ตร.พบแล้วน้องกล้วยที่แม่ออกสื่อตามหา หลังเชื่อคู่หมั้นเป็นคนมารับตัวไป พบไปอาศัยอยู่กับบังบ่าว (คู่หมั้น)ที่ฟาร์มเลี้ยงวัวแห่งหนึ่ง ใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เชื่อบังบ่าวบีบบังคับให้หนีตามหวังล้มงานแต่ง ตามหลักฐานในกล่องข้อความขู่จะถอนหมั้นเอาแหวนคืน
จากกรณีที่นางระเบียบ ช่วยบำรุง อายุ 61 ปี ชาวบ้าน ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมด้วยญาติ นำหลักฐานภาพถ่าย และข้อความพูดคุยกันทางกล่องข้อความเฟสบุ๊กที่นายดลรอหีม (ดน-รอ-หีม หรือบังบ่าว ) นันโอ๊ะ ชาว ต.สะคอม อ.เทพา จ.สงขลา ได้แชทบีบบังคับให้นางสาวสุภัสสร ช่วยบำรุง หรือ น้องกล้วย อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นคู่หมั้น ภายใต้ข้อความว่า “ OK ถ้าน้องไม่มาบังจะไปเอาแหวนกับ” (เอาแหวนหมั้นกลับ) เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ของวันที่ 13 ธันวาคม 2563 หลังจากนั้นน้องกล้วยก็หายตัว และขาดการติดต่อกับทางครอบครัว จนแม่ต้องเดินทางเข้าร้องเรียนคนหายไว้ที่ สภ.ห้วยยอด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 และร้องเรียนผ่านมูลนิธิกระจก เพื่อให้ช่วยตามหา เนื่องจากโทรศัพท์ถูกตัดขาด ติดต่อไม่ได้ ทำให้แม่ต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะเป็นห่วงในความปลอดภัยของลูกสาว จนเวลาผ่านมารวม 4 เดือน คดีก็ไม่คืบหน้า
และล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มีค.พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด ได้รับเรื่องในภาคบ่าย และดำเนินการลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริงในทันที ทั้งไปที่บ้านของนางระเบียบ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่ของน้องกล้วย ไปตรวจสอบจุดที่น้องกล้วยหายตัวไปที่หน้า ศูนย์ กศน.ต.ท่างิ้ว ซึ่งเป็นจุดที่รถจักรยานของน้องกล้วยลงอยู่กลางถนน และนำตัวมาแม่ฝ่ายหญิงสอบปากคำที่สภ.ห้วยยอด และไปพบกับนางไอริสทร์ เจ๊ะเอียด ซึ่งเป็นแม่ของนายดลรอหีม ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งที่มาพักอาศัยอยู่กับสามีใหม่ ชาว ต.ท่างิ้ว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งแม่ของบังบ่าวก็ยังยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็งว่า ลูกชายไม่ได้ลักพาตัวน้องกล้วยไป เพราะลูกชายเป็นคนเชื่อฟังแม่ แม่ไม่อยากให้แต่ง ลูกชายก็จะไม่แต่ง และลูกชายหลังเสร็จงานหมั้นก็ไม่ได้กลับมาที่ ต.ท่างิ้วอีกเลย
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันนี้ พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบฐานข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ของตำรวจก็พบว่าเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มีคนพาตัวผู้สูบหายไปทำบัตรประชาชนใหม่ ณ ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา แทนบัตรประชาชนเดิมที่ไม่ได้นำติดตัวไปด้วย โดยแจ้งว่าบัตรประชาชนหาย จึงขอทำใหม่ จึงเชื่อว่าผู้สูญหายน่าจะไปอยู่กับแฟน โดยจากการที่ตนเองโทรสอบถามฝ่ายชายในเบื้องต้น เขาไม่ยอมรับ จากนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปหาที่อยู่จนทราบว่าไปพักอาศัยอยู่ภายในฟาร์มเลี้ยงวัวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านทุ่งจีน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ โดยหัวหน้าคนงานของฟาร์มดังกล่าว ก็โทรกลับมาหาตนและยอมรับว่าไปพักอาศัยอยู่จริง และเป็นคนพาไปทำบัตรประชาชนเอง เพราะน้องเขาไปและไม่มีบัตรประชาชน จึงได้รู้ว่าผู้สูญหายปลอดภัยดี ก็ได้แจ้งประสานให้แม่ ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รับทราบแล้ว ซึ่งก็ทำให้แม่เลิกกังวลเป็นห่วงแล้ว เพราะว่าลูกสาวปลอดภัยดี และการอยู่ก็ไม่ได้ถูกกักขังหน่วยเหนี่ยวไม่ได้ถูกบังคับ ก็ไม่ได้เป็นความผิดทางอาญาแต่อย่างใด เพราะไปอยู่กับคู่หมั้น โดยฝ่ายหญิงก็อายุ 21 ปี บรรลุนิติภาวะแล้ว หลังจากนี้ตนเองจะแจ้งประสานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีไปยังแม่ให้เข้าใจ ส่วนเรื่องประเพณีการแต่งงานนั้น เด็กมีการหมายหมั้นกันแล้ว จะมีการจัดงานแต่งงานเมื่อไร ก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงกัน ทั้งนี้ ความเป็นอยู่ภายในฟาร์มดังกล่าว เบื้องต้น ทราบว่าฝ่ายชายทำงานมานาน ก็มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ แม่ของบังบ่าวได้ให้ข้อมูลกับมูลนิธิกระจกเงา และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ยืนยันว่าลูกชายตนเองไม่ได้เป็นคนพาฝ่ายหญิงไป แต่ฝ่ายหญิงได้เดินทางไปหาลูกชายที่ จ.สงขลากับเพื่อน 3 คน โดยเป็นผู้ชาย 1 คน และเป็นผู้หญิง 2 คน เพื่อนำแหวนหมั้นของลูกชายไปคืนให้ จากนั้นทั้งหมดพากันเดินทางต่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียแล้ว โดยลูกชายตนเองไม่รู้เรื่องการหายตัวไปของฝ่ายหญิง และลูกชายเป็นคนที่เชื่อฟังแม่มาก ไม่เคยปิดบังข้อมูลกับแม่ และหลังเกิดเหตุก็โทรศัพท์พูดคุยกันตลอด ยืนยันว่าลูกชายของตนไม่ทำอย่างแน่นอน เพราะตนเองไม่อยากให้ลูกชายแต่งกับฝ่ายหญิงแล้ว เพราะหากแต่งจะต้องมาอยู่บ้านฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นเรื่องยาก ทั้งนี้ ในการหมั้นนั้น ด้วยแหวนทองคำหนัก 1 สลึง ตกลงค่าสินสอด 65,000 บาท และกำหนดจะแต่งงานวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้น ทั้ง 2 คน อาจจะรู้เห็นกัน คงไม่อยากให้แต่ง เพราะต้องใช้จำนวนมาก รวมทั้งค่าสินสอด เพราะแม่มีการแต่งเรื่องใหม่บอกเล่ากับมูลนิธิกระจกเงา และสื่อ ขณะที่บังบ่าวได้แชทบีบบังคับให้นางสาวสุภัสสร ช่วยบำรุง หรือ น้องกล้วย อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นคู่หมั้น ภายใต้ข้อความว่า “ OK ถ้าน้องไม่มาบังจะไปเอาแหวนกับ” (เอาแหวนหมั้นกลับ) ก่อนถึงวันแต่งเพียง 3 วันเท่านั้น
สำหรับนายดลรอหีม หรือบังบ่าว กับน้องกล้วย ได้พบกันหน้าและรู้จักเพียง 2 ครั้งในเวลาเพียง 2 วันติดต่อกัน และทำพิธีหมั้นกันในวันที่ 2 ที่พบกัน (พบกันวันที่ 25 พ.ย.หมั้นกันวันที่ 26 พ.ย.63) จากการแนะนำของแม่ และพ่อเลี้ยงฝ่ายชาย โดยแม่และพ่อเลี้ยงเห็นว่า น้องกล้วยเป็นเด็กดี ไม่เที่ยวเตร่ ไม่มีแฟน หลังจากนั้นทั้ง 2 คน พูดคุยติดต่อกันทางโทรศัพท์และเฟสบุ๊กได้เพียงแค่ประมาณ 20 วันเท่านั้น จากนั้นน้องกล้วยได้หายไปจากบ้านตั้งแต่วันดังกล่าว ก่อนถึงวันแต่งเพียง 3 วัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: