ตรัง หนุ่มชื่นชอบเมนูจากผักน้ำเบตง ศึกษาและเพาะปลูกที่จ.ตรัง ได้สำเร็จ ตัดยอดกินเองในครอบครัว และส่งขายได้ราคาสูง กิโลกรัมละ 300 บาท
ที่ฟาร์มผักสวนหลังบ้าน เลขที่ 28/9 ม.4 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง จ.ตรัง นาย กษิดิ์เดช เรืองแก้ว อายุ 35 ปี ได้ใช้พื้นที่บริเวณบ้านเป็นแปลงเกษตร ปลูกพืชหลายชนิดทั้งไม้ยืนต้น ไม้ผล รวมไปถึงแปลงผักไฮโดรโปรนิก เพื่อขายในชุมชน โดยล่าสุดนาย กษิดิ์เดช เรืองแก้ว ได้ศึกษาการปลูกผักน้ำเบตง หรือ watercress ฝรั่งเศส และนำมาปลูกแบบไฮโดรโปรนิกในฟาร์มผักของตน ซึ่งมีผลผลิตให้เก๋บอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งนำมารับประทานในครอบครัว ขายในชุมชน และขายให้กับร้านอาหารในตัวเมืองตรัง โดยราคาขายปลีกอยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท ราคาขายส่งหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 250 บาท
นาย กษิดิ์เดช เรืองแก้ว เจ้าของฟาร์มผักสวนหลังบ้าน กล่าวว่า ตนและครอบครัวมีโอกาสไปเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา และได้รับประทานเมนูจากผักน้ำเบตง ก็รู้จักชื่นชอบ เพราะเบตง ถือเป็นแหล่งปลูกผักน้ำที่มีคุณภาพ เพราะที่อำเภอเบตง มีอากาศดี อากาศเย็น และการปลูกผักน้ำของที่นั่นจะปลูกในลำธารที่มีน้ำเย็นและน้ไหลตลอดทั้งปี ซึ่งหากใครไปเบตงแล้วไม่ได้นานผักน้ำถือว่าไปยังไม่ถึงเบตง เช่นเดียวกับตนและแม่ซึ่งชื่นชอบเมนูจากผักน้ำ และด้วยความที่ผักน้ำมีความละเอียดอ่อน คือ หากเก็บแล้วต้องผัด ต้ม ในทันที หากตัดทิ้งไว้ผักน้ำจะคายน้ำออกและเหี่ยวเฉาเร็วกว่าผักทั่วไป จะซื้อกลับมากินที่จ.ตรัง ก็ลำบาก ตนจึงเริ่มศึกษาการปลูกผักน้ำ และ สั่งซื้อเมล็ดมาทดลองปลูก จนสำเร็จได้ผลผลิตใช้รับประทานในครอบครัว และ จำหน่าย โดยผู้สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์โทร 0910359629 , 0954378334
ข่าวน่าสนใจ:
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- อดีตปลัดโวย ดื่มน้ำถังจะอ้วกพบตะไคร่ก้นถัง
โดยผักน้ำของฟาร์มผักสวนหลังบ้าน ถือว่ามีคุณภาพของผลผลิตใกล้เคียงกับผักน้ำที่ปลูกที่ อ.เบตง จ.ยะลา คือ มีใบสมบูรณ์สีเขียวสด ต้นอวบอ้วน ให้ผลิตอย่างต่อเนื่อง และสามารถแตกรากออกแขนงเป็นต้นใหม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าพื้นที่ต.บ้านควน มีอากาศดี ไม่ร้อนจัด มีลมโกลกตลอดทั้งวัน จึงเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผักน้ำเบตง
ในส่วนของฟาร์มของตนนั้น ใช้วิธีปลูกแบบระบบน้ำไหลเวียน และให้สารอาหารแบบน้ำเพื่อบำรุงลำต้น และทำสำคัญต้องควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ในช่วง 20-30 องศา หากน้ำมีอุณหภูมิสูงจะทำให้ต้นผักน้ำเหี่ยวตาย โดยหลังจากการเพาะปลูกลงแปลงจะเวลา 40-45วัน ก็จะตัดยอดไปประกอบอาหาร และ จำหน่ายได้ โดยการเมื่อตัดยอดแต่ละครั้งไปแล้ว ต้นของผักน้ำเบตงจะแตกยอดใหม่ออกมาและเติบโต ให้ตัดยอดขายได้ต่อเนื่องในระยะยาว และจะปล่อยให้ยอดบางส่วนแตกรากเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป
นางวิภาวัลย์ เรืองแก้ว อายุ 54 ปี กล่าวว่า ตนชื่นชอบเมนูจากผักน้ำเบตง และผักน้ำก็มีประโยชน์และมีคุณค่าอาหารสูง สรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา บำรุงสายตา เสริมสร้างความคุ้มกันของร่างกาย มีวิตามินซีสูง โดยเมนูที่นิยมทำ ได้แก่ ผักน้ำเบตงผัดน้ำมันหอย ผักน้ำเบตงผัดเต้าเจี้ยว ผักน้ำเบตงมาแกงจืด หรือผักน้ำเบตงต้มกับกระดูกหมูหรือไก่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: