกลที่มีแนวไม้ปักอยู่เป็นระยะทางยาวหลายร้อยเมตร และกินบริเวณกว้างเต็มพื้นที่จากด้านข้างถึงด้านหลังของเกาะสุกร อ.ปะเหลียน โดยที่ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่า “อ่าวปะเหลียน” พื้นที่รอยต่อระหว่างเกาะสุกร ต.เกาะสุกร , บ้านหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน และ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล พบว่ามีชาวประมงจากต่างถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าข้าม และ ต.เกาะสุกร บางราย โดยเฉพาะจาก อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ลักลอบนำเครื่องมือประมงผิดกฎหมายมายึดทะเลทำประมงเต็มพื้นที่ ทั้งโป๊ะน้ำตื้น และโพงพางปากเสือ โดยภาพแรกที่มองเห็นในระยะไกล คือ โป๊ะน้ำตื้น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หลาด” นับ 100 ปาก ทั้งในทะเลกว้าง และติดพื้นที่เกาะ โดยใช้ไม้ป่าชายเลนปักเป็นแนวยาวมองไกลสุดลูกหูลูกตา แล้วใช้อวนตาถี่มากางยึดติดกับแนวไม้ตลอดแนวเป็นรูป 3 เหลี่ยม เพื่อทำช่อง 2 ช่อง ให้สัตว์น้ำลอดเข้าไปภายใน โดยมีการตีโครงไม้อย่างหนาแน่นบริเวณส่วนปลาย ซึ่งเป็นปลายถุงอวน ส่วนปากกว้างประมาณ 200 เมตร ยาวประมาณ 100 เมตร เมื่อสัตว์น้ำเข้าไปแล้ว โดยเฉพาะสัตว์น้ำตัวเล็กๆ ก็ไม่สามารถหลุดรอดออกมาได้ เป็นเครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายแบบทำลายล้างล้าง และเป็นอันตรายกับเต่าทะเล พะยูน และโลมา
และใกล้กัน ซึ่งเป็นภาพที่มองเห็นถังแกลลอนน้ำมัน ลอยเป็นกลุ่มๆ กินเนื้อที่กว้างใหญ่นั้น คือ โพงพางปากเสือ ประมาณ 50 ปาก ที่ประมงจากต่างถิ่น อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล นำมาวางไว้โดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่ และสนใจชาวบ้านในพื้นที่ โดยโพงพางปากเสือ จะมีแกลลอนน้ำมันลอยเป็นทุ่นเหนือผิวน้ำ แต่จะยึดโยงกับสมอเรือ และอวนตาถี่ซึ่งถูกวางไว้ใต้น้ำลึกลงไปประมาณ 10 เมตร มีปากช่องสำหรับสัตว์น้ำเข้าไปเหมือนกับโพงพาง เพื่อดักจับสัตว์น้ำในว่ายผ่านไปมา และเป็นเครื่องมือประมงแบบทำลายล้างเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ในส่วนโพงพางปากเสือพบว่ากลับมาระบาดอีกครั้งในขณะนี้ ผลจากที่เจ้าหน้าที่พยายามกวาดล้างโพงพางปกติ จึงหันมาทำโพงพางปากเสือแทน แต่ก็เป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมายและทำลายล้างเช่นเดียวกัน กีดขวางทางเดินเรือ ชาวบ้านจะเข้าทำประมง วางอวน ตกปลา วางไซจับสัตว์น้ำตามปกติไม่ได้ เพราะทั้งหมดมีเจ้าของและถูกจับจองยึดพื้นที่อย่างถาวร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านระบุว่า ขณะนี้ในส่วนของโพงพางปกติ ก็กลับมาระบาดเต็มพื้นที่อีกครั้ง ทั้งในพื้นที่ อ.ปะเหลียน ,อ.หาดสำราญ และอ.กันตัง และในการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ ชาวบ้านพยายามประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล เขต 3 กระบี่ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการกวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย แต่ได้รับคำตอบว่า ไม่มีงบประมาณ
นายปราโมทย์ มีลือ อาสาสมัครป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล กล่าวว่า ปัญหาก็คือเครื่องมือทำลายล้าง ประเภทอวนตาถี่เข้ามายึดครองพื้นที่ทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งในอวนจะมีลูกปลา ลูกปู หมึก สัตว์วัยอ่อน ขนาดเล็กเข้าไปติดอยู่ด้านใน และเป็นอันตรายกับพะยูน เต่าทะเล และโลมา ที่เคยติดเครื่องมือประมงแบบโป๊ะน้ำตื้น ตายมาแล้วจำนวนมาก และยังมีการตัดทำลายป่าชายเลน ด้วยการนำไม้ป่าชายเลนมาทำเป็นเสา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประมงผิดกฎหมายจากต่างถิ่น จากอ.ทุ่งหว้า จ.สตูล รวมทั้งจากบ้านหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน และติดชายฝั่งเป็นของชาวบ้านเกาะสุกร ทั้งนี้ รอบบริเวณเกาะ ตลอดอ่าวปะเหลียนมีนับ 100 ปาก และในตอนกลางคืนก็ยังมีการทำอวนรุน ล้วนเป็นเครื่องมือผิดกฎหมาย รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปก็เงียบ
ทางด้านตัวแทนชาวประมง (เสื้อฟ้า) ก็กล่าวว่า การที่มีกลุ่มประมงจากต่างถิ่น และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามายึดพื้นที่ทางทะเลทำทำการประมงผิดกฎหมายทั้งโป๊ะน้ำตื้น และโพงพางปากเสือ ทำให้กีดขวางทางน้ำ ชาวบ้านซึ่งใช้เครื่องมือประมงเล็ก จะออกไปวางอวนปู อวนกุ้ง หรือจับปลาก็ยากลำบาก กีดขวางทางน้ำ และเป็นอันตรายในการเดินเรือ หากเรือชาวบ้านเข้าไป อาจทำให้เรือเสียหายได้ และเมื่อมีการใช้เครื่องมือแบบทำลายล้างแบบนี้ สัตว์น้ำตัวเล็กตัวน้อยก็ตายหมด เสมือนตัดวงจรการแพร่พันธุ์และการเติบโตของสัตว์วัยอ่อน ที่ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ ใช้เครื่องมือประมงที่ถูกต้อง และพวกตน ซึ่งหากินกับทะเล ยังทำธนาคารปู เมื่อได้ปูไข่มา ก็จะนำมาอนุบาลให้แม่ปูวางไข่ เมื่อลูกปูแข็งแรงก็จะนำไปปล่อยทะเล เพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำให้อยู่กับทะเล แต่ประมงผิดกฎหมายกลับเข้าครอบครองพื้นที่
ทางด้านนายเริง ทุ่ยอ้น ประธานชุดเฉพาะกิจทางทะเล อ.ปะเหลียน และอ.หาดสำราญ (เสื้อส้ม) กล่าวว่า ออกตรวจเครื่องประมงผิดกฎหมาย ที่ทำลายทรัพยากรทางทะเล กลับพบว่าในระยะไม่กี่เดือนมานี้ ทั้งโพงพางปากเสือ และโป๊ะน้ำตื้น ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด กลับพบเครื่องมือประมงเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในส่วนของโพงพางปากเสือเดิมใช้หลักไม้คู่เป็นเสา ความลึกประมาณ 10 เมตร แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นใช้สมอเรือ 2 ตัว และใช้อวนขนานใหญ่ ซึ่งเหล่านี้ทำลายฐานทรัพยากรอย่างหนัก ความสูญเสียแต่ละวันมากมายจนประเมินค่าไม่ได้ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ตัวเล็กตัวน้อย โดนทำลายด้วยเครื่องมือแบบนี้ทั้งหมด อยากให้ทางจังหวัดเร่งดำเนินการกวาดล้าง
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: