ตรัง ถนนสารทเดือนสิบสายเดียวแห่งเมืองตรัง ภายในเขตเทศบาลตำบลนาโยเหนือ พิษโควิด19 ทำยอดจำหน่ายขนมสารทเดือนสิบตกฮวบ 50% แต่ยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน ให้ครอบครัวผู้สูงอายุและลูกหลานนับ 10 ราย ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ทุกครัวเรือนทิ้งงานรับจ้าง และงานอื่นๆ เพื่อทำขายหารายได้
ถนนสายสารทเดือนสิบ คือ ถนนเทศบาลตำบลนาโยง 10 เขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง สายเดียวแห่งเมืองตรัง ที่พบว่าสองฝั่งถนนเรียงรายแม่ค้านับ 10 ราย ที่ยกครอบครัว ซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ และลูกหลาน พร้อมยกกระทะ และอุปกรณ์ทำขนม มาตั้งแผงทำขนมและจำหน่ายขนมท้องถิ่น ที่ใช้ในงานบุญสารทเดือนสิบของชาวภาคใต้ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า และขนมดีซำ หรือขนมรู โดยพ่อค้าแม่ค้าล้วนเป็นชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งสืบทอดการทำขนมสารทเดือนสิบมาจากรุ่นสู่รุ่น จะปักหลักทำขนมและขายขนม ตั้งแต่ก่อนเทศกาลวันสารทเดือนสิบ จนสิ้นสุดเทศกาลรวมเป็นเวลาประมาณเดือนเศษ โดยปักหลักทุกวันตลอดระยะเวลาเดือน คือ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม – ตุลาคม หรือจนถึงวันทำบุญใหญ่ เป็นวันสุดท้ายของการทำ บางรายจะออกมาทำหลังจากเสร็จจากการกรีดยางพารา ซึ่งปีที่ผ่านๆมา มีรายได้ในช่วงสารทเดือนสิบ ประมาณ 20,000 – 50,000 บาท แต่ในปีนี้ ซึ่งมีวิกฤตโควิด 19 ทำให้ยอดขายลดลงจากปีก่อนๆ ราว 50% เพราะลูกค้าจากต่างจังหวัด เช่น พัทลุง กระบี่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ไม่เดินทางเข้ามาซื้อขนมสารทเดือนสิบจากนี่ที่ ขายได้เพียงแต่ลูกค้าในจังหวัดตรังเท่านั้น ในขณะเดียวกันวัตถุดิบอย่างน้ำมันพืชที่ใช้สำหรับทอดขนมต่างๆ ปรับราคาสูงขึ้น จากลังละ (12 ถุง) ราคา 315 บาท เป็นราคาลังละ 515 บาท จึงทำให้แม่ค้ามีต้นทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน โดยแม่ค้าต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าบรรยากาศปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แม้ผู้คนจะออกมาจับจ่ายซื้อขนมสารทเดือนสิบการตามประเพณ๊ แต่ซื้อในปริมาณที่ไม่มากนัก ส่วนแม่ค้าจากต่างพื้นที่ซึ่งเคยมารับขนมจากที่นี่ไปขายในปริมาณมาก ปีนี้กลับซื้อน้อยลง เพราะเกรงว่าซื้อเยอะไปจะขายไม่หมด
นางวรรณี ราชพลี อายุ 56 ปี แม่ค้า กล่าวว่า ปีนี้ยอดขายลดลงอย่างเห็นได้ชัด ลูกค้าจากต่างหวัดไม่เดินทางมาซื้อเหมือนปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์โควิด19 พ่อค้าแม่ค้าชะลอการเดินทางเข้ามา ในขณะลูกหลานชาวใต้ที่อยู่ต่างจังหวัดไม่ได้เดินทางกลับบ้านเหมือนปีก่อนๆ รวมทั้งประชาชนที่มาซื้อขนมเดือนสิบในปีนี้ก็ซื้ออย่างประหยัด จึงทำให้บรรยากาศไม่คึกคัก แต่ตนก็ยังคงทำขนมสารทเดือนสิบขายเช่นเดิม แม้ยอดขายและปริมาณสั่งซื้อไม่มากมายเหมือนเดิมก็ตาม แต่การมาทำขนมและขายในช่วงเทศกาลนี้ ก็ยังทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับครอบครัวในช่วงสถานการณ์โควิดนี้เช่นนี้ จากปีที่ผ่านมาได้กำไรประมาณ 30,000 บาท ปีนี้ไม่คงเหลือประมาณ 20,000 บาท แต่ก็ยังดีกว่าค้าขายอย่างอื่นในช่วงโควิดนี้
นางเตือนใจ ชุมด้วง อายุ 50 ปี แม่ค้า กล่าวว่า ตนขายขนมสารทเดือนสิบที่นี่มานาน โดยในช่วงปกติมีอาชีพค้าเล็กๆน้อยๆในหมู่บ้าน แต่เมื่อเข้าช่วงเทศการเดือนสิบก็จะออกมาปักหลักทำขนมสารทเดือนสิบขาย เพื่อเป็นรายได้เสริมให้ครอบครัว แม้ปีนี้ยอดขายจะลดลงแต่ยังมีรายได้ในภาวะโควิด พอได้จุนเจือครอบครัว โดยปีนี้ตนทำขนมแต่ละวันในปริมาณที่น้อยกว่าทุกปี เพราะกลัวขายไม่หมด แต่ก็ดีกว่ารายได้จากอาชีพประจำ
โดยราคาขายปลีก ขนมลา แผ่นเล็กราคาแผ่นละ 5 บาท แผ่นใหญ่ราคาแผ่นละ 8 บาท ขนามพอง ขนาดเล็กราคา 7 บาท ขนาดใหญ่ ราคา 8 บาท ขนมดีซำหรือขนมรู และขนมบ้า ราคากล่องละ 20 บาท และขนมที่จัดเป็นชุด ประกอบด้วย ขนมพอง ขนมลา ขายในราคาชุดละเล็กราคาชุดละ 25 บาท แต่หากเป็นชุดใหญ่ ราคาชุดละ 35 บาท
อย่างไรก็ตามในปีนี้แม่ค้าหลายร้านได้จัดร้านป้องกันการแพระระบาดโควิด19 ด้วยการสวมใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย กันกั้นพลาสติกใสบริเวณหน้าร้าน และ วางแจลแอลกอฮอล์ไว้สำหรับบริการลูกค้าที่มีซื้อของ สำหรับเทศกาลสารทเดือนสิบปีนี้จะตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เรียกว่าวันรับตายาย หรือวันทำบุญเล็ก โดยในปีนี้จะตรงกับวันที่ 22 กันยายน 64 และ วันส่งตายาย หรือวันทำบุญใหญ่ จะตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ในปีนี้ตรงกับวันที่ ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม 64
