ตรัง พิษเศรษฐกิจ คนตรังวิ่งนำทองคำ เครื่องมือทำมาหากิน ของรักสะสม เข้าโรงจำนำ
ผู้สื่อข่าวรายงานปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งเกิดจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิต -19 ที่ทำรายได้หายมายาวนาน และราคาสินค้า เช่น เนื้อหมู ไก่ อาหารทะเล และอื่นๆมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ราคายางพาราก็ยังตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 46-48 บาท ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก แต่ละครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินทุนสำรอง ขณะนี้พบว่าโรงรับจำนำ หรือสถานธนานุบาลของรัฐ ซึ่งคิดดอกเบี้ยในอัตราถูก จะเป็นทางเลือก และที่พึ่งที่สำคัญให้กับประชาชนที่ดีที่สุดในขณะนี้
โดยนายประสาท พุทธาไฝ ผู้จัดการธนานุบาลเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ในแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการประมาณ 200 – 300 ราย ทั้งจำนำ จ่ายดอก และไถ่ถอนแต่น้อย โดยทางสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรัง ก็มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน ก็จะรับทรัพย์มีค่าทุกชนิดทั้งชิ้นเล็ก ชั้นใหญ่ แต่ต้องอยู่ในสภาพใช้งานที่สมบูรณ์ โดยทรัพย์ที่นำมาจำนำ ขณะนี้พบว่า จะเป็นของมีค่า ที่มีความหมายในชีวิตของเจ้าของทรัพย์มากขึ้น เช่น ทองคำที่เป็นทองหมั้น แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน หรือแหวนที่ให้ในโอกาสพิเศษ รวมทั้งของใช้ที่เป็นของรักของหวง อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหาร การประกอบอาชีพ เช่น เครื่องตัดหั่นเนื้อในร้านอาหาร นาฬิกาข้อมือ เครื่องดนตรี กีต้าร์ คีบอร์ด เป็นต้น รวมทั้งโน๊ตบุ๊ค เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภท ทีวี เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องมือทางการเกษตร ในที่นี้ บางคนนำมาจำนำไว้เป็น 10 ปีแล้ว ยังไม่ได้ไถ่ถอนคืน แต่ก็ยังมาจ่ายดอกเบี้ยไม่ขาดสาย สังเกตได้จากเอกสารจำนำที่ติดไว้กับทรัพย์ที่มีลักษณะหนารวมกันหลายแผ่น เป็นต้น ซึ่งแสดงว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อน ยังต้องรอเวลาไถ่ถอนคืน ทั้งนี้ ทางสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรัง ก็มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจนี้โดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้ และจัดสรรเงินทุนสำรองไว้จำนวนสูงถึง 120 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือประชาชน โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 25 สตางค์ และเว้นไม่คิดดอกเบี้ย 2 เดือนแรก และส่วนที่เกิน 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ทั้งนี้ หากประชาชนเดือดร้อนให้เดินทางมาใช้บริการที่สถานธนานุบาลเทศบาลนครตรังได้
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: