ตรัง องค์กรปกครองส่วนถิ่น ซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านงบพัฒนาท้องถิ่น เนื่องจากสถานการณ์โควิด จัดเก็บเงินภาษีได้น้อย และได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลไม่เพียงพอ ต้องดิ้นรนหาทางแก้ปัญหาในพื้นที่ด้วยตนเอง โดยเฉพาะปัญหาขยะที่เป็นปัญหาโลกแตก เตรียมทำ MOU ร่วมกับ อบจ.ตรัง เพื่อจัดสรรงบประมาณร่วมกันในการจัดการขยะ จึงเชิญตัวแทนบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเตาเผาขยะแบบไร้ควันสาธิตการเผา เพื่อเป็นทางเลือกในการจัดซื้อเตาเผาขยะในอนาคตแทนของเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม
ที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลตำบลสิเกา นายสุเมธ รอดรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลสิเกา พร้อมด้วยนายสงวน อั้นเต้ง สจ.เขต อ.สิเกา ได้เชิญตัวแทนบริษัท กรีนเชฟ 2020 จำกัด นำรถโมบายเคลื่อนที่บรรทุกเตาเผาขยะไร้ควันมาสาธิตการทำงาน หลังจากเตาเผาขยะระบบควบคุมอากาศของเทศบาลตำบลสิเกา ซึ่งติดตั้งและใช้งานมาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีอายุการทำงานเพียง 5 ปี อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงเตรียมแผนแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งเทศบาลตำบลสิเกา เป็นเทศบาลขนาดเล็ก งบประมาณมีจำกัดที่ผ่านมาจัดเก็บภาษีได้ปีละประมาณ 35 ล้านบาท แต่ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิดจัดเก็บภาษีได้น้อยเพียงประมาณ 17 ล้านบาทเท่านั้น และได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลน้อยเช่นกัน ทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงาน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาขยะ ที่มีประมาณ 1.5 ตันต่อวัน ประกอบกับขยะติดเชื้อทั้งหน้ากากอนามัย วัสดุของปนเปื้อนติดเชื้อ ขยะมีพิษ ในพื้นที่เกิดขึ้นจำนวนมาก อันเนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิด -19 ทำให้เตาเผาขยะที่มีอยู่ไม่ปลอดภัยแลอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงเตรียมประสานกับ อบจ.ตรัง เพื่อทำ MOU ร่วมกันในการแก้ปัญหาเรื่องขยะ จึงเชิญตัวแทนบริษัทดังกล่าวมาสาธิตคุณสมบัติ และประสิทธิภาพของเตาเผาขยะแบบไร้ควันแบบใหม่ โดยเปรียบเทียบกับเตาเผาขยะแบบเดิม เพื่อเป็นความรู้ในการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ปลอดภัย ลดมลพิษทางอากาศ สร้างความปลอดภัยแก่ชุมชน
นายประมุข เวชสกร กรรมการบริหารบริษัท กล่าวว่า การจัดการขยะสมัยใหม่จะต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เกิดความปลอดภัยต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเตาเผาขยะของบริษัทสามารถจัดการขยะได้อย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง ไร้มลพิษ ซึ่งการมาสาธิตไม่มีข้อผูกมัดใดๆกับเทศบาล หรือท้องถิ่น แต่ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน ควันจะมีเพียงเล็กน้อยในช่วงของการวอร์มเครื่องเท่านั้น หลังจากนั้นจะไร้ควันเขม่าออกมาในอากาศ ซึ่งเตาเผาขยะจะมีหลายขนาดขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละชุมชน และท้องถิ่น แต่อายุการใช้งานประมาณ 15 – 20 ปี ยืนยาวกว่าเตาเผาขยะแบบดั้งเดิม คุ้มงบประมาณ ทั้งนี้ ทางบริษัทเข้าใจเรื่องงบประมาณพัฒนาท้องถิ่นในปัจจุบัน แต่ความร่วมมือระหว่างกันระหว่าง อปท.ในพื้นที่ ในการจัดมือกันจัดการขยะ เป็นแนวทางหนึ่งที่ อปท.สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับเตาเผาขยะของบริษัท กรีนเชฟ 2020 จำกัด มี 3 ขนาด ขนาดเล็ก ราคา 300,000 บาท กำจัดขยะ ขยะติดเชื้อได้ 1 ตัน/วัน (8 ชม.) ขนาดกลาง ราคา 4 ล้านบาทเศษ กำจัดขยะ ขยะติดเชื้อได้ 6-8 ตัน/วัน (8 ชม.) และขนาดใหญ่กำจัดขยะชุมชน ขยะทั่วไป และขยะติดเชื้อได้ 10-12 ตัน/วัน (8 ชม.) โดยขนาดกลางและขนาดใหญ่จะมีระบบสายพานลำเลียงขยะเข้าสู่เตาเผาได้เอง โดยไม่ต้องใช้แรงงานคน
