ตรัง -โควิดพ่นพิษทำเกษตรกรกว่า 20 ราย เดือดร้อนหนัก ผลผลิตราคาตกต่ำขีดสุดในรอบหลายสิบปี เหลือกก.ละ 3 -5 บาท ตกค้างจำหน่ายไม่ออกประมาณ 100 ไร่ ประมาณ 100 ตัน โดยบางรายต้องขนผลผลิตตัวเองมาวางขายริมทาง หวังจะได้เงินกลับคืนบ้าง แต่ขายยาก เพราะผลผลิตในพื้นที่มีเป็นจำนวนมาก
วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เกษตรกรปลูกฟักทอง ในพื้นที่ต.นาหมื่นศรี และ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง รวมกว่า 20 ราย พื้นที่ปลูกประมาณ 100 ไร่ ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิ 19 ขายฟักทองไม่ได้ ไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อเหมือนปีที่ผ่าน เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้มีฟักทองหลังเก็บเกี่ยวกองเต็มบ้าน ไม่มีตลาดระบายสินค้าต้องประสบภาวะขาดทุน อย่างหนัก จากเดิมปีที่ผ่านมาๆ เคยจำหน่ายได้ราคากิโล 23 บาท ขณะนี้เหลือกิโลกรัมละ 3- 5 บาท ก็ยังขายไม่ได้ โดยบางรายต้องขนผลผลิตตัวเองมาวางขายริมทาง หวังจะได้เงินกลับคืนบ้าง แต่ขายยาก เพราะผลผลิตในพื้นที่มีมาก
นางสาววรรณภา พลวัตร อายุ 25 ปี เกษตรกรผู้ปลูกฟักทอง หมู่ที่ 5 ตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า ตนได้ปลูกฟักทองพันธุ์ทองอำไพ ในที่นา 4 ไร่ หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งปลูกปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว โดยการปลูกฟักทองแต่ละครั้งจะใช้เวลา 3 เดือน จึงสามารถเก็บผลผลิตได้ ในปีนี้ตนปลูกฟักทองช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็เจอกับวิกฤติโควิด 19 ระลอก 3 พอดี ทำให้ฟักทองขายออกไม่ได้ โดยปีที่ผ่านมาจะมีพ่อค้าคนกลางจากตลาดหัวอิฐ จ.นครศรีธรรมราช มารับซื้อถึงแปลง ในราคากิโลกรัมละ 23 บาท แต่ปีนี้กลับไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ ทำให้มีฟักทองตกค้างอยู่ที่บ้านประมาณ 2.5 ตัน โดยปกติแล้วฟักทองที่ปลูกจะให้ผลผลิต 1 ไร่ ต่อ 1 ตัน ปีนี้ตนได้ผลผลิต 4 ตัน ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวแล้วขายไม่ออก ตนจึงขายให้กับแม่ค้ารายย่อย เช่น แม่ค้าตลาดนัด แม่ค้าร้านของชำ แม่ค้ารถเร่ขายกับข้าว รวมทั้งขายปลีกทั่วไป ไปบ้างแล้วประมาณ 1.5 ตัน ส่วนฟักทองที่ตกค้างอยู่ที่บ้านยังไม่รู้ว่าจะขายออกหมดเมื่อไหร่ เพราะหากตั้งกองไว้นานจะเกิดการเน่าเสีย และ เสียน้ำหนัก จากภาวะการณ์ดังกล่าวทำให้ตนขาดทุนไปแล้วเกือบ 50,000 บาท
ด้านนางสมจิตร ฤทธิมา อายุ 61 ปี เกษตรชาวต.นาหมื่นศรี กล่าวว่า ตนปลูกฟักทองจำนวน 10 ไร่ หรือ ผลผลิตประมาณ 10 ตัน ปีนี้ต้องนำฟักทองมาเปิดแผงขายข้างถนน ในราคากิโลกรัมละ 3-5 บาท เพราะไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ ปีที่ผ่านมา เพราะได้รับผลกกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ปีนี้ต้องกล้ำกลืนขายปลีกในราคากิโลกรัมละ 3-5 บาท ถือเป็นราคาที่ต่ำมาก เนื่องจากเดิมทีจะขายได้กิโลกรัมละ 23-28 บาท แต่ต้องจำใจขายดีกว่าปล่อยให้เน่าเสีย และปีนี้ตนขายทุนจากการลงทุนปลูกฟักทองมากถึง 70,000 บาท
ส่วนตัวอยากวอนให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกฟักทองในต.นาหมื่นศรี และ ต.นาโยงเหนือ ซึ่งมีเกษตรกรปลูกฟักทองเกือบ 20 ราย หรือ คิดเป็นพื้นที่ปลูกเกือบ 100 ไร่ โดยเกษตรกรแต่ละรายต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกัน
