ตรัง หนุ่มเจ้าของร้านอลูมิเนียม โพสผ่านเฟซบุ๊กพร้อมรูปภาพบาดแผลเลือดอาบหน้า “ถูกตามฆ่าหนีเอาชีวิตรอด ร้องถึงสื่อให้ผู้ว่าฯช่วยชีวิต” เจ้าตัวเผยสาเหตุมาจากปมมรดกของพ่อ ผู้ล่วงลับไปแล้ว
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดตรัง นายสุบรรณ หรือ อณาวิล เจริญฤทธิ์ อายุ 30ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 71/4 หมู่ที่ 1 ตำบลตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง เข้าร้องขอความเป็นธรรมให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ช่วยเหลือกรณีมีกลุ่มคนร้าย วางแผนลวงไปฆ่าแต่ แต่ผู้เสียหายหนีรอดมาได้
นายสุบรรณ หรือ อณาวิล เจริญฤทธิ์ หนุ่มเจ้าของร้านอลูมิเนียม โพสผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 พร้อมรูปภาพบาดแผลเลือดอาบหน้า มีข้อความว่า”สวัสดีครับผมมีข่าวอยากให้ทีมข่าวออกสื่อเรื่องผมถูกล่อล่วงไปฆ่า ช่วยแชร์ให้ถึงท่านผู้ว่า ด้วยครับ” เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืน 22 ส.ค.2564โดยคนร้ายมีด้วยกัน 2 คนคือนายเพทาย ชายหมาด และนายแทน ชายหมาด ใช้ดาบและ เหล็กขูดชาร์ป ฟันและแทงตนหลายสิบแผล จึงเดินทางไปพบแพทย์ที่ รพ.หาดสำราญเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.หาดสำราญ แพทย์ตรวจและทำการรักษา รพ. ออกใบรับรองแพทย์ “ มีบาดแผลที่หางคิ้วซ้าย 2 รอยขนาด 2 เซนติเมตร ลึก 1 เซนติเมตร / แผลขนาด 2.5 เซนติเมตร ลึก 1 เซนติเมตร” เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564
วันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายมนัส เอ้งฉ้วน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านนาเล มารับแม่ของตนคือนางวิมล เจริญฤทธิ์ ไปสภ.หาดสำราญ แต่ไม่ได้พาตนเองไปที่โรงพักด้วย แม่ไปตกลงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยเขายอมจ่ายเงินให้ค่าสินไหมทดแทน 3 หมื่นบาท เพื่อยุติคดี วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ตำรวจจึงทำคดีเป็นฐานความผิดทะเลาะวิวาทโดยตำรวจเปรียบเทียบปรับตนเองไป 500 บาท และฝ่ายผู้ก่อเหตุด้วยเพื่อยุติคดี
หลังยุติเรื่องกลุ่มผู้ก่อเหตุและนักการเมืองท้องถิ่นบางคน ยังตามเล่นงานตนข่มขู่ตามฆ่าตนให้ตายหากกลับเข้ามาหาดสำราญ และตนเองเพิ่งมารู้ความจริงว่าภรรยาของตนเป็นคนร่วมแอคข้อมูลใน เฟสบุ๊คและโทรศัพท์มือถือของตน ติดตามความเคลื่อนไหวของตนผ่าน GPS
ข่าวน่าสนใจ:
ย้อนไปคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2564 วันเกิดเหตุตนสงสัยทำไม GPS โทรศัพท์ของภรรยาเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง ปรากฏว่าเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุ คือนายเพทาย ชายหมาด 32 ปี และนายแทน ชายหมาด อายุ 40ปี เมื่อเห็นหน้าตนก็เอาดาบและมีดเหล็กขูดชาร์ปฟันแทงตนทันที จนตนหนีออกมาได้ ตอนนี้ตนเลิกกับภรรยาแล้ว เพราะอยู่ด้วยกันไม่มีความปลอดภัยอย่างแน่นอนเพราะ มีเหตุการณ์ผิดปกติในหลายเรื่อง ตนต้องหนีออกจาก ต.ตาเสะ อ.หาดสำราญ ร่วม 3 เดือน หากอยู่ที่บ้านถูกตามฆ่าอย่างแน่นอน นายสุบรรณบอกว่า ปัญหามาจากมรดกของพ่อที่ญาติๆของพ่อต้องการจะได้ เพราะเมื่อพ่อของตนตาย แม่ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก แต่มีการทำคำร้องต่อศาลว่า พ่อคือนายนพพล เจริญฤทธิ์ เจ้ามรดกไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งที่ความจริงมีลูก 2 คน คือ นายสุบรรณหรือนายอณาวิล เจริญฤทธิ์ และ คนที่2 คือ นางสาวปานรวี เจริญฤทธิ์ จนศาลท่านถามแม่ของตนว่ามีลูกหรือไม่ แม่รับกับศาลว่ามีลูก 2 คนจริง โดยทั้งสองเป็นลูกของนายนพพล เจริญฤทธิ์ (พ่อ) เจ้ามรดก ตนเชื่อว่าเรื่องนี้แม่คงถูกลุงของตนบังคับให้ทำ เพราะหลังพ่อตนตายไม่นาน ลุงของตนก็มาเป็นสามีของแม่ หรือ เป็นพ่อเลี้ยงของตนและน้องสาว จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้พ่อของตนมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน แต่พ่อของตนมีทรัพย์สินมากกว่ากพี่น้องคนอื่นๆ เพราะพ่อของตนเป็นคนขยันอดออมมาตลอดชีวิต พ่อได้เสียชีวิตไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ญาติบอกว่าพ่อตายเพราะเป็นโรคฉี่หนู แต่ตนเองไม่เชื่อว่าตายเพราะโรคฉี่หนู
นายสุบรรณ กล่าวว่า ที่มาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เพราะตนรู็ตัวว่าไม่มีความปลอดภัย เพราะ มีกลุ่มบุคคลยังจะตามฆ่าตน เพื่อหวังฮุบมรดกส่วนของตน จนตนเองต้องหนีออกจากบ้าน ไม่ได้ประกอบอาชีพช่าง อลูมิเนียมและกระจก เคยไปร้องที่ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 เรื่องมีบุคคลแฮกข้อมูลในเฟซบุ๊กของตน ตนไปแจ้งเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่เรื่องเงียบไปตำรวจไม่ได้ทำอะไรเลย
วันที่ 10 กันยายน 2564 ไปร้องทุกข์ที่ สำนักงานจเรตำรวจ กรุงเทพ เพื่อให้มีการดำเนินคดีที่มีกลุ่มบุคคล จะฆ่าตนเองแต่ตนเองหนีรอดมาได้ และยังติดตามฆ่าตนเอง แต่ตำรวจ สภ.หาดสำราญไม่ได้ดำเนินคดีพยายามฆ่า แต่กลับดำเนินคดีเรื่องทะเลาะวิวาทกับแทน หากตำรวจไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายนี้ ตนกลับเข้าบ้านที่ นาเล ต.ตาเสะ อ.หาดสำราญ ไม่ได้แน่นอน ขณะนี้ตนเองอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะไม่มีความปลอดภัย เรื่องก็ยังเงียบ
วันนี้ตนมาร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้ความเป็นธรรม คุ้มครองชีวิตตนด้วย เพราะตนเองไม่เชื่อมั่นว่าตำรวจจะดูความปลอดภัยตนเองได้ เพราะคดีคนร้ายมุ่งจะฆ่าตนให้ตาย แต่กลับไปดำเนินคดี ฐานความผิดทะเลาะวิวาท คนกลุ่มนี้มีอิทธิพลจริง ๆ ผู้สื่อข่าวบางสำนักไปถึงที่เกิดเหตุยังไม่กล้าทำข่าวเพื่อให้ความเป็นธรรมกับตนเองเลย จึงต้องร้อง โพสความเดือดร้อนผ่านเฟสบุ๊ค เพื่อให้ผู้สื่อข่าวและผู้ว่าฯตรังรับทราบและช่วยตนในเรื่องนี้”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: