ผู้ประกอบการโรงงานภาคอุตสาหกรรมควักกระเป๋ากว่า 24 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มฉีดให้แก่พนักงานของตนเองอย่างเร่งด่วน พร้อมประกาศชะลอรับคนงานใหม่แม้จะขาดแคลนแรงงานก็ตาม แต่หากจะเข้าทำงานต้องมีหนังสือรับรองการกักตัวครบ 14 วัน จากรพ.สต.,อสม.หรือผู้นำชุมชนยืนยัน และแยกคนทำงานไม่ให้สัมผัสกัน หรือ น้อยสุด จนไม่สัมผัสกันเลย หวั่นซ้ำรอยคลัสเตอร์ถุงมือยาง พร้อมเตรียมแผนรับมือหากเกิดการระบาดขึ้นภายในโรงงานตนเอง ในขณะที่โฆษกศคบ.ตรัง เผย เป็นไปได้สูงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรร “ซิโนฟาร์ม” ให้ภายในมิ.ย.นี้ หลัง อบจ.ตรัง ควัก 80 ล้านจองซื้อ
วันที่ 1 มิถุนายน 2564 หลังเกิดคลัสเตอร์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ขึ้นในโรงงานผลิตถุงมือยางของบริษัทศรีตรังโกลฟส์ ตำบลควนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทำให้ต้องทำการตรวจหาเชื้อ Swap พนักงานทั้งหมด 1,597 คน เบื้องต้น ติดเชื้อแล้ว 117 คน จากยอดผู้ตรวจทั้งหมด 700 คน และต้องผลตรวจเชื้อที่เหลืออีกประมาณ 800 ราย ซึ่งจะทราบผลภายในวันนี้และพรุ่งนี้
ล่าสุด ที่สำนักงานอุตสาหกรรม นางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมใสจ.ตรัง เร่งหารือกันเรื่องการจัดซื้อวัคซีนทางเลือก โดยยืนยันว่าล่าสุด นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้ลงนามอย่างรวดเร็วให้สภาอุตสาหกรรมจัดซื้อวัคซีนทางเลือกได้ เบื้องต้น ขอไปจำนวน 12,000 โดส หากได้ตามจำนวน ต้องมาคิดว่าให้ใครที่ไหนก่อน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมที่สุดให้กับสถานประกอบการในจังหวัดตรัง และลดการแพร่เชื้อให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจของจังหวัดตรัง ซึ่งอาจต้องแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มแปรรูปอาหารทะเล โรงงานปาล์มน้ำมัน โรงงานแปรรูปยาง โรงงานแปรรูปไม้ยาง เป็นต้น เพื่อให้ครอบคลุมโรงงาน ซึ่งความจริงคนงานมากกว่านั้น แต่เบื้องต้นเอาจำนวนเท่านี้ เพราะบางคนได้จองผ่านหมอพร้อมแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการโดยเฉพาะโรงงานขนาดใหญ่มีความตื่นตัวมาก และความกลัวจะเกิดระบาด เพราะตอนนี้มีกรณีศึกษาที่เกิดกับโรงงานถุงมือยาง ทุกโรงงานจึงใช้มาตรการแยกคนทำงานไม่ให้สัมผัสกัน หรือ น้อยสุด จนไม่สัมผัสกันเลย โรงงานขนาดใหญ่พนักงานประมาณ 1,600 คน ก่อนนำวัสดุเข้าโรงงานก็ต้องฉีดฆ่าเชื้อ พอจะส่งออกก็ต้องฆ่าเชื้ออีก และให้ความรู้แก่คนงาน
ข่าวน่าสนใจ:
- ร้อยเอ็ด...ปีที่ 11 วัดวิมลนิวาสร้อยเอ็ดต้นตำหรับกฐินบุญฤทธิ์ ศรัทธาล้น รวมยอดกฐินปีนี้ 7 ล้านบาท
- ตรัง-วงการลูกหนังตรัง คืนชีพในรอบ 10 ปี หลัง “เมืองตรัง ยูไนเต็ด” เปิดบ้าน “เมืองตรัง สเตเดี้ยม” ล้มยักษ์ "เมืองทอง ยูไนเต็ดลอยลำเข้ารอบ 16…
- "แพร่แข็งจ๊ด" 2 พรรคการเมือง ยืนยัน แก้กฎหมายสุรา soft power ผู้ผลิตสุราเมืองแพร่รอความหวัง
- แก๊งโจรต่างชาติ 4 คน ลวง นทท.ชาวยูเครน มัดมือ-เท้าล็อกคอ ปล้นทรัพย์ 2.5 แสนดอลลาร์หรือประมาณ 8.5 ล้านบาทไทย
ด้านนายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรมหลายจังหวัดไม่ใช่เฉพาะในจ.ตรัง เช่น จ.เพชรบุรี จ.สระบุรี โดยจุดของการแพร่ระบาด คือ เราขาดคนงาน เพราะไม่สามารถนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาได้ ในขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมยังต้องดำเนินการผลิต และต้องหาแรงงานมาเสริมกำลังการผลิต เมื่อมีคนมาสมัครงาน ก็ต้องรับเข้าทำงาน โดยไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าคนที่มาสมัครติดเชื้อมาหรือไม่ ซึ่งสำหรับกรณีในจังหวัดตรัง ส่วนหนึ่งก็เป็นคนงานที่รับเชื้อมาก่อนจากจ.เพชรบุรี และย้ายกลับมาภูมิลำเนาที่ตรัง ผู้ประกอบการเองจะไม่ทราบเลยว่าเขามาจากไหน เมื่อทราบจุดอ่อนตรงนี้แล้ว ทางสภาอุตสาหกรรมได้ตกลงกันว่าในช่วงระยะนี้ ที่ไม่สามารถบริหารจัดการอะไรได้มาก เราต้องหยุดรับพนักงานใหม่ และได้แจ้งไปยังผู้สมัครงานไปกักตัวเอง 14 วัน แล้วนำหนังสือรับรองการกักตัวจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม. เราจึงจะให้เริ่มงานได้ โดยภาคอุตสาหกรรมจ.ตรัง ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก มีทั้งแรงงานไทย แรงงานข้ามชาติรวมกันกว่า 20,000 คน แบ่งเป็น แรงงานในระบบ (อยู่ในระบบประกันสังคม) และแรงงานนอกระบบ ที่ทำงานรับเหมา หรือ งานเฉพาะกิจบ้าง ใน 20,000 กว่าคน บางรายได้ไปสมัครในหมอพร้อม และได้ลงชื่อในแบบสำรวจของสาธารณสุข โดยเขายินดีรอวัคซีนตามที่รัฐจัดให้ ดังนั้นวัคซีนทางเลือก 12,000 โดส เราซื้อด้วยตนเอง ต้องเอามาใช้กรณีเร่งด่วน หรือใช้ในพนักงานซึ่งเคลื่อนไหวเข้าออกตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้น้อยลง เบื้องต้น ต่อคนต้องฉีด 2 โดส ค่าใช้จ่ายตกคนละประมาณ 2,000 กว่าบาท ดังนั้นภาคอุตสาหกรรม จ.ตรัง ต้องใช้งบประมาณมากกว่า 24 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนเร่งด่วนครั้งนี้
แฟ้มภาพ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ วันที่ 31 พฤษภาคม ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น2 ศาลากลาง จ.ตรัง นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษกศบค.ตรัง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะปรานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดตรัง ได้ลงนามในหนังสือถึงเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขอความอนุเคราะห์จองซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID 19) ว่า เป็นความร่วมมือกันของจังหวัดตรัง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง(อบจ.ตรัง)ซึ่งได้สนับสนุนงบประมาณ จำนวน 80 ล้านบาท และได้เข้าพิจารณาในสภาอบจ.ตรังแล้วเพื่อให้การใช้งบประมาณนี้สามารถทำได้ แต่การปลดล็อคระเบียบเพื่อดำเนินการ ต้องรอกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอแก้กฎกระทรวง ซึ่งเดิมมีกฎกระทรวงห้ามเอาไว้ มิให้อปท.จัดซื้อวัคซีนจากบริษัทเอกชน ซึ่งหากมีการแก้ไขเพิ่มเติมให้จัดซื้อจากองค์กรในกำกับของรัฐได้ จะทำให้การใช้งบประมาณนี้สามารถทำได้
“โดยหลักการ จังหวัดตรังโดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง อบจ.ตรัง และ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ได้ทำหนังสือขอซื้อวัคซีนไป โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 40,000 คน ที่เป็นรายชื่อคนในองค์กร และ 12,000 คน สำหรับคนในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ได้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เพื่อให้คนในโรงงานได้ฉีด นี่คือตัวเลขที่ได้ส่งไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งตอนนี้ได้รับการตอบรับ และมีแนวโน้มที่ดี มีความเป็นไปได้สูง ที่จะได้รับจัดสรรวัคซีนจำนวนนี้มาให้ประชาชนชาวตรังในเดือนมิถุนายนนี้”โฆษกศบค.ตรังระบุ
นายแพทย์ตุลกานต์ กล่าวด้วยว่า เดิมรัฐกำหนดว่า วัคซีนหลักเป็นแอสตร้าเซนเนก้าสำหรับกลุ่มที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ส่วนใครที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมขณะนี้รัฐบาลยังยืนยันว่ายังคงเป็นแอสตร้าเซนเนก้า แต่สำหรับผู้ลงทะเบียนแบบกลุ่มเดิม ไม่มีการกำหนด คิดว่าคงเป็นซิโนแวค แต่เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับแผนแบบกระจายวัคซีนให้กระจายตามพื้นที่การระบาด และความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้นแนวโน้มที่จ.ตรังจะได้วัคซีนในขณะนี้ยังไม่ได้จัดสรรเพิ่ม ต้องรอรัฐบาลพิจารณา ซึ่งตอนนี้ใกล้ถึงวันที่ 7 มิ.ย.แล้ว ตัวเลขเดิมที่ยืนยันของจ.ตรัง คือ 51,000 โดส ในเดือนมิถุนายน ฉะนั้น ผู้ที่ลงทะเบียนหม้อพร้อม 44,000 คน จะได้รับการฉีดตามที่ลงทะเบียนไว้ ส่วนที่เกินมา 7,000 คน จะจัดให้กับองค์กรที่ลงชื่อไว้ เช่น อสม. ตามลำดับความสำคัญที่รัฐบาลให้แนวทางบริหารวัคซีนไว้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: