X

เปิดโลกนาฏศิลป์ กับสองพี่น้องฝาแฝด นาฏศิลป์บ้านเจ้าแฝด

นางสาวปทุมทิพย์ ซุ่นสั้น. หรือ ป๋อม (แฝดพี่) นางสาวประภาพร ซุ่นสั้น หรือ แป๋ม (แฝดน้อง) อายุ 26 ปี ใช่เพียงร่างกายเท่านั้นที่เกิดมาคู่กัน แต่ความชื่นชอบ ความสนใจในนาฎศิลป์ไทย ของทั้งคู่ก็เหมือนกันตั้งแต่เด็กจนโต เธอทั้งสองเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง มีคุณพ่อประกอบธุรกิจส่วนตัว เป็นช่างรับเหมางานกระจก อลูมิเนียม ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน
“วัยเด็กของเราทั้งคู่ถือว่าโชคดีค่ะ คุณแม่ คุณพ่อสนับสนุน ส่งเสริมให้ได้ลูกทำในสิ่งที่ชอบ” เราตั้งสองคนเริ่มสนใจการแสดงเริ่มต้นคือการรำไทย รำตั้งแต่อายุ 2 ขวบครึ่ง คุณแม่บอกกับ ป๋อม และ แป๋ม ว่า พอคุณแม่เห็นแววว่าทั้งคู่ชื่นชอบด้านนี้ คุณแม่ก็พาไปเรียนรำไทย จากจุดเริ่มต้นของความชอบในวัยเด็ก จนไปสู่การเรียนรำไทย ศึกษาด้วยตนเอง ได้ออกงานแสดงรำตั้งแต่เด็กๆ และเมื่อโตขึ้น ก็เลือกเรียนด้านนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษา ก็เลือกเรียนด้านดนตรี นาฏศิลป์ ที่ ร.ร.สาราชินีระดับปริญญาตรี เลือกคณะศิลปกรรมศาสตร์เอกนาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภภัฏสวนสุนันทา ปัจจุบันเปิดสอนนาฏศิลป์ “นาฏศิลป์บ้านเจ้าแฝด” สอนนาฎศิลป์ไทย โขน สอนรำไทย สอนเต้นโคฟเวอร์แด้นซ์ สอนมวยไชยยา มวยคาดเชือก ศิลปะป้องกันตัว กระบี่กระบอง รวมทั้งรับงานแสดงนาฏศิลป์ทั่วไป เปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 4 ปี ขึ้นไป รับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
“ทุกครั้งที่เราแสดง เราจะยิ้ม เพื่อทำให้คนดูมีความสุข เรารู้สึกดีใจที่โชว์ของเราทำให้ผู้ชมเข้าถึงอรรถรส อยากแสดงต่อไปเรื่อย ๆ และทำให้การแสดงน่าสนใจ เราทำเต็มที่ทุกครั้งที่แสดง”

โดยก่อนเปิดสอนนาฏศิลป์บ้านเจ้าแฝด ทั้งคู่เคยทำงานเป็นนักแสดงที่โรงละครนาคาเธียร์เตอร์ ลาดกระบัง กทม. การแสดงในโรงละครนาคาเธียร์เตอร์ รวมทั้งเป็นนักแสดงประกอบในละครทางช่อง 7 และ ช่อง 3 เราแสดงไปเราสู้สึกว่าสวยงาม อ่อนช้อย จึงอยากสานต่อ ต่อยอด ให้เด็กและเยาวชน ที่สนใจได้เรียนรู้ กล้าแสดงออก เหมือนกับแฝดทั้งคู่
ชีวิตของป๋อม และ แป๋ม ทั้งคู้เป็นแฝดโดยแท้จริง มีนิสัยที่เหมือนกัน มีความชื่นชอบเหมือนกัน เรียนเหมือนกัน จนไปถึงทำงานด้วยกัน เพราะตั้งคู่ไม่เคยแยกจากกันเลยตั้งแต่เด็ก ๆ “หลังเรียนจบ เราไปสมัครที่โรงละครฯ ทั้งคู่ค่ะ และทางโรงละครก็เลือกเราทั้งคู่เข้าทำงาน ส่วนหนึ่งส่วนตัวแป๋มคิดว่า ความเป็นแฝดถือเป็นเอกลักษณ์ ทางโรงละครจึงเลือกทั้งคู่ ส่วนของเราก็คิดไว้ในใจว่าถ้าเขาเลือกแค่คนเดียว ก็จะไม่รับงานนี้” ด้านนักท่องเที่ยวที่มาดูการแสดงในโรงละคร เมื่อทราบว่าเราเป็นฝาแฝด เขารู้สึกสนใจเป็นพิเศษ และมาขอถ่ายภาพคู่ รวมทั้งให้ทิป

แต่จนแล้วจนรอด อาชีพนักแสดงในเมืองหลวงของทั้งคู่สิ้นสุดลง เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 เพราะโรงละครได้รับผลกระทบ ไม่มีนักเที่ยวต่างประเทศเข้าชม ส่วนงานแสดงทางทีวีก็หยุดชะงัก เพราะไม่มีการเปิดกล้องละครใหม่ ในช่วงการระบาดของโควิด19

จึงตัดสินกลับบ้านที่จังหวัดตรัง บวกกับเพื่อนของคุณพ่อ คุณแม่ แนะนำให้เปิดสอนนาฏศิลป์ จึงมีนาฏศิลป์บ้านเจ้าแฝดในวันนี้ “สำหรับนาฏศิลป์บ้านเจ้าแฝด คุณแม่เป็นคนตั้งชื่อให้ค่ะ เพราะเป็นที่เป็นเอกลักษณ์ และคำว่าเจ้าแฝดถือเป็นจุดขายอีกอย่าง นอกจากความสามารถด้านนาฏศิลป์” สำหรับการรำไทยมีประโยชน์ คือ ช่วยเสริมสร้างบุคลิก ความมั่นใจ กล้าแสดงออก

“รู้สึกรักนาฏศิลป์ เพราะมีความรู้สึกว่า สวยงาม ชวนมอง อยากจะรำให้สวย อยากสืบทอดต่อไป เพราะเป็นศิลปะที่ต้องใช้เวลาฝึกฝน.” โดยแรงบันดาลใจ และ คนต้นแบบของป๋อม กับ แป๋ม คือ คุณนุ่น วรนุน (นักแสดง) จากละครแม่อายสะอื้น “เห็นนุ่นรำดาบ ตีกลองสะบัดชัย ในละคร หนูทั้งคู่ก็ไปเรียนรำดาบ ตีกลองกันเลย ค่ะ(หัวเราะ)” นอกจากนี้แป๋ม ยังประทับใจ แม่เล็ก รัจนา พวงประยงค์ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย-ละคร) เพราะ คุณรัจนา มีลีลาท่ารำที่สวยงาม อ่อนช้อย เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งคุณแป๋ม เคยไปเรียนต่อท่ารำฉุยฉายผีเสื้อสมุทร กับอาจารย์รัจนาฯ

ส่วนผลงานที่ประทับใจของป๋อมและแป๋ม งานที่ประทับใจ คือ งานศิลปะนิพนธ์ ชื่อชุดการแสดงเงาะป่า แต็น แอ็น เป็นการแสดงที่บ่งบอกถึงชาติพันธุ์เงาะป่า ซาไก ในจังหวัดตรัง “ทั้งออกแบบการแสดง ออกแบบเสื้อผ้า เครืองแต่งกาย ทรงผม ต้องออกแบบเองทั้งหมดค่ะ” โดยศิลปนิพนธ์ชุดนี้ได้รับรางวัลอันดับ ๒ จากการแข่งขันภายในมหาวิทยาลัยฯ

ส่วนผลงานที่ประทับใจของคุณป๋อมอีกชิ้นหนึ่ง คือ การสอนนาฏศิลป์ให้เด็กนักเรียน อายุ 7 ขวบ เพื่อส่งเข้าประกวดรับรางวัลนักเรียนพระราชทาน
“ตอนแรกที่มาสอนเด็ก ยอมรับว่าต้องปรับตัวเพราะเราทั้งคู่ไม่ได้เรียนจบครูมาโดยตรง จึงต้องใช้เวลาปรับตัว เรียนรู้ ปรับวิธีสอนให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน แต่ละวัย” สำหรับการเรียนนาฏศิลป์ น้องจากจะได้รับความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ยังได้ฝึกสมาธิ ให้แก่เด็กได้อีกด้วย
โดย พระนาง ที่อยู่ในวรรณนาง ขวัญใจของคุณแป๋ม “ตัวพระ เป็นสังข์ทอง แม้ช่วงแรกจะขี้เหร่ แต่ถอดรูปแล้วหล่อ ส่วนนางเอกที่ชอบ คือ นางรจนา เพราะเป็นน้องสุดท้อง หน้าตาสวย”ส่วนคุณแป๋ม เธอชื่นชอบพระราม “เพราะพราะรามหล่อ เก่ง ตัวนางชอบนางมโนรา เพราะคนน้องสุด และท่ารำมโนรา มีปีก มีหาง ดูสวยงาม เราเรียนรำมโนราด้วย เช่น รำมโนราเลือกคู่” โดยตอนนี้ทั้งคู่กำลังหัดรำมโนรา ซึ่งเป็นศิลปะของภาคใต้ เพื่อสืบทอด สืบสานศิลปะนี้เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งบ้านของคุณป๋อมและแป๋ม สืบเชื้อสายครูหมอมโนรา จึงอยากทำหน้าที่สืบทอดศิลปะของบรรพบุรุษ “ คือ ญาติพี่น้อง ลูกพี่ลูกน้อง มีอายุไล่เลี่ยกัน จำนวน 7 คน ป๋อมกับแป๋ม จึงอยากฝึกรำมโนราทั้ง 7 การรำมโนราตัวอ่อน จึงน่าสนมันใจ รวมทั้งเครื่องแต่งกายแบบลูกปัดสวยดีด้วย คะ มโนราที่รำแบบพื้นบ้านก็รำอีกแบบหนึ่ง ส่วนรำในทางหลวงก็รำอีกแบบหนึ่ง”

อยากสืบทอดการรำไทย นาฏศิลป์ไทย เพราะอยากสืบทอดต่อๆไปด้วย เพราะรำไทยเป็นเรื่องอยาก ต้องใช้เวลาฝึกกว่าจะได้ท่าทางที่สวยงาม “การสอนเด็กคนหนึ่งต้องเอาประสบการณ์ทั้งหมดที่เลยเรียนมา มาถ่ายทอดให้พวกเขา อยากให้เด็กทำได้เหมือนหนู จนวันหนึ่งเด็กที่หนูสอน จะรำได้สวยด้วยฝีมือที่หนูสอนมา”…คุณป๋อมกล่าว “มันมากกว่าชอบ มันรัก แค่ได้ยินเพลงก็รู้สึกอยากรำขึ้นมา ท่าก็มาแล้ว มันอภิบายไม่ถูก แต่มันเป็นตัวของหนูไปแล้ว…อยากสานต่อด้วยการถ่ายทอดความรู้ที่ตัวเองได้เรียนมาทั้งหมดให้แก่เด็ดรุ่นหลัง ที่มีความสนใจ”…คุณแป๋มกล่าว

อย่างไรก็ตามทั้งคู่ใช้คติในการทำงาน คือ ตั้งใจทำทุกอย่างให้เต็มที่ และดีที่สุด เพราะไม่มีอะไรที่ทำไมได้ ทุกอย่างอยู่ที่การเริ่มต้นลงมือทำ และหากให้เปรียบเทียบผู้หญิงในยุคปัจจุบัน และ อดีต คุณแป๋ม มองว่าผู้หญิงในยุคปัจจุบันและอดีต คือ ผู้หญิงในอดีตมีข้อจำกัดมากกว่าในปัจจุบัน ทั้งด้านใช้ชีวิต ด้านอาชีพ แต่ในปัจจุบันผู้หญิงมีอิสระมากขึ้น ส่วนคุณแป๋ม บอกว่า มองว่าในปัจุบันสังคมเปิดกว้างให้ผู้หญิงได้แสดงออก แสดงศักยภาพได้มากขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจจะส่งลูกหลานไปเรียนด้านนาฏศิลป์ไทย โขน รำไทย สอนเต้นโคฟเวอร์แด้นซ์ มวยไชยยา มวยคาดเชือก ศิลปะป้องกันตัว กระบี่กระบอง รวมทั้งงานแสดงนาฏศิลป์ทั่วไป สามารถสอบถามได้ที่ 063-2034119 หรือที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ นาฏศิลป์ บ้านเจ้าเเฝด

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน