ตรัง – ผบก.จ.ตรัง ระบุ ทางตำรวจยังเร่งสอบสวนขยายผลสาวทีมฆ่าทนายเหว่า เพราะยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น โดยเฉพาะกับผู้นำท้องถิ่นบางคนที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่หาข่าวคุ้มครองดูแลแกนนำที่เหลือและชาวบ้านที่ยังหวาดกลัว ด้านผู้ต้องหา3 คน เจ้าหน้าที่แยกควบคุมตัวตามสภ.ต่างๆ หากสอบสวนแล้วเสร็จจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้ เบื้องต้น ทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ญาติก็เตรียมเดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวเช่นกัน หวั่นอิทธิพลความไม่ปลอดภัย
วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 จากกรณีเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาทีมสังหารนายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า อายุ 54 ปี แกนนำชาวบ้านเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน เนื้อที่ 638 ไร่ ใน อ.วังเศษ จ.ตรัง ได้เมื่อวานนี้ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายชรินทร์รัฐฐ์ ครุฑธิราช หรือชื่อเดิม นายชวน ครุฑธิราช หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม “นายก ชวน” อายุ 50 ปี นายกเทศมนตรีตำบลวังวิเศษ และมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังวิเศษ (กต.ตร.สภ.วังวิเศษ) เป็นผู้จ้างวานฆ่า 2.นายเฉลิมวุฒิ นกรู้รัก อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 ต.วังมะปราง เป็นผู้รับงานและมือปืน และ3. นายศรัญญู เกื้อบุญสง หรือฉายา นิล สิเกา มือปืนรับจ้าง ลูกชายอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.วังมะปราง เป็นมือปืน โดยทั้ง 3 คน ถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนเข้มและนำตัวไปแยกควบคุมไว้ตาม สภ.ต่างๆ เพื่อเตรียมนำตัวสอบสวนต่อ และขออำนาจศาลฝากขังในวันนี้ เบื้องต้น ทั้งหมดให้การภาคเสธ แต่ตำรวจยืนยันมีหลักฐานแน่นหนาและให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และจะคัดค้านการประกันตัว ขณะที่ครอบครัวก็เตรียมเข้ายื่นคัดค้านการประกันตัวเช่นเดียวกัน หวั่นจะออกมาใช้อิทธิพลข่มขู่คุกคาม และเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัย
ทางด้าน พล.ต.ต.สันทัด วินสน บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในเรื่องนี้ทางตำรวจยังจะทำการสอบสวนขยายต่อไป โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกำนันในพื้นที่และต่างพื้นที่ที่ร่วมขบวนการในการเข้าไปบุกรุกครอบครองพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีการจับกุมกำนันบางคนในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า เรียกค่าเสียหายสูงถึง 45 ล้านบาท โดยทางตำรวจจะขยายผลในทุกประเด็นจนให้สิ้นข้อสงสัย หากพบมีใครเกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินการเด็ดขาด ให้ประชาชนมั่นใจ ส่วนเรื่องการดูแลแกนนำและชาวบ้านที่เหลือในพื้นที่จะให้ตำรวจสภ.วังวิเศษ เจ้าของท้องที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เจ้าของพื้นที่ป่าในการทำงานร่วมกัน และจัดชุดสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ป้องกันเหตุไม่ให้เกิดซ้ำ อย่างไรก็ตาม ส่วนการป้องปรามเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำได้ ที่ผ่านมาเชื่อว่าตำรวจท้องที่ทำงานเต็มที่แล้ว ไม่เชื่อว่าจะมีเอี่ยวผลประโยชน์ในสวนปาล์ม ส่วนกรณีที่อ้างว่าทนายเหว่าแจ้งทุกครั้ง ข่าวรั่วทุกครั้งนั้น เพราะข้อเท็จจริงในพื้นที่เห็นกันอยู่ คนบางคน ชาวบ้านบางคน ก็ต้องการมีผลประโยชน์ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ตร.ก็พยามทำเต็มที่ เพราะเราต้องดูแลพี่น้องปชช.ให้เหมือนดูแลคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เต็มที่ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน
ข่าวน่าสนใจ:
- ลำปางรวบชายสูงอายุวัย 63 ลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่เขตป่าสงวนฯ
- สุดยอดงานกฐินบุญต่อชีวิตคน พระอาจารย์เขียวทอดกฐินสามัคคีจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินและอุปกรณ์ทางการแพทย์มุลค่ากว่า5ล้านบาท
- โครงการคุ้มครองเด็กเพื่อความปลอดภัยจากสื่อออนไลน์
- "ทีเส็บ" และภาคีเครือข่าย ชวนคนไทยร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจเชียงรายหลังวิกฤตน้ำท่วม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: