ตรัง ภรรยาหนุ่มเล่นเซิร์ฟสเก็ตตกดาดฟ้าวอนโซเชียลอย่าคอมเมนท์บั่นทอนจิตใจลูกๆ เพราะมันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น การสูญเสียครั้งนี้ครอบครัวก็เสียใจมากพอแล้ว
จากเหตุการณ์หนุ่มเล่นเซิร์ฟสเก็ตบนดาดฟ้าชั้น 5 พลาดท่าตกลงมาจากตึกลงบนถนนเสียชีวิต ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 มิ.ย.64 คือ นายนฤชิต รุ่งเรืองศิริพันธ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/8 ถนนวิเศษกุล ซอย 2 (ถนนเก่า หลังโบสถ์คริสต์) ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ซึ่งผู้ตายได้เล่น “Surfskate” (เซิร์ฟสเก็ต) บนดาดฟ้าบ้านพัก โดยชั้นล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า บริษัท รุ่งเรืองฮอนด้าตรัง จำกัด โดยที่ผู้ตายได้ตื่นเช้ามาเล่นเซิร์ฟสเก็ต ตามลำพังจนมาเกิดอุบัติเหตุพลาดท่าตกออกมาจากตึกลงสู่ถนนวิเศษกุล ซอย 4 (ซอยคลองห้วยยาง) ตำบลทับเที่ยง ร่างกายกระแทกกับพื้นถนนอย่างแรง โดยชั้นดาดฟ้าของอาคาร 5 ชั้น มีความสูงจากระดับพื้นดินประมาณ 20 – 25 เมตร ญาติรีบนำตัวส่งรพ.เพื่อให้แพทย์ช่วยยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล เป็นเหตุให้นายนฤชิตเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางญาติจึงได้นำศพมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่สมาคมฮกเกี้ยน ถนนกันตัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมได้ออกมาเตือนสติคนชื่นชอบกีฬาเซิร์ฟสเก็ต เพราะถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ และปัจจุบันมีคนฝึกเล่นจำนวนมากให้เล่นอย่างระมัดระวังและเล่นในที่เหมาะสม อย่าประมาทเพราะจะทำให้เกิดการสูญเสียได้ และหลังจากมีสื่อบางสำนักนำเสนอไม่ตรงกับความเป็นจริงโดยเฉพาะเรื่องความสูงของกำแพงดาดฟ้า หลังจากมีกระแสข่าวออกไป มีหลากหลายคอมเมนท์และมีบางคอมเมนท์ มันกลายเป็นว่ามันมีผลกระทบกับลูกๆ เป็นการบั่นทอนจิตใจซ้ำเติมกัน ด้านนางกนกรจน รุ่งเรืองศิริพันธ์ อายุ 41 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ได้ขอบคุณสำหรับคนที่ให้กำลังใจไม่ว่าจะเป็นเพื่อนญาติพี่น้องและทุกๆ คอมเมนท์ที่ให้กำลังใจ แต่สำหรับคอมเมนท์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอยากให้นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับคนที่คุณรักมากๆ แล้วยังต้องมาเจอสังคมซ้ำเติมกันมันไม่มีใครรู้สึกดี
ด้านนางกนกรจน รุ่งเรืองศิริพันธ์ ได้ขึ้นไปวัดความสูงของกำแพงบนดาดฟ้าและบริเวณทั้งหมดของดาดฟ้า ซึ่งความสูงอยู่ที่ 95 เซนติเมตร และพื้นที่ดาดฟ้าทั้งหมด ขนาดกว้าง 15 เมตร และยาว 23 เมตร พร้อมนำคลิปของสามีขณะเล่นเซิร์ฟสเกต ที่บริเวณมูลนิธิกุศลสถานตรังทุกวัน เพราะสามีอยากดูแลสุขภาพ เนื่องจากไปตรวจร่างกายแล้วพบว่ามีคอเลสเตอรอลสูง จึงอยากออกกำลังกาย โดยเริ่มด้วยการปั่นจักรยาน วิ่ง ก่อนจะหันมาเล่นเซิร์ฟสเกตคนเดียวบนดาดฟ้าบ้านและที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง ส่วนอีกคลิปเป็นของตัวเองที่เล่นเซิร์ฟสเก็ต บนดาดฟ้าเช่นกันให้เห็นว่ากำแพงมีความสูงพอสมควรและไม่ได้อันตรายอย่างที่เป็นข่าว แต่สามีเป็นคนสูง 182 เซนติเมตร และชอบเล่นแบบหมุนตัวอาจจะเกิดพลาดท่าจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว ส่วนที่บรรยากาศงานศพสามี นายนฤชิต รุ่งเรืองศิริพันธ์ ก็ได้จัดตกแต่งด้วยดอกไม้ให้ดูแล้วสดชื่น และเป็นความชื่นชอบของสามี โดยเฉพาะดอกไฮเดรนเยีย จะเป็นดอกไม้ที่เขาชอบมาก และตอนที่อยู่ด้วยกันแม้ไม่มีโอกาสอะไรสำคัญแต่สามีจะชอบซื้อดอกไม้มาให้เสมอ และยังมีบรรดาญาติมิตรเพื่อนสหาย ต่างเดินทางมาให้กำลังใจ และร่วมวางพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจอย่างไม่ขาดสาย
นางกนกรจนฯ ภรรยาผู้เสียชีวิต (นายนฤชิต หรือ เบิร์ด รุ่งเรืองศิริพันธ์ อายุ 41 ปี) กล่าวทั้งน้ำตาว่า ในขณะที่สื่อบางสำนักบางข่าวที่เราให้ข้อมูลไปได้ลงความสูงของกำแพงไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งตนเองสูงประมาณ 150 ซม. ซึ่งเรายังไม่ได้ขึ้นไปวัดกำแพงเลยเรายังทำใจไม่ได้แต่ยังไงก็ไม่ใช่สูง 60 เซนติเมตรแน่นอน แต่พอเขาอ่านออกมาเด็กๆยังไม่เข้าใจ คอมเมนท์ที่มีบางคอมเมนท์ว่า ” อายุ 40 ก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วทำอะไรทำไมไม่คิด” สมองคิดได้ยังไง” ซึ่งมันกลายเป็นว่ามันมีผลกระทบกับลูกๆ แล้วก็สงสารเขาก็เสียใจที่พ่อเขาเสียแล้วและเราไม่สามารถห้ามเด็กให้เข้าดูในโซเชียลได้ มีข่าวออกไปโอกาสที่มันจะมีความเห็นแย่ๆ มันก็ย่อมมีอยู่แล้ว อย่างเรื่องความประมาทเราก็ยอมรับนะว่าอุบัติเหตุไม่งั้นมันจะเรียกว่าอุบัติเหตุได้ยังไง ยังไงก็มั่นใจว่ากำแพงสูงกว่านั้นแน่นอน แต่พอข่าวออกมาแบบนี้เรามีความรู้สึกว่าเราไม่อยากที่จะให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเลย และใช่เบื้องต้นสาเหตุมันเกิดจากความประมาท ซึ่งสามีตนเองสูงประมาณ 182 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเทียบกับมาตรฐานทั่วๆ ไปเขาสูงมากอยู่แล้ว แล้วบังเอิญท่าที่เขาเล่นมันก็เป็นท่าที่ต้องหมุนตัวกลับ โอกาสที่มันจะผิดจังหวะและที่ผ่านมาที่เขาขึ้นไปเล่นเขาก็พยายามระมัดระวังตลอด ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งตอนนี้รู้สึกสงสารเด็กๆ ไม่อยากให้เด็กๆ เข้าไปอ่านความคิดเห็นนที่มาบั่นทอนจิตใจซ้ำเติมกัน โดยเฉพาะที่ว่า” สมควรแล้วที่ตกลงมา” มันบั่นทอนจิตใจมาก แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับคนที่ให้กำลังใจไม่ว่าจะเป็นเพื่อนญาติพี่น้องและทุกๆ คอมเมนท์ที่ให้กำลังใจ แต่สำหรับคอมเมนท์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอยากให้นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับคนที่คุณรักมากๆ แล้วยังต้องมาเจอสังคมซ้ำเติมกันมันไม่มีใครรู้สึกดี
ตอนนี้ลูกทั้งสองคนมีความเข้มแข็งกว่าตนเองเป็นอย่างมาก และตอนนั้นก็ได้กระซิบข้างหูสามีแล้วว่าให้ไปอย่างสบายจะดูแลลูกๆ ให้ แต่พอมาถึงวันที่จัดงานศพจริงๆ มันทำใจยากมาก เรายังไม่คิดว่าเกิดขึ้นจริงเลย จะนอนหลับก็เห็นภาพครั้งสุดท้ายที่เขาจับมือเราพยายามจะพูดกับเรารู้สึกสงสารเขาที่เขาอยากจะพูดกับเรา
ทั้งนี้ตนเองไม่สามารถห้ามคอมเมนท์ในทางลบได้ ซึ่งก็รู้ว่าสภาวะแบบนี้ทุกคนก็เครียดทุกคนก็อยากหาที่ระบายก็ห้ามไม่ได้ ซึ่งตนเองก็ได้แต่ปลอบลูกว่าพยายามอย่าเข้าไปดู อย่าไปรับรู้อย่าไปเห็นถ้าเห็นแล้วมันทำให้สุขภาพจิตเราเสีย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: