X

สลด หนุ่มใหญ่ปีนเก็บผลกระท้อนฟ้าผ่าดับคาที่

ตรัง – เตือนภัยต้องระวัง..ฟ้าผ่า…สลดฟ้าผ่าชายวัย 47 ปีขณะปีนขึ้นไปเก็บกระท้อนดับคาที่ คาดพกโทรมือถือขึ้นไปบนต้นกระท้อนด้วย 

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ร.ต.อ.สมใจ นิ่มวุ่น ร้อยเวรฯ สภ.หนองตรุด รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต ในพื้นที่หมู่.6 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง หลังรับแจ้ง ได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลตรัง รุดไปยังที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 116/3 ม.6 บ้านควรสระแก้ว ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง โดยผู้ตายคือนายราศรี สุขยิ่ง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ตำบลนาโต๊ะหมิง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สภาพศพเสียชีวิตอยู่ใต้โคนต้นกระท้อน ห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเดินทางไปมุงดูจำนวนมาก  จากการชันสูตรพลิกศพ พบบริเวณหน้าอกมีรอยไหม้เสื้อฉีกขาดและกางเกงยีนส์ฉีกขาด ทั้งหมด

จากการสอบถามญาติๆของผู้ตายทราบว่าผู้ตายได้ปีนขึ้นไปเก็บลูกกระท้อนซึ่งเป็นบ้านของพี่ชาย ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันนี้ ได้เกิดเสียงฟ้าผ่า 3 ครั้งในขณะที่มีแดดออกฟ้าแจ่ม โดยที่ไม่มีฝนตกลงมาแต่อย่างใด โดยครั้งแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เข้าใจว่าผู้ตายน่าจะพยายามไต่กลับลงมา ปรากฏว่าเกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาอีก 2 ครั้ง จึงถูกร่างของผู้ตายร่วงตกลงมาสู่พื้น ที่ความสูงประมาณ 7 เมตร โดยมีเศษผ้าของผู้ตายเกี่ยวติดอยู่บนต้นกระท้อน รวมทั้งไม้สอยยังคาอยู่บนต้น  ในขณะที่บริเวณโคนต้นกระท้อน เปลือกต้นกระท้อนกะเทาะขาดเป็นแนวยาวมองเห็นเนื้อใน เป็นจุดๆ ซึ่งเกิดจากแรงฟ้าผ่าที่ลงมาสู่พื้น และพบมีกระท้อนอยู่เต็มหม้อ ส่วนทางด้านนางชวา ตันเล้ง อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายได้เสียใจจนช็อกเจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งรพ.ตรังแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ผู้ตายได้พกโทรศัพท์มือถือใส่ไว้ในกระเป๋าเอาขึ้นไปเก็บกระท้อนด้วย และไม้สอยก็มีโลหะอยู่ปลายไม้ หรือฟ้าอาจจะผ่าลงต้นไม้แต่บังเอิญผู้ตายไปอยู่ตรงต้นกระท้อนพอดีก็เป็นได้

ด้าน นางสาวนภาพร สุขยิ่ง อายุ 32 ปี หลานสาวผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายมาปีนเก็บกระท้อนฟ้าผ่าครั้งแรก ยังไม่ลงมา แต่ผ่าครั้งที่ 2 ยังลงมาไม่ถึงพื้น ปรากฏว่าถูกฟ้าผ่าลงจนตกลงมาสู่พื้นที่ โดยไม่มีฝนตกลงมาแต่อย่างใด โดยฝนตกโปรยปรายลงมาหลังเกิดเหตุแล้วเท่านั้น แต่ตกเบาๆ

ด้านนางปรีดา ทองสง อายุ 58 ปี 112/4 ม.6 ต.นาโต๊ะหมิง พี่สาวคนตาย เล่าว่า ในขณะนั้นผู้ตายอยู่ใต้ต้นกระท้อนกำลังจะปีนเก็บก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าครั้งแรกก็เลยบอกว่าอย่าขึ้นไปเก็บและตัวเองได้พาหลานกลับเข้าบ้าน หลังจากนั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าอีก2 ครั้ง จึงทราบว่าผู้ตายร่วงลงจากต้นกระท้อนดับคาที่แล้ว ทั้งนี้ ทางญาติจัดเตรียมเต็นท์ โต๊ะ เก้าอี้ และหุงหาอาหาร พร้อมกับได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาทำพิธีสวดอภิธรรมเป็นครั้งแรก จากนั้นจะเก็บศพไว้ก่อน  เนื่องจากยังอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝากแจ้งเตือนเกษตรกรให้ระมัดระวังในช่วงนี้กำลังเข้าฤดูมรสุมในภาคใต้ มักเกิดฝนฟ้าคะนอง และเกิดฟ้าผ่าบ่อยครั้ง รวมถึงพายุพัดถล่ม สร้างความเสียหาย และเกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ รวมทั้งห้ามปีน หรืออยู่ใต้ต้นไม้ขณะฝนตก ฟ้าร้อง หรือแม้กระทั่งฝนตกในละแวกใกล้เคียง แต่ไม่ตกในจุดที่เราอยู่ก็ตาม ฟ้าก็สามารถผ่าลงมาได้เช่นกัน อย่างกรณีนี้

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน