รพ.กันตัง จ.ตรัง ทำงานหนักเร่งตรวจซ้ำผู้ป่วยติดเชื้อจากโรงงานถุงมือยาง คัดแยกส่งรพ.สนาม และค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในกลุ่มครอบครัวผู้ติดเชื้อ เพื่อเร่งควบคุมโรคสกัดการลุกลามสู่ชุมชนให้เร็วที่สุดรวมวันละไม่ต่ำกว่า 200 คน และต้องแบกรับผู้ป่วยบางส่วนจากรพ.สิเกา ที่ต้องปิดรับแผนกผู้ป่วยใน หลังเจ้าหน้าที่รพ.สิเกา สัมผัสเสี่ยงสูงจากแรงงานเมียนมาซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะคนงานในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา อ.สิเกา ทำคนงานเสี่ยงติดเชื้อแล้วกว่า 300 คน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจหาเชื้อ
วันที่ 3 มิถุนายน 2564 ที่รพ.กันตัง พบว่าทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ รพ.กันตัง ได้ทำงานกันอย่างหนัก หลังการระบาดของเชื้อโควิด19 คลัสเตอร์โรงงานถุงมือยาง ซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า จำนวน 461 ราย เป็นแรงงานไทย 301 คน แรงงานเมียนมา 160 คน จากการSWAB กลุ่มเสี่ยงกว่า 1,500 คน คงเหลือรอผลการSwab รอบแรกอีกจำนวน 120 คน ส่วนแรงงานที่ผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ ยังเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดกว่า 1,100 คน จะต้องรอทำการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในอีก 7 วันข้างหน้า ทั้งนี้ พบว่าในแผนกคลินิคไข้หวัดของ รพ.กันตังด้านนอกอาคาร หนาแน่นไปด้วยประชาชนกลุ่มผู้สัมผัสร่วมบ้านของผู้ติดเชื้อเดินทางเข้า Swab ตรวจหาเชื้อตลอดทั้งวันๆละกว่า 100 -200 คน
นอกจากนี้ทาง รพ.กันตัง ยังต้องรับดูแลผู้ป่วยจากอำเภอสิเกา เพราะขณะนี้ รพ.สิเกา ต้องปิดให้บริการในแผนกผู้ป่วยใน และ แผนกผู้ป่วยนอก เปิดให้บริการเฉพาะแผนกฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้มีแรงงานข้ามชาติสัญชาติเมียนมา ซึ่งทำงานในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา อ.สิเกา ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลสิเกา และตรวจพบเชื้อโควิด19 จนทำให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์กลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยง และในขณะเดียวกันพนักงานในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา กลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงกว่า 300 คน
เช่นเดียวกับภายในโรงพยาบาล นายชยรักษ์ นาคช่วย เภสัชกรชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันตัง กล่าวว่า ทางรพ.ต้องส่งรถตู้พยาบาลของโรงพยาบาลกันตังไปรับคนงานที่ติดเชื้อจากโรงงานถุงมือยางตลอดทั้งวันๆละนับร้อยราย เพื่อนำตัวมาที่โรงพยาบาลอย่างปลอดภัยที่สุด ไม่ให้สัมผัสคนภายนอก นำมาจอดหน้าตึกรพ.จากนั้นต้องลำเลียงลงจากรถทีละคนให้นั่งภายในรถเข็นที่ทำเป็นกระโจมหุ้มพลาสติกรอบคัน เข็นส่งตัวเข้าห้องเอกซเรย์ปอด เพื่อคัดแยกผู้ป่วยสำหรับส่งต่อไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ หากผู้ติดเชื้อมีอาการทางปอด จะต้องส่งเข้ารักษาตัวในรพ.กันตัง และบางส่วนส่งไปรพ.สนามภายใน รพ.ตรัง หากผู้ติดเชื้อมีสภาพปอดปกติจะถูกแยกส่งไปรักษาตัวที่รพ.สนาม ส่วนอีกภาระกิจเชิงลึกที่ต้องทำร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ฝ่ายปกครองอำเภอกันตัง อสม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รพ.สต.คือ การค้นหาผู้สัมผัสร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อมาตรวจเชื้อโควิด และดูแลการกักตัวในHQ และ LQ ซึ่งจำนวนจะมาก เพราะแต่ละคนจะมีผู้สัมผัสร่วมบ้าน 3-4 คน ซึ่งต้องติดตามตัวมา SWABตรวจหาเชื้อทั้งหมด ซึ่งทางรพ.ต้องแยกพื้นที่ออกจากกัน อาคารตรวจเชื้อโควิดจะอยู่อีกส่วนหนึ่ง แยกจากการรักษาผู้ป่วยทั่วไป ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือสาธารณสุขอำเภอ รพ.สต. และ จนท.ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันค้นหา อย่างไรก็ตาม รพ.กันตัง เป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง แต่ในความเป็นจริงขณะนี้ให้บริการ 90 เตียง โดยปกติโรงพยาบาลจะมีผู้ป่วยมาใช้บริการค่อนข้างเยอะ แต่ในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด19 ผู้ป่วยนอกจะใช้บริการลดลงเหมือนกับทุกโรงพยาบาล แต่พอเข้าฤดูฝนจะมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นทางรพ.สิเกา ซึ่งประสบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ตกเป็นกลุ่มเสี่ยง ได้ประสานขอความร่วมมือทางรพ.กันตัง ให้ช่วยดูแลผู้ป่วยในเขตรับผิดชอบของรพ.สิเกา ซึ่งที่ผ่านมาตอน รพ.กันตัง ประสบปัญหาก็ได้ขอความร่วมมือไปยัง รพ.สิเกา และ รพ.ย่านตาขาว โดยภาพรวมกำลังเจ้าหน้าที่ของ รพ.กันตัง ยังเพียงพอต่อการให้บริการประชาชน ซึ่งมาจากอ.กันตัง และ อ.สิเกา โดยยอมรับว่าเหนื่อย แต่ต้องปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ทุกอย่างต้องทำอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดการระบาดให้ได้ อย่างไรก็ตามทางสาธารณสุขจังหวัดตรัง ยังได้ส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ และฝ่ายสนับสนุน มาช่วยในรพ.กันตัง ตั้งแต่วันแรกที่มีการระบาดของคลัสเตอร์โรงงานถุงมือยาง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: