วันที่ 27 กันยายน 2564 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เกิดเหตุตำรวจชุดสายตรวจ สภ.ย่านตาขาว วิสามัญนายพัชระ รัมนา หรือ ปิ๊ก อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 10 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้าน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น หลังจากผู้ตายซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติดจนหลอน ก่อเหตุทำลายข้าวของภายในบ้านจนได้รับความเสียหาย และถืออาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 มม.ไว้ในมือ เกรงจะทำร้ายคนในบ้าน ทำให้แม่คือ นางระเบียบ รัมนา อายุ 62 ปี ซึ่งทนพฤติกรรมไม่ไหว หวั่นจะเกิดเหตุร้าย จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว โดยให้ข้อมูลว่าลูกชายมีอาวุธปืนด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจจำนวน 5 นาย ได้รีบเดินทางไประงับเหตุในทันที เมื่อไปถึงก็พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมนายพัชระ ให้ระงับสติอารมณ์ และเกลี้ยกล่อมให้นายพชรวางอาวุธมีดลง และเจ้าหน้าที่ก็วางปืนลง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากนั้นตำรวจจึงยิงตาข่ายและใช้ไม้ง่ามตามยุทธวิธี เพื่อจะล็อคตัวนายพัชระ เมื่อตาข่ายคลุมร่าง แต่นายพัชระซึ่งพกพาอาวุธปืนอยู่ด้วย ได้ชักอาวุธปืนยิงออกไปจำนวนหลายนัด แต่กระสุนไม่ถูกเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ซึ่งระวังตัวอยู่แล้ว โดย 1 ใน 5 นาย ได้ยิงตอบโต้ออกไปด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ประจำกาย ทำให้กระสุนปืนเจาะเข้าที่บริเวณหน้าอก จำนวน 1 นัด ทำให้ล้มลงเสียชีวิตทันที จากการชันสูตรพลิกศพพบถูกกระสุนปืนบริเวณหน้าอก 1 นัด ส่วนอาวุธปืนของผู้ตายซึ่งตกอยู่ใกล้ศพ มีกระสุนเหลือในรังปืน 1 นัด ยิงไปแล้ว 5 นัด บริเวณสะเอวมีอาวุธมีดยาว 9 นิ้ว 1 เล่ม ในกระเป๋าคาดเอวพบอาวุธมีดยาว 5 นิ้ว อีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนางดารารัตน์ สงสุวรรณ อายุ 32 ปี ภรรยา ผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองมีลูก 2 คน คนเล็กอายุ 3 เดือน ส่วนคนโตอายุ 13 ปี โดยสามีติดยาเสพติดมานานนับ 10 ปี แล้ว มักมีอาการหลอน เคยด่าทอทุกคนในบ้าน และชอบอาละวาด แต่ในวันนี้อาละวาดหนักกว่าทุกครั้ง ครั้งแรกขอเงินตน ตนให้ไป เขาก็หายไป กลับมาอีกทีขอเงินอีกบอกว่าจะเอาไปซื้อน้ำมันรถ เพื่อจะออกไปตัดหญ้าให้วัว แต่ตนไม่ได้ให้ ทำให้สามีโกรธ อาละวาด ด่าทอ ทุกคนในบ้าน ตนเห็นท่าไม่ดี จึงหอบลูกไปอยู่บ้านป้า ที่บ้านจึงเหลือแต่แม่ เพราะแม่ให้ทุกคนไปอยู่ในที่ปลอดภัย และแม่เห็นสามีไปหยิบอาวุธปืนซึ่งแม่เอาไปซ่อนไว้มาแล้ว จากนั้นได้อาละวาดหนัก ทำลายข้าวของในบ้านและพยายามจะทำร้ายแม่ด้วย แม่จึงเดินไปบ้านน้องสาวของแม่ ให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจๆ จึงมา มาถึงตนเองก็แอบฟังอยู่บ้านป้า ก็ได้ยินเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดดีด้วย เกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ และให้ทิ้งมีด โดยที่ตำรวจบางนายไม่รู้ว่าสามีมีอาวุธปืนด้วย และสามีคงระแวงไม่ให้ตำรวจเข้าใกล้ เพราะที่ผ่านมาเขามักอาละวาดและประกาศตลอด จะทำร้ายคนในบ้าน และจะไม่มอบตัว ส่วนขณะยิงตนเองได้ยินแต่เสียงปืน แต่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ว่าใครเปิดฉากยิงใครก่อน ซึ่งสามีมักอาละวาดบ่อยหลังเสพยา แต่ครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง
นายพงค์พัฒน์ พันธุศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ทุ่งค่าย กล่าวว่า ผู้ตายเป็นผู้ป่วยติดยาเสพติดมาหลายปี เคยก่อเหตุอาละวาดทำลายข้าวของหลายครั้ง แจ้งตำรวจหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้พยายามทำร้ายภรรยา แม่จึงโทรแจ้ง 191 ตำรวจมาทั้งหมด 5 นาย และผู้ช่วยอีก 1 ราย มาถึงก็พยายามเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก ผู้ตายชักอาวุธปืนยิงใส่ตำรวจก่อน ตำรวจจึงยิงตอบโต้ ทำให้เสียชีวิต ตนเองหลังรับแจ้งก็รีบเดินทางเข้าไป แต่เกิดเหตุก่อนที่ตนเองจะไปถึงจึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้น แม่ผู้ตายก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครติดใจเจ้าหน้าที่ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่พยายามทำดีที่สุดแล้ว โดยแม่ผู้ตายประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้ง ผู้ตายก็ไปช่วย รวมทั้งหาปู หาปลาใกล้พื้นที่บ่อกุ้ง และยามว่างก็เที่ยวเตร่ในพื้นที่ ทั้งนี้ด้านนางระเบียบ รัมนา อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นแม่ก็ไม่ติดใจในการก่อเหตุครั้งนี้ แต่อยากให้ทางตำรวจช่วยดำเนินการในการทำศพ
ข่าวน่าสนใจ:
- วัสดุทำกระทงตรังราคาพุ่ง ดาวเรืองขึ้นราคาเท่าตัว ผู้ค้าตลาดเทศบาลนครตรังเงียบเหงา กัดฟันขายราคาเดิมหวั่นกระทบลูกค้า
- ททท.เตรียมเปิดตัวการแข่งขันวิ่งเทรลไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัดภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
- ตรัง "บุญกฐิน-ตักบาตรขนมโค" หนึ่งเดียวในไทย ชาวตรังแห่ร่วมงานทอดกฐินออกโรงทานคับคั่ง
- ตรัง การแข่งวิ่งสุดสยองชวนขนหัวลุก "วิ่งหนีเมรุ" ทำถึงธีมผีจัดเต็ม นักวิ่ง 300 คนร่วมวงหลอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: