ตรัง สรุปความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก จ.ตรัง ชาวบ้านบางรายโอดพื้นที่การเกษตรเสียหายทั้งหมด และอาจต้องสูญเสียพื้นที่ทั้งหมดอย่างถาวร เนื่องจากสภาพพื้นที่อาจกลายเป็นเส้นทางไหลของน้ำอย่างถาวรจากเหตุน้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้
เจ้าของและบริษัท ประกันรถ เร่งชักลากรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัดเข้าท่วมบ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและมีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียง เพศชาย อายุ 80 ปี และมีทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายจำนวนมาก เพราะน้ำป่าไหลหลากมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงในเวลากลางดึกของคืนวันที่ 2 ธันวาคม จนหนีน้ำไม่ทัน บางครอบครัวเตรียมจะต่อเติมบ้าน โดยการซื้ออิฐ หิน ปูน ทราย มากองไว้ เตรียมทำ แต่ถูกน้ำซัดหายวับไปในคืนเดียว โดยจังหวัดตรังได้สรุปความเสียหายในเบื้องต้นจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้ พบว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 2 อำเภอคือ อ.ย่านตาขาว ในตำบลโพรงจระเข้ และตำบลนาชุมเห็ด และ อ.นาโยง รวมทั้งหมด 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน รวม 153 ครัวเรือน ประมาณ 500 คน เสียชีวิต 1 คน วัวตาย 4 ตัว ควายสูญหาย 4 ตัว รถกระบะ 1 คัน รถยนต์ส่วนบุคคล 2 คัน และรถจักรยานยนต์ 9 คัน ส่วนพื้นที่การเกษตร และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการสำรวจเชื่อว่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ไร่
โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว ได้รับความเสียหายหนักที่สุดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สินของชาวบ้านเสียหาย หลายครอบครัวทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมดทั้งข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน และเสื้อผ้า ทำให้เหลือแต่ ขณะที่พื้นที่การเกษตร โดนเฉพาะสวนยางพารา ก็ถูกน้ำป่าซัดล้มและขาดเสียหายไปกับน้ำจำนวนหลายสิบไร่
โดยนายสมบัติ ศรีรอด อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว ซึ่งเดินสำรวจพื้นที่สวนยางพาราของตนเอง กล่าวว่า ของตนเองเฉพาะพื้นที่การเกษตรคือ สวนยางพารา และมีแปลงเพาะกล้าพันธุ์ยางพาราอยู่ภายในด้วย เสียหายทั้งหมดรวม 29 ไร่ โดยเป็นแปลงยางขนาดเล็กที่ยังไม่เปิดกรีด อายุประมาณ 3 ปี ในที่นี้ ตนเองอยู่ระหว่างการตกลงซื้อขายไปแล้วจำนวน 17 ไร่ มูลค่าราคา 2 ล้านบาท ซึ่งตกลงกันแล้วเสร็จในตอนเย็นของวันที่ 1 ธันวาคม ไม่ทันได้รับเงิน แต่พอตกดึกคืนวันที่ 2 ธันวาคม น้ำป่ามาพังเสียหายทั้งหมด เชื่อว่าคนที่จะซื้ออาจไม่ซื้อแล้ว เนื่องจากสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยพบว่าน้ำป่าในครั้งนี้ ทำให้เกิดร่องน้ำตัดผ่าเข้ามากลางแปลงสวนยางของตนเอง และเกิดร่องน้ำใหม่เกิดขึ้น 2 ทาง และอาจกลายเป็นร่องน้ำถาวร ซึ่งที่ดินของตนเองและของพี่น้องรวมทั้งหมดประมาณ 30 ไร่ อาจได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งยังไม่ทราบว่าทางราชการจะช่วยเหลืออย่างไร
ล่าสุด ทางอำเภอย่านตาขาว และ อ.นาโยง ได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน ขณะเดียวกันทางอบต.ในพื้นที่ กำลังอยู่ระหว่างตั้งโต๊ะรับแจ้งความเสียหายที่ อบต. โดยขอให้ประชาชนที่ประสบภัยไปแจ้งความเสียหายของตนเองได้ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป ขณะที่หลายภาคส่วนพยายามจะรับบริจาคสิ่งของเช่น เสื้อผ้า เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน และนักเรียนที่ประสบภัยจากน้ำป่าไหลหลากทำบ้านเรือนเสียหายในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ขณะนี้ยังคงเกิดฝนตกลงมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและตอนกลางคืน โดยเฉพาะสภาพอากาศบนภูเขาสูง ทำให้ทางจังหวัดยังคงแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังฝนที่อาจจะตกลงมาซ้ำ พร้อมจัดศูนย์รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชม.เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่ต่อไป
