ตรัง สุดเจ๋งสองพี่น้องรักงานตัดเย็บนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาย้อมผ้าได้สีสันสวยสะดุดตาจากผืนดินสู่ตู้เสื้อผ้า ยกระดับสร้างคุณค่าผ้ามัดย้อมครามคูน เน้นใช้วัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่นและปราศจากสารเคมี ใช้วัตถุดิบธรรมชาติจาก ต้นคราม ต้นคูน จนมาถึงสีจากดิน สไตล์ “ชิโบริ” งานหัตถกรรมดั้งเดิมรูปแบบเฉพาะตัวของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความไม่ย่อท้อและเพียรทำในสิ่งที่ชอบ จึงเกิดเป็น “ครามคูน” แบรนด์เล็กๆที่อยากปันปันความสุขเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณค่า พร้อมรังสรรค์ลายท้องทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองตรัง ใช้ชื่อว่า “อควาเรียมแห่งท้องทะเลตรัง”
น.ส.เสาวนิตย์หรือติ๋ม คงนคร อายุ 61 ปี และนางจิราวรรณหรือต๋อย คงนคร อายุ 59 ปี สองพี่น้องชาวตรังผู้รักงานตัดเย็บเป็นชีวิตจิตใจด้วยประสบการณ์บนเส้นทางสายนี้มากว่า 30 ปี จนวันหนึ่งได้เกิดตกหลุมรัก “ชิโบริ” งานหัตถกรรมดั้งเดิมรูปแบบเฉพาะตัวของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความไม่ย่อท้อและเพียรทำในสิ่งที่ชอบ จึงเกิดเป็น “ครามคูน” แบรนด์เล็กๆที่อยากปันปันความสุขเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณค่า
ซึ่งทั้งสองพี่น้องได้นำน.ส.ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.ททท.สำนักงานตรัง พร้อมด้วยผู้สื่อข่าว เยี่ยมชมกระบวนการผลิตทำผ้าด้วยสีธรรมชาติ เริ่มต้นจากต้นคราม ต้นคูน จนมาถึงสีจากดิน ซึ่งเป็นดินแดงในพื้นที่ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ซึ่งเน้นใช้วัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่นและปราศจากสารเคมี ด้วยการทดลองการนำผ้าที่รัด มัด เนา แล้วนำมาย้อมกับสีที่เตรียมไว้ พร้อมนำชมลักษณะของต้นครามที่ปลูกไว้บริเวณบ้าน ที่เป็นวัตถุดิบหลักด้วยการใช้ใบของต้นครามมาทำสีย้อมผ้า หลังจากนั้นก็ได้พาเยี่ยมชมแกลอรี่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รังสรรค์ขึ้นมาทั้งผ้าชิ้น เสื้อผ้า ชุดเดรส กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ รองเท้า หมอนอิง ผ้าม่านฯลฯ ล้วนเกิดจากการทำมือทั้งสิ้น ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ย้อมไม่เพียงแต่ต้นครามเท่านั้น ซึ่งต้นครามจะให้สีน้ำเงินคราม และยังมีที่ใช้ฝักคูน ซึ่งเมื่อย้อมจะออกเป็นสีน้ำตาล และเปลือกมังคุด ซึ่งสีจากมังคุดจะได้เนื้อผ้าสีน้ำตาลอมเหลือง ส่วนล่าสุดดินสีแดงจะได้สีของเนื้อผ้าเป็นสีส้มโอโรส
โดยกระบวนการทำชิโบริ จะเริ่มตั้งแต่การเลือกชนิดผ้าโดยอาศัยความพิถีพิถันในการเลือกเนื้อผ้าตามลักษณะอันเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานรวมทั้งนำเอาไปแปรรูปในอนาคต และขั้นตอนต่อมาด้วยการทำความสะอาดชำระล้างคราบไขมันและสิ่งปนเปื้อนออกด้วยน้ำอุ่นเพื่อเตรียมเนื้อผ้าให้พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปจากนี้ ร่างแบบรังสรรค์ลวดลายจากสมองลงบนผืนผ้าบ้างเรียบง่ายและบ้างซับซ้อนตามการออกแบบ และนำมาเนาเกิดขึ้นตามแบบที่ได้จากการร่างซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลายาวนานที่สุดต้องใช้ความอดทน ความเพียรและรักในงานเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นก็นำมาดึงเป็นช่วงเวลาที่ผืนผ้าจะหดตัวตามแรงดึงของเส้นด้ายในแต่ละเส้นโดยจำนวนแรงที่ใช้นั้นจะส่งผลอย่างยิ่งต่อการหยุดยั้งการซึมซับของสีเกิดเป็นลวดลาย และนำมาย้อมมีทั้งการย้อมรูปแบบร้อนและเย็น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผสมผสานซึ่งแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบและผลสำเร็จที่คาดหวังจากการย้อม สุดท้ายคือการแกะลายด้ายที่ถูกดึงไว้ก่อนหน้านี้บัดนี้ถึงเวลาที่จะใช้ความระมัดระวังอย่างมากที่สุดในการแกะออกได้ลวดลายตามที่เฝ้ารอคอย
สำหรับคอนเซ็ปต์ของครามคูนนั้นเกิดจากความรัก ซึ่งอันดับแรกคนเราทุกคนต้องรักตัวเองรักครอบครัวรักพี่น้องรักเพื่อนบ้านรักเพื่อนร่วมโลกและอยากให้โลกนี้อยู่อย่างสะอาด เราจึงต้องเริ่มต้นจากที่เรา เราก็เลยต้องหันมาหาธรรมชาติผลิตโดยวัตถุดิบจากธรรมชาติและส่งมอบสิ่งเหล่านี้ให้แก่ทุกคน”
น.ส.เสาวนิตย์หรือติ๋ม คงนคร และนางจิราวรรณหรือต๋อย คงนคร สองพี่น้อง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นนั้นดั้งเดิมตนเองเป็นช่างตัดเสื้อผ้าและในตอนนั้นตนเองก็แบบพอแล้วไม่อยากตัดแล้วเสื้อผ้ารู้สึกเริ่มเบื่อ ก็มาทำร้านอาหารอยู่สักพักหนึ่ง แต่ก็กลายเป็นว่าตัวเองยังรักเสื้อผ้าอยู่ก็อยากทำต่อและได้คุยกับน้องสาวว่าเราอยากทำเกี่ยวกับการมัดย้อมเพราะสนใจมีเพื่อนทำงานอยู่เกี่ยวกับการมัดย้อมและได้ชวนเข้าเรียน แต่เราก็ได้เข้าไปเรียนรู้ว่าการมัดย้อมทำยังไงซึ่งในตอนแรกก็เริ่มต้นด้วยการย้อมด้วยเคมีก่อน และเราชอบลายในการมัดต่างๆเพิ่มขึ้นมา พอได้เรียนเราก็ชอบแต่เราไม่ชอบที่มันเป็นเคมี ก็เลยได้หันมาศึกษาสีจากธรรมชาติโดยเริ่มต้นจากที่ตัวเองชอบสีน้ำเงินอยู่แล้วก็เลือกครามก่อน ก็ได้ไปท่องเที่ยวกันทางภาคอีสาน เพื่อจะดูว่าครามที่แท้จริงเป็นยังไงเขาทำกันยังไง เมื่อไปดูก็ได้ซื้อครามกลับมาทำดู และได้นำมาเมล็ดกลับมาปลูกที่บ้านด้วย ลองปลูกดูแต่ก็ได้ผลแต่ว่าจะเน้นใช้แรงงานเยอะ จากนั้นก็เริ่มใส่ไปเรื่อยๆด้วยการย้อมฝักคูนหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าต้นราชพฤกษ์ ซึ่งปลูกไว้หลังบ้านฝักมันจะเป็นสีน้ำตาล เรานำส่วนของฝักมาย้อมเป็นแบบย้อมร้อน แต่ถ้าเป็นครามจะเป็นแบบย้อมเย็น ก็กลายเป็นว่าย้อมแล้วมีความสุข จึงได้เกิดไอเดียในการแปรรูปได้ แปรรูปเป็นเสื้อผ้าเป็นกระเป๋าได้อย่างที่เห็น อย่างสไตล์ชิโบริเราเราชอบงานแบบญี่ปุ่นเราก็เริ่มศึกษาสไตล์ชิโบริ เป็นการมัด รัด เนา ต้องยอมรับว่าเป็นงานละเอียดมาก ซึ่งเราก็ไม่ได้เรียนมาจากประเทศญี่ปุ่นแต่เราซื้อหนังสือมาศึกษาเรียนรู้กันเอง และอีกอย่างตนเองก็เป็นคนชอบวาดรูปด้วยก็นำมาวาดรูปสีสันต่างๆนานา สุดท้ายเราก็เริ่มมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของเราเอง เรามีความรู้สึกว่าคนเริ่มสนใจเราและสินค้าผลิตภัณฑ์ขายไปได้เรื่อยๆ เมื่อเราหาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เจอ อย่างเช่นครามเราก็สามารถนำมาปลูกในภาคใต้ได้ ฝักคูนหรือต้นราชพฤกษ์ แก่นฝาง ขมิ้น แก่นขนุน เปลือกมังคุด ซึ่งเราก็ยอมมาหมดแล้วแล้วสุดท้ายที่เรามาเจอก็คือดิน เราคิดไม่ถึงว่าดินสามารถนำมาย้อมผ้าได้เป็นสีที่สวยมาก ด้วยการนำดินสีแดงในพื้นที่ตำบลนาตาล่วงมาย้อมกับผ้า อีกอย่างสามารถทนทานต่อแดดต่อการซักในหลายๆครั้ง นำมาทำเป็นผ้าม่านสีก็ไม่ตกเลย
หากในเรื่องของการใช้ครามเราจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่เรานำต้นครามมาปลูกเอง โดยจะเน้นใช้ส่วนของใบแล้วนำมาโจกคราม ขั้นตอนจะเยอะมากกว่าจะได้แบบนี้และการใช้เนื้อผ้าในการย้อมนั้นจะต้องใช้เส้นใยจากธรรมชาติเท่านั้นในการย้อม หากมีการทอผสมลงไปก็จะทำให้สีติดยากมากๆ ซึ่งในการย้อมจะขึ้นอยู่กับลักษณะและชนิดของเส้นใยผ้า ซึ่งทั้งหมดนี้เราลงมือทำเองหมดเลยยกเว้นแค่การทอผ้าเท่านั้น แม้กระทั่งลายเราก็คิดเองวาดเอง และก็ได้มีอาจารย์มาแนะแนวลายให้ว่า เมื่อเราย้อมเนื้อผ้าแบบนี้แต่จะคิดลายยังไงให้มีลายโดดเด่นขึ้นมา ให้มันมองให้เป็นธรรมชาติที่สุดซึ่งขณะนี้เรากำลังศึกษาอยู่ก็ได้เป็นลายท้องทะเล ใช้ชื่อว่า “อควาเรียมแห่งท้องทะเลตรัง”
สำหรับในการทำผ้าลายครามจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์แต่จะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่หากมีผู้ช่วยก็จะทำให้งานเสร็จเร็วภายใน 3 วัน อย่างเช่นแบบปลาที่อยู่ในทะเลลึกกับปลาที่ไม่ได้อยู่ในทะเลลึกลักษณะในการย้อมก็จะค่อนข้างแตกต่างกันซึ่งจะเห็นได้ชัด ซึ่งเทคนิคพวกนี้จะทำให้เกิดการมีมิติมากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ก็จะมีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า กระเป๋าสตางค์ รองเท้า หมวก แมส ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนฯลฯ
ในส่วนของราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราอาจจะดูว่าค่อนข้างราคาสูงนิดนึงแต่วิธีการทำของเราจะมีความละเอียดเยอะมาก
สำหรับผลตอบรับนั้นเป็นที่น่าพอใจมีออเดอร์มาอย่างต่อเนื่องสามารถขายได้เรื่อยๆ ส่งต่างจังหวัดหรือส่งไปต่างประเทศก็มี หากลูกค้าสนใจสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่เพจ Kramkoon หรือโทร0892228504 ,0858889700 หากสนใจก็สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้ที่โรงแรมนาขาชาเล่ห์ 28/15 ม.1 ต.นาตาล่วง จ.ตรัง
