ตรัง ตัวแทน 3 องค์กรภาคเอกชนตรัง ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง หอการค้าจังหวัดตรัง และชมรมธนาคารจังหวัดตรัง ยื่นหนังสือผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ถึง ส.ส.ตรังทั้ง 3 คน ขอให้ช่วยผลักดันวัคซีนโควิด -19 มาให้จังหวัดตรัง หลังได้รับการจัดสรรไม่เป็นธรรม ทั้งที่มีผู้ติดเชื้อระดับต้นๆ ของประเทศ และเป็นพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด โดยรอบแรกได้แค่ 1,000 โดส ส่วนรอบ 2 ขอไปหมื่นกว่าโดส ได้รับแค่ 1,000 โดส หวั่นธุรกิจเจ๊ง กู้คืนไม่ได้ ด้านนายสาทิตย์ขอ กกร.ทำหนังสือถึง ผอ.ศบค.และรับปากจะทำหนังสือร่วมกับ ส.ส.ตรังทั้ง 3 คน และอดีต ส.ส.เข้ายื่นต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการกาจัดสรรวัคซีนแห่งชาติด้วย เพื่อให้ทบทวนการจัดสรรวัคซีน และให้จัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม โดยควรจัดสรรตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด เพื่อความเป็นธรรม
วันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุมหอการค้า จ.ตรัง ตัวแทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดตรัง นำโดย นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง นายธีรวัฒน์ หวังศริเลิศ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง และนายสุพจน์ ไพบูลย์รุ่งโรจน์ ประธานชมรมธนาคารจังหวัดตรังได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผ่าน 3 ส.ส.ของจ.ตรัง ผ่านระบบวีดีโอคอล์เฟอร์เรนท์ ทั้ง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ,นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ และนางสาวสุณัชฐา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้ช่วยผลักดันเรื่อง การจัดสรรวัคซีน covid-19 ให้จังหวัดตรัง โดยจังหวัดตรังถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด แต่จังหวัดตรังได้รับการจัดสรรวัคซีนที่จองผ่านหมอพร้อมน้อยมาก โดยรวมได้มาแค่ 11,000 โดสเท่านั้น โดยครั้งแรกได้จำนวน 10,000 โดส และรอบสองได้รับจัดสรรเพียง 1,000 โดส โดยมาครั้งละ 400 โคส และ 600 โดส เท่านั้น ทั้งนี้ ส่วนใหญ่จะฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐมากกว่าประชาชนที่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย
นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดตรังพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมากติดในระดับต้นๆ ของประเทศ จนเกิดการระบาดไปทั่วทุกอำเภอ จนเกิดคลัสเตอร์ที่ต้องปิดโรงงาน ปิดหมู่บ้าน ชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ศบค.ก็ทราบดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อในระดับต้นๆ ของประเทศ และถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด แต่กลับได้รับการจัดสรรวัคซีนมาน้อยมาก ส่วนมากฉีดให้เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนประชาชนทั่วไปยังได้รับการฉีดน้อยมาก ส่วนที่มีการจองวัคซีนไว้แล้ว พอถึงเวลาก็ถูกเลื่อนการฉีดออกไปอีก ขณะที่ภาคเอกชนซึ่งเป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดตรังก็ได้รับกระทบจากสถานการณ์โควิดไม่น้อย โดยเฉพาะโรงงาน หรือร้านค้าต่างๆ ที่จำต้องปิดกิจการไปตามคำสั่งของจังหวัดมาหลายรอบแล้ว จนส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมย่ำแย่ และเกรงว่าหากจังหวัดตรังได้รับการจัดสรรวัคซีนมาน้อยกว่าจังหวัดอื่นๆ ก็จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจซึมลึกลงไปมากกว่านี้ ซึ่งกว่าที่จะฟื้นกลับมาได้ดังเดิมในภายภาคหน้าจะต้องใช้ระยะเวลานานมาก ดังนั้น ตัวแทนภาคเอกชนของจังหวัด ประกอบด้วย หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และชมรมธนาคาร จึงต้องออกมาเรียกร้องผ่านผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ให้มีการจัดสรรวัคซีนมาจังหวัดตรังให้เพียงพอต่อความต้องการ ล่าสุด ในส่วนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งสภาอุตสาหกรรมได้ขอไป 9,600 โดส แต่ได้รับการจัดสรรมาประมาณ 1,000 โดส ในส่วนที่เหลือก็ยังคงต้องรอต่อไป ขณะที่วัคซีนจากที่อื่นๆ ก็ยังไม่มีความชัดเจน แถมบางจังหวัดยังได้รับการจัดสรรสูงมาก จนถูกมองว่าเป็นวัคซีนการเมืองไปแล้ว จึงอยากให้ ส.ส.ของจังหวัดตรัง ช่วยผลักดันให้มีการเร่งจัดสรรวัคซีนอย่างเพียงพอและเป็นธรรม เพราะมิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ เบื้องต้น คาดว่าตัวเลข GDP ของจังหวัดตรังในปีนี้จะตกลงไปประมาณ 25% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งนับว่ารุนแรงมาก
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ภาคเอกชนตรังทำหนังสือถึง ผอ.ศบค.ตนเองจะไปยื่นให้ ที่ผ่านมาได้อภิปรายในสภาแล้วว่า การจัดสรรวัคซีนต้องให้การแพทย์นำการเมือง ไม่ใช่ให้การเมืองนำการแพทย์ เพราะการจัดสรรที่ไม่เป็นธรรม และรับปากจะทำหนังสือร่วมกับ ส.ส.ตรังทั้ง 3 คน และอดีต ส.ส.เข้ายื่นต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการกาจัดสรรวัคซีนแห่งชาติด้วย เพื่อให้ทบทวนการจัดสรรวัคซีน และให้จัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม โดยควรจัดสรรตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด เพื่อความเป็นธรรม
