ตรัง- พบคลัสเตอร์สถานศึกษา-มโนราห์โรงครู รร.และวท.พยาบาล เปิดเรียน On Site 3 แห่ง ติดเชื้อโควิด-19 แล้วกว่า 30 คน ผวจ.รุดลงพท. กวดขันรร.ที่เปิดเรียน On Site ป้องกันการติดเชื้อตามมาตรการ
ตามที่จังหวัดตรังได้เกิด 2 คลัสเตอร์ใหญ่ ติดเชื้อแล้ว 54 ราย ประกอบด้วย คลัสเตอร์มโนราห์โรงครู ติดเชื้อ 24 ราย และคลัสเตอร์สถานศึกษา 3 แห่ง พบติดเชื้อแล้ว 34 ราย เสี่ยงสูงอีกรวมกว่า 150 คน หลังทางจังหวัดผ่อนคลายมาตรการให้ทำกิจกรรม และให้โรงเรียนที่พร้อมเปิดเรียนแบบ On Site ได้ ทำให้ทางจังหวัดต้องเร่งทบทวนมาตรการและลงพื้นที่กวดขันโรงเรียนที่กำลังเปิดเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการจังหวัดและทำตามแผนปฏิบัติการที่ได้เสนอต่อ ศบค.ก่อนขอเปิดเรียนอย่างเคร่งครัด เพราะล่าสุด พบบางโรงเรียนที่ติดเชื้อไม่ปฏิบัติตามแผนที่เสนอต่อ ศบค. คือ ไม่มีพื้นที่แยกกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทำให้ทาง ศบค.ต้องนำตัวนร.ไปกักในโรงแรม
โดยที่โรงเรียนสภาราชินี ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ศึกษาธิการจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการเปิดเรียนวันแรกของโรงเรียนสภาราชินี เพื่อกวดขันให้ปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดและให้ปฏิบัติตามแผนที่ได้นำเสนอต่อ ศบค.ตรัง ในการขออนุญาตเปิดเรียนแบบ On Site ควบคู่กับการสอนออนไลน์ โดยมีนายสุมิตร สามห้วย ผอ.รร.สภาราชินีตรัง เป็นคนพาตรวจสอบการจัดการภายในโรงเรียน เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด -19 ภายในโรงเรียน ทั้งนี้ พบว่าทางโรงเรียนพยายามทำตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มแข็ง ทั้งการติดตั้งเครื่องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อจากทางเข้า การนำเทคโนโลยีมาตรวจสอบนร.และบุคลากรครูรายบุคคล โดยใช้กล้อง CCTV ตรวจจับภาพ. ทำการตรวจวัดอุณหภูมิและบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล และรายงานเข้ามือถือครู นร.และผู้ปกครองรายบุคคล , การตรวจ ATK นักเรียนทุกคนที่มาเรียนวันแรก โดยพบว่าในวันนี้ มีนร.มาโรงเรียนจำนวน 202 คนเท่านั้น จากเดิมที่ได้แจ้งไว้ครั้งแรกจำนวน 1,100 คน และ ครั้งที่ 2 จำนวน 308 คน ทั้งนี้ ในการตรวจ ATK ครั้งแรกวันนี้ พบนร.ผลตรวจเป็นบวก จำนวน 2 ราย จึงนำนร.ไปไว้ที่ห้องพักคอย เพื่อประสานผู้ปกครองมารับนร.ไปตรวจซ้ำที่ รพ. หลังจากนี้จะทำการสุ่มตรวจนร. ที่มาเรียนทุกวัน ทุกสัปดาห์ๆละ 10 % จากนั้น ผู้ว่าฯได้ไปทำการตรวจสอบห้องรับประทานอาหาร ซึ่งทางรร.ได้จัดไว้หลายร้อยโต๊ะ โดยการจัดอาหารกล่องให้นร. ลดการสัมผัสใกล้ชิดและรวมกลุ่ม. จากนั้นได้เดินทางไปดูอาคารเรียน 8 ชั้น ที่ทางรร.ได้จัดพื้นที่ชั้น5 และ ชั้น 8 ไว้สำหรับเป็นชั้นแยกกัก นร. ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (School Isolation) กรณีที่พบการระบาดคิดเชื้อใน รร. และนร. ไม่สามารถกักตัวบ้านได้. และเยี่ยมชมการสอนออนไลน์ของคุณครู พร้อมทักทายนร.ผ่านทางออนไลน์ด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีบางโรงเรียนที่พบติดเชื้อ ไม่ได้จัดพื้นที่แยกกักตัว ตามที่ได้นำเสนอแผนไว้ตอนต้น ทำให้ทาง ศบค.ต้องนำนร.ไปกักตัวที่โรงแรม ทั้งนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัดตรังได้เสนอให้ทางโรงเรียนทำการซ้อมแผน กรณีพบนร.ติดเชื้อ เพื่อให้สามารถจัดการได้ทันที เมื่อพบการระบาด
ข่าวน่าสนใจ:
- WDC เสริมกำลังตลาดภาคใต้ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ขยายโชว์รูมแห่งที่ 9 จ.สุราษฎร์ธานี ลุยสินค้ารักษ์โลก พร้อมเปิดตัว Friends of Brand ปี 2568
- ตรัง เปิดความสวยงาม "เขาแบนะ-อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม" เส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบภูเขาชมทะเลงาม
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
ทางด้านนายขจรศักดิ์. เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง. กล่าวว่า. ขณะนี้โรงเรียนระดับชั้นมัธยมมาศึกษาในจังหวัดตรังเปิดเรียนแล้วทั้งหมด 7 แห่ง ในที่นี้พบการติดเชื้อแล้ว 2 โรง คือ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และโรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา ทำให้ต้องลงพื้นที่มากวดขัน ดูการจัดการของโรงเรียนให้เป็นไปตามแผนที่ได้นำเสนอต่อ ศบค.ตรัง ให้พิจารณาก่อนเปิดเรียน สำหรับรร.สภาราชินี พบว่าจัดการได้ดีมากตามแผนทุกประการ และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าช่วย สามารถประมวลผล และรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของนร.ได้โดยตรงต่อผู้บริหาร ครู และผู้ปกครอง โดยกำชับให้มีพื้นที่แยกกักตัวทุกโรงเรียน ( School Isolation)กรณีพบนร.ติดเชื้อ และกักตัวที่บ้านไม่ได้ และทุกโรงจะต้องสุ่มตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์ๆละ 10% ส่วนโรงเรียนขนาดเล็ก ขณะนี้ทาง ศบค.ก็เปิดให้การเรียนการสอนแบบ On Site ได้ หากมีความพร้อม และเสนอแผนจัดการมาให้ ศบค.พิจารณา ไม่จำเป็นต้องรอนร.อายุต่ำกว่า 12 ปีฉีดวัคซีนทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมานายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง ในฐานะโฆษก ศบค.จ.ตรัง กล่าวว่า ได้พบการติดเชื้อโควิด 19 ในโรงเรียน โดยมีการสัมผัสเชื้อในโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ให้เปิดการเรียนแบบ Onsite โดยนักเรียนได้อยู่ในหอพักที่โรงเรียนเป็นเวลาเดือนครึ่ง โรงเรียนจึงได้อนุญาตให้นักเรียนชั้น ม.1 ได้กลับบ้านในวันศุกร์ที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา และกลับเข้าหอพักในวันเสาร์ที่ 22 มกราคม ก่อนเข้าหอพักได้ตรวจ ATK ผลเป็นลบทุกคน ต่อมาวันที่ 25 มกราคม ผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.1/1 โทรมาแจ้งว่าผู้ปกครองเองตรวจพบว่าเป็น โควิด – 19 ด้วยวิธี ATK
ทางโรงเรียนจึงได้ให้ทางโรงเรียนประสานกับ รพ.สต.บางรัก ทำการตรวจคัดกรอง สอบสวนโรค พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 20 คน โดยกักตัวทั้ง 20 คนเอาไว้ และก่อนการกักตัวได้ตรวจ ผล ATK ผลเป็นลบทั้ง 20 คน ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำที่เรียนห้องเดียวกัน หรือว่าอยู่ห้องหอพักของชั้นเดียวกันแต่อยู่คนละฝั่งจำนวน 11 คน ตรวจ ATK เป็นลบทุกคน ต่อมาหลังจากการกักตัวมีผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสร่วมกันอีก 4 ราย ในขณะนี้การสัมผัสเชื้อได้สิ้นสุดลงแล้ว การควบคุมโรคและควบคุมผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ควบคุมเวลาตามมาตรการของ ศบค.กลางแล้ว
สำหรับโรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา มีการติดเชื้อโควิด 19 ของนักเรียนชั้น ม.2/3 ที่มีทั้งหมด 27 คน แต่เป็นผลบวกจำนวน 19 คน ในขณะนี้โรงเรียนตรังคริสเตียนไม่ได้มีการแพร่ระบาดนอกห้อง ม.2/3 แต่เพื่อความปลอดภัยโรงเรียนได้ปิดการเรียนแบบ Onsite ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อความปลอดภัย
จึงขอเน้นย้ำพี่น้องประชาชนว่ามาตรการที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรังได้มอบให้ศูนย์ปฏิบัติการระดับอำเภอได้เฝ้าติดตามและประเมินผลในโรงเรียนและสถานศึกษามี 3 ข้อ 1. คือ การป้องกัน นักเรียนทุกคนจะต้องป้องกันแบบ Universal precautions ทั้งในโรงเรียน ในชุมชน ที่บ้าน มาที่โรงเรียนก็จะมีการจัดการเรียนการสอนแบบ small คือห้องหนึ่งไม่เกิน 25 คน มีการตรวจ ATK ก่อนที่จะเข้าเรียนทุกราย 2. การรับประทานอาหาร มีฉากแยกกันและจัดเป็น Set Box 3. สำหรับมาตรการในการเฝ้าระวัง จะมีการตรวจ ATK 100% เมื่อมีการเปิดเรียนแบบ Onsite และมีการสุ่มตรวจร้อยละ 10 ทุกสัปดาห์ในการเปิดภาคเรียน นอกจากนี้การเฝ้าระวังก็จะมีการสอบถามประวัติของนักเรียนว่ามีอาการไข้ไอเจ็บคอหรือไม่ โดยจะเข้มงวดเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องการการแพร่ระบาดโควิด 19
ส่วนการจัดโนราโรงครูในช่วงที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พบว่า ที่ตำบลโคกสะบ้า อำเภอนาโยง ผลตรวจ ATK จำนวน 131 ราย พบเป็นผลบวกจำนวน 24 ราย จากการสอบสวนโรค แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มแรก คือที่หมู่ 5 มีการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และนำมาแพร่เชื้อให้กับคนในบ้าน รวมเป็นผลบวก 4 ราย กลุ่มที่ 2 หมู่ 8 ตำบลโคกสะบ้า มีญาติเดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต และมีการรวมตัวกันทำกิจกรรมรำมโนราห์ รวมแล้วเป็นบวก 17 ราย และ ที่หมู่ 1 สัมผัสกับเด็กที่หมู่ 8 ทำให้ผู้เป็นผลบวก จำนวน 3 ราย รวมทั้งสิ้นเป็นบวกวันนี้ 24 ราย
ทั้งนี้ จากการที่มีการสัมผัสใกล้ชิดและมีการเดินทางมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ทางอำเภอนาโยงได้มีรายละเอียดการขอแจ้งจัดกิจกรรมมโนราห์โรงครู ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ตำบลนาข้าวเสีย ตำบลโคกสะบ้า ตำบลละมอ ตำบลนาหมื่นศรี ตำบลช่อง ขอให้พี่น้องประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การงดเว้นการรับประทานอาหารร่วมกัน และเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ในการรำโนราโรงครู
โดยมาตรการโนราโรงครูก็จะมีการตรวจโดยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันโควิดระดับอำเภอ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงชะลอการผ่อนคลายมาตรการต่างๆออกไปอีกระยะหนึ่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: