ตรัง ชุมนุมสหกรณ์ตรังเริ่มเดินหน้าดำเนินกิจการเต็มรูปแบบ หลังประสบปัญหาต้องหยุดดำเนินกิจการเมื่อ 3 ปีก่อน เนื่องจากอดีตผู้จัดการและพวกร่วมกันทุจริต ทำสูญเสียเกือบ 300 ล้านบาท โดยขณะนี้ตำรวจออกหมายจับแล้ว พร้อมประกาศตั้งรางวัลนำจับจำนวน 100,000 บาท เพื่อนำตัวอดีตผู้จัดการมาลงโทษ และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ชุมนุมสหกรณ์ ซึ่งเป็นของเกษตรกรชาวสวนยาง
ที่ชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นจุดรวบรวมยางแผ่นรมควันจากสหกรณ์สมาชิก และเป็นตลาดเครือข่ายตลาดกลางยางพารา จ.สงขลา นายสมพร เต็งรัง ประธานชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง นำผู้สื่อข่าวดูความคืบหน้าในการพลิกฟื้นกิจการของชุมนุมสหกรณ์ ที่ขณะนี้สามารถเรียกความเชื้อมั่นได้แล้วในระดับหนึ่ง ที่ขณะนี้มีสหกรณ์สมาชิก ซึ่งเป็นสถาบันเกษตรกรจำนวน 15 แห่ง และเอกชนผู้ประกอบการแปรรูปยางพารารายย่อย ให้ความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ นำยางมาฝากขาย และโรงงานใหญ่ส่งออกยางพารารายใหญ่ว่าจ้างให้ทำยางพาราอัดก้อนก่อนการส่งมอบให้แก่บริษัทส่งออกรายใหญ่ที่ชนะการประมูลยางพารา
โดยนางสมพร เต็งรัง ประธานชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง กล่าวว่า จากเดิมชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ประสบปัญหาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ตรังในขณะนั้นคือ นางนิตรดา อาจเส็ม รวมกับเจ้าหน้าที่บางคนได้ทุจริตลักลอบนำไปยางไปขาย โดยไม่นำเงินเข้าชุมนุม จนทำให้ชุมนุมเสียหายหมดตัว ไม่มีเงินดำเนินกิจการต่อ มูลค่าความเสียหายจำนวน 290 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนั้นทางชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ประสบปัญหามาตลอด รวมทั้งว่างเว้นกรรมการ หลังจากเมื่อมีกรรมการชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารเมื่อปี 2563 ซึ่งตั้งแต่นั้นมาได้ขับเคลื่อนกิจการเพื่อประโยชน์ต่อสมาชิก และปัจจุบันนี้สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับสหกรณ์ยางรายอื่นๆ ตลอดทั้งสมาชิกของชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง โดยทุกวันนี้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่สหกรณ์สมาชิก มีสมาชิกและเครือข่ายนำยางเข้ามาขายเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน เฉลี่ยวันละ 30 ตัน บางวันก็ได้ประมาณ 50 ตัน โดยชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ได้รวบรวมขายกับผู้ประกอบการณ์โดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง แก้ปัญหาการถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง กดราคาสมาชิก และชาวสวน โดยชุมนุมสหกรณ์จะรับซื้อตามราคามาตรฐานของตลาดกลางยางพาราสงขลา ซึ่งทำให้สมาชิกฯไม่เสียเปรียบ ปัจจุบันนี้ทางชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ยังได้ขยับต่อยอดไปอีกขั้น คือ มีบริษัทส่งออกยางพาราได้ว่าจ้างให้ชุมนุมสหกรณ์ตรัง อัดก้อนเป็นยางลูกขุน หรือยางอัดก้อน ขนาดก้อนละ 110 กก. เพื่อส่งมอบให้ นำไปส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยางแผ่นรมควันจากสมาชิก เมื่อมีคนประมูลได้ผ่านตลาดกลาง ทางชุมนุมสหกรณ์ได้เอามาอัดก้อนทั้งหมด ซึ่งส่งผลดีให้สหกรณ์มีรายได้สองต่อจากการรวบรวมยาง และ จากการรับอัดก้อนยางลูกขุน
ส่วนเรื่องคดีการทุจริตที่เกิดขึ้นจากการกระทำของนางนิตรดา อาจเส็ม อดีตผู้จัดการฯ นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยบางเรื่องที่มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 3.5 ล้านบาทนั้น ขณะนี้เรื่องในชั้นศาล ,ส่วนบางเรื่องมูลค่าความเสียหายประมาณ 146 ล้านบาท อยู่ในชั้นอัยการ และอีกประมาณ 100 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ในชั้นพนักงาน สอบสวน ส่วนกรณีการออกตั๋วสัญญาใช้เงินปลอม ฉบับละ 5 ล้านบาท จำนวน 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท ไปกู้เงินจากบุคคลภายนอก โดยไม่ผ่านมติของคณะกรรมการชุมนุมนั้น ชุมนุมสหกรณ์เป็นฝ่ายชนะคดี ไม่ต้องชดใช้เงินให้แก่บุคคลภายนอกเจ้าของเงินจำนวนดังกล่าว ส่วนผู้กระทำความผิดคือ อดีตผู้จัดการคนดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับ จำนวน 4 หมายจับ ซึ่งในทางคดีถือว่าทุกอย่างอยู่ในระบบแล้ว โดยคดีในทางอาญาก็ไม่น่ากังวลเพราะมีอายุความยาวนาน 10 ปี ส่วนคดีเพ่งนั้นหากเขาไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ ก็ต้องทำการยึดทรัพย์ต่อไป ทั้งนี้ ยังมีเรื่องของการร่วมกันเอายางที่รับฝากจาก กยท.จำนวน 94 ตัน ไปขายให้กับพ่อค้าคนกลาง โดยอ้างว่าเป็นยางของบริษัทอื่น โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นทางชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ต้องชดใช้ยางคืนให้กับ กยท.จำนวน 94 ตัน อย่างไรก็ตาม สำหรับการติดตามตัวผู้จัดการซึ่งกระทำความผิดนั้น ล่าสุด ทางชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับคนที่แจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมอดีตผู้จัดการได้ จำนวน 100,000 บาท จึงขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแส รวมทั้งขอให้สถาบันเกษตรกร รวมทั้งสหกรณ์ยางในจ.ตรัง ให้ความเชื่อมั่นมาร่วมกันดำเนินกิจการชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรังต่อไป เพราะชุมนุมสหกรณ์เป็นของสหกรณ์ และของเกษตรกรทุกราย จะได้ขายยางในราคาที่เป็นธรรมกับผู้ส่งออกโดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยขายได้ในราคาเต็มในตลาดกลางยางพารา
