ตรัง มูลนิธิปวีณารุดลงตรังพบผู้การฯ ตรัง ผู้ว่าฯตรัง ติดตามคดี ร้อยตำรวจข่มขืน 2 เด็กหญิง ล่าสุดสามารถจับกุมตร.ดังกล่าวได้แต่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธและได้รับการประกันตัวออกมา ยายเด็กผวากลัวถูกคุกคามและเกรงกลัวอำนาจเพราะตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดา
วันที่ 21 ม.ค 2565 เวลา 11.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จะเดินทางไป จ.ตรัง พบ พล ต.ต. สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ที่กองบังคับการตำรวจภภูธร จ.ตรัง และเวลา 11.30 น. เดินทางเข้าพบ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ที่ศาลากลางจังหวัดตรัง พร้อม พมจ. จ.ตรัง นางนูรียัน นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง พร้อม ยาย เด็ก พล ต.ต. สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง เพื่อติดตามคดี กรณี ยาย เด็กร้องทุกข์มายังมูลนิธิปวีณาฯ ว่าหลานสาว 2 พี่น้อง ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี และน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ถูกตำรวจ ยศ รตอ. ข่มขืน ต่อเนื่องนานนับปีเด็กทนไม่ไหว จึงนำเรื่องมาบอกยายขอความเป็นธรรมมายังมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือหลานทั้ง 2 คน และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นถึงนายตำรวจ โดยนางปวีณา ได้ประสาน นางมณี สาระพล พมจ. จ. ตรัง และนางนูรียัน นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็ฯ จ.ตรัง นำเด็กผู้เสียหายเข้าคุ้มครอง และนางปวีณาได้ ประสาน พล ต.ต. สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ให้ยายเข้าแจ้งความ และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย โดยดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง นอกจากจะติดตามคดีแล้ว นางปวีณาจะเข้าเยี่ยมเด็กทั้ง 2 คน ที่บ้านพักเด็ก จ.ตรัง เพื่อวางอนาคตการศึกษาร่วมกับ พมจ. และ หน.บ้านพักเด็ก จ.ตรัง
ข่าวน่าสนใจ:
ยาย เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกชาย ชื่อ นายเอก (นาสมมุติ) มีลูกสาว ชื่อ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ลูกคนที่สองของยาย ชื่อ นางอ้วน (นามสมมุติ) มีลูกสาว 2 คน ชื่อน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เมื่อประมาณ 2 ปี ก่อน ตำรวจรายนี้ได้คบหาอยู่กินกันกับ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี มาก่อนหน้านี้แล้ว และต่อมานางอ้วน (นามสมมุติ) ได้ถูกตำรวจ จ.ตรัง จับกุมข้อหายาบ้า เดือน พ.ย. 63 โดยมีตำรวจคนดังกล่าวอยู่ในชุดจับกุมด้วย (ปัจจุบัน นางอ้วน ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ)
ต่อมาช่วงเดือน ธ.ค. 63 ตำรวจรายนี้ให้ น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี มารับ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นลูกของ นางอ้วน และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส.แก้ว ไปอยู่ด้วยโดยอ้างว่าสงสารเด็กเพราะแม่ติดคุก เมื่อเด็กไปอยู่ได้ประมาณ 3 วัน ได้ถูกนายตำรวจรายนี้ ข่มขืน ข่มขู่ห้ามบอกใครและถูกข่มขืนมาเรื่อยๆ
ซึ่งเด็กไม่กล้าบอกใครเพราะนายตำรวจรายนี้จะวางปืนอยู่บนหัวเตียงนอนประจำและข่มขู่ ระหว่างที่เด็กอยู่ด้วยยังถูกตำรวจรายนี้บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน 3 คน กับพี่สาว เวลาผ่านมาร่วมปี จนถึงวันที่ 8 ม.ค. 65 เด็กทนไม่ไหวจึงบอกกับ น.ส.แก้ว ว่าขอกลับบ้านไปหา ยาย น.ส.แก้ว จึงพามาส่งให้ที่บ้าน ยาย เด็กจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ ยาย ฟัง อีกทั้งน้องเอ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี ได้นั่งฟังอยู่ด้วย จึงได้เล่าให้ ยาย ฟังว่าที่ น.ส.แก้ว มารับน้องเอ อายุ 16 ปี ไปที่ห้องพักตำรวจอ้างว่าจะพาไปเที่ยว น.ส.แก้ว ปล่อยให้น้องเอ อายุ 16 ปี อยู่ตามลำพังกับนายตำรวจดังกล่าว และได้ถูกตำรวจคนดังกล่าวในห้องนอนและได้ถูกข่มขืนขู่ห้ามบอกใครเช่นกัน และ น.ส.แก้ว จะมารับน้องเอ ไปมีเพศสัมพันธ์กับตำรวจรายนี้ด้วย ตนได้ฟังหลานสาวเล่าแล้วตกใจมากและไม่เคยรู้ว่าหลานถูกย่ำยีขนาดนี้ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หากต้องเข้าแจ้งความก็กลัวว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย และในทุกๆ คืนตนต้องทนทรมานข่มตานอนสงสารหลานทั้ง 2 คน จึงตัดสินใจติดต่อมายังเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือ
วันที่ 14 ม.ค. 65 ยาย จึงตัดสินใจติดต่อมายังเพจเฟสบุ๊กของมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อ นางปวีณา รับเรื่อง ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ยาย ทันที และทราบว่า น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) ได้มารับ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี กลับไปอยู่ด้วยที่ห้องพักตำรวจกับนายตำรวจคนดังกล่าวอีก นางปวีณา จึงให้ ยาย ไปรับ ด.ญ.บีอายุ 12 ปี กลับมาบ้าน และนางปวีณา ได้ประสาน นางมณี สาระพล พมจ. จ.ตรัง และนางนูรียัน นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง ขอให้รับเด็ก 2 คนพี่น้องคือ ด.ญ.บี และน.ส.เอ เข้ารับกาคุ้มครองที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตรัง ทันที
ต่อมาวันที่ 15 ม.ค. 65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานให้ข้อมูลกับ พล ต.ต. สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พล ต.ต. สันทัด วินสน ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเข้าไปสอบเด็กผู้เสียหายที่บ้านพักเด็กฯ และให้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ พา ยาย เข้าแจ้งความ และพาเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกาย
ในวันที่ 18 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง ได้พาเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน เข้าสอบปากคำตาม สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการ จ.ตรัง โดยเด็กทั้ง 2 คน ให้การยืนยันชัดเจนว่าถูกนายตำรวจคนดังกล่าว ข่มขืน มาโดยตลอดจริง
ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. 65 ได้รายงานมาว่า ตำรวจได้ให้ รตอ.คนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา และได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว และจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ยาย ของเด็ก กล่าว่า วันนี้ ตนเครียดมากเมื่อรู้ว่าตำรวจรายนี้ได้รับการปล่อยตัว ทั้งๆ ที่เขาทำผิดกับหลานสาวของตน ทำไมถึงไม่มีการจับกุม ตนกลัวความปลอดภัยเกรงจะมาข่มขู่ทำร้ายบีบบังคับให้ถอนคดี ตอนนี้ตนเป็นห่วง น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) มาก ไม่สามารถติดต่อได้ปิดมือถือ ก่อนหน้านี้ น.ส.แก้ว ได้ให้การเป็นประโยชน์กับตำรวจไว้แล้ว แต่ตอนนี้ตำรวจคนนั้นได้พา น.ส.แก้ว ไปอยู่ที่ไหน ตนต้องการเจอหลานขอให้ นางปวีณา ช่วยติดตาม น.ส.แก้ว กลับมา
นางปวีณา กล่าวว่า เรื่องการข่มขืนเด็กเป็นเรื่องใหญ่ หากข้าราชการตำรวจกระทำผิดจริง ก็ต้องถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ต้องดำเนินคดีกับตำรวจที่กระทำความผิด ใครผิดก็ต้องลงโทษ จึงขอสอบถาม พล ต.ต. สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ว่าทำไมตำรวจรายนี้ถึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวที่สถานีตำรวจไม่ต้องส่งศาล ขอให้ผู้บังคับการภูธร จ.ตรัง พล ต.ต. สันทัด วินสน ได้ชี้แจงให้เหตุผลให้ทราบด้วย
นอกจะมาติดตามเรื่องคดีนี้แล้ว นางปวีณาได้เข้าเยี่ยมเด็กผู้เสียหาย อายุ 12 ปี และอายุ 16 ปี ทั้ง 2 คน ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตรัง พร้อมประชุมช่วยกันตามที่ นางมณี สาระพล พมจ. จ.ตรัง และนางนูรียัน นิเต๊ะ หน.บ้านพักเด็กฯ จ.ตรัง หาแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจ และให้การศึกษาเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: