ตรัง – กกต.ตรัง เตรียมประกาศเลือกตั้งใหม่ ผู้สมัครแพ้โหวตโน อบต.หนองบ่อ ด้านหัวหน้าทีมรวมพลังหนองบ่อซึ่งถูกถอดถอนสิทธิ ยันพร้อมส่งผู้สมัครลงแข่งขัน
น.ส.อรพิน อาชีวะสุข ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรังว่า สำหรับการเลือกตั้ง อบต. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับจังหวัดตรังถือว่ามีผู้มาใช้สิทธิเกินที่ตั้งเป้าไว้ กล่าวคือจากที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ เพราะสภาพดินฟ้าอากาศ และสถานการณ์โควิด19 แต่ปรากฏว่าเมื่อว่ามีประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัว ออกมาใช้สิทธิ์มากถึง 83.38 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น่าพอใจ สำหรับจำนวนบัตรเสียรวมทั้ง 75 อบต. คิดเป็น 7.76 เปอร์เซ็นต์และการเลือกตั้งครั้งนี้พบว่ามีการแพ้โหวตโน คือผู้ที่มีคะแนนสูงสุด แต่มีคะแนนน้อยกว่าคะแนนผู้ที่ไม่ได้เลือกผู้ใด กรณีนี้ทางกฎหมายได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่แพ้โหวตโน ผู้สมัครรายเดิมจะไม่สามารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ ในครั้งนี้มี อบต.ที่มีผู้สมัครแพ้โหวดโนชัดชัดเจนแล้ว คือ อบต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง คือ นายไพฑูรย์ อัตบุตร ผู้สมัครนายก อบต. ผลคะแนน 1,142 คะแนน คะแนนไม่ประสงค์ 1,553 คะแนน และ นายวิจิตร แก้วพิทักษ์ สมาชิกเขตเลือกตั้งที่ 5 ผลคะแนน 142 คะแนน และคะแนนไม่พึงประสงค์ 178 คะแนน ซึ่งทาง กกต.ตรังต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ และต้องจัดการเลือกตั้ง ใหม่ภายใน 45 วัน คือไม่เกินวันที่ 12 ม.ค.65
อย่างไรก็ตามตนฝากถึงว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่ ที่จะขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนอย่างละเอียดก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการถูกเพิกถอนสิทธิ
ข่าวน่าสนใจ:
ในขณะที่อดีตผู้สมัครนายกอบต.หนองบ่อ ซึ่งถูกถอดถอนสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าในการเลือกตั้งใหม่ที่จะมาถึง ตนในฐานะหัวหน้าทีมรวมพลังหนองบ่อจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันอย่างแน่นอน
นายธีระวิทย์ แท่นมาก อดีตผู้สมัครนายกอบต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หัวหน้าทีมรวมพลังหนองบ่อ กล่าวว่า ตนและทีมรวมพลังหนองบ่อ ขอขอบคุณชาวตำบลหนองบ่อที่เลือกลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครสมาชิกสภาอบต.หนองบ่อ 4 เขต จากทั้งหมด 6 เขตเลือกตั้ง และการเลือกตั้งซ่อมของอบต.หนองบ่อ ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ ทางทีมรวมพลังหนองบ่อ จะส่งผู้สมัครนายกอบต.หนองบ่อ ลงแข่งขันอีกอย่างแน่นอน ตอนนี้ได้กำหนดตัวผู้สมัครรับไว้แล้ว และมีความพร้อมในการแข่งขันอย่างแน่นอน
นายภูผา ทองนอก ทนายความ กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 พ.ย.64 นายนายธีระวิทย์ แท่นมาก อดีตผู้สมัครนายกอบต.หนองบ่อ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อกกต.ตรัง กรณีเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งที่ผ่านมา กกต.ตรัง ได้รับรองตัวผู้สมัคร คือ นายธีระวิทย์ แท่นมาก ไปก่อนหน้าแล้ว แต่ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ปรากฎว่าเป็นผู้ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และ ผู้บริการส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ.2562 ตามมาตรา 50 (10) เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานเล่นการพนัน ในข้อหาเจ้าสำนัก ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของการใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่น และ ผู้บริการส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ.2560 มาใช้บังคับกับผู้สมัคร (อ่านเพิ่มเติม https://www.77kaoded.com/news/mydear/2199193)
โดย นายธีระวิทย์ แท่นมาก หัวหน้าทีมรวมพลังหนองบ่อ มายื่นเรื่องต่อกกต.ตรัง เพื่อคัดค้านการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2562 ที่กำหนดในมาตรตรา 50 (10) ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัครต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาจนถึงที่สุด เกี่ยวกับความผิดฐานเล่นการพนัน การเป็นเจ้าสำนัก ซึ่งในข้อเท็จจริงปรากฎว่าคดีดังกล่าวของผู้สมัครนั้นเป็นคดีที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2543, 2544 และ 2547 เป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนพระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ ในขณะการทำความผิดนั้น ผู้สมัครมีสิทธิโดยสมบูรณ์ในการที่จะลงรับสมัครรับเลือกตั้ง แต่ต่อมามีกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในภายหลังที่เป็นโทษต่อผู้สมัครเอง จึงมายืนคัดค้าน ร้องทุกข์ต่อกกต.ตรัง ว่าคุณสมบัติที่ต้องพิจารณาต่อตัวผู้สมัครนั้น ต้องใช้กฎหมายในขณะกระทำความผิด คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสมาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ในการประกอบพิจารณา และเรื่องของการตีความกฎหมายไม่ย้อนหลัง
ซึ่งหลังคำวินิจฉัยดังกล่าวของ กกต. ทางนายธีระวิทย์ แท่นมาก ได้ไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลศาลอุทธรณ์ภาค9 โดยศาลอุทธรณ์ ภาค 9 ได้มีคำวินิจฉัยลงมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 ระบุว่ากรณีดังกล่าวถือว่า นายธีระวิทย์ แท่นมาก ขาดคุณสมบัติ ซึ่งตามหลักของกฎหมายถือว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด
ทั้งนี้ยังมีอีกกรณีหนึ่ง ซึ่งมีผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองตรัง ถูกถอดถอนคุณสมบัติตามมาตรานี้ด้วย ได้ยื่นคำร้องลักษณะนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับย้อนหลังและขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตราดังกล่าว เป็นการบังคับใช้ย้อนหลังก็จะมีผลให้ผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิ์ตามมาตรานี้ มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งได้
แฟ้มภาพ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: