X

ลูกยืนยันเดินหน้าเอาผิดเจ้าหน้าที่ รพ.ตรัง หลังแม่รักษาโควิดมีรอยช้ำทั่วตัว ด้านผอ.รพ.ยังเงียบ

ตรัง ลูกยืนยันเดินหน้าเอาผิดเจ้าหน้าที่ รพ.ตรัง ทำแม่บาดเจ็บขณะพักรักษาตัวติดเชื้อโควิดให้ถึงที่สุด โดยจะเอาเจ้าหน้าที่มากราบเท้าขอโทษแม่ให้ได้  โดยจะร้องศูนย์ดำรงธรรม หน่วยงานสาธารณสุข โดยให้เหตุผลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแม่และคนอื่น ๆ ที่เคยเสียชีวิตและญาติระบุพบรอยฟกช้ำตามตัวลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ หลังจากเข้าแจ้งความบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองตรัง และรับแม่ออกมาจาก รพ.มาอยู่ที่บ้านแล้ว แม่อาการดีขึ้นอย่างมากเกือบเป็นปกติแล้ว และยังไม่มีคนของรพ.มาพูดคุยทำความเข้าใจ ในขณะที่ผอ.รพ.ตรัง ยังไม่มีการชี้แจงกรณีดังกล่าวกับสื่อแต่อย่างใด

จากกรณีที่ครอบครัวของนางประคอง ทองหวาน อายุ  73  ปี อยู่บ้านเลขที่  58/4  ม.9  ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า นางประคอง ได้เข้ารักษาตัวเนื่องจากติดเชื้อโควิด 19  ตั้งแต่วันที่  8-18  ก.พ.65  ที่โรงพยาบาลตรัง แต่พบว่าร่างกายของนางประคอง มีรอยฟกซ้ำดำเขียว บริเวณแขน ข้อมือทั้งสองข้าง หลังมือ มีรอยเขียวช้ำ และรอยเล็บจิก บริเวณใต้รักแร้ และรอยจ้ำเลือดที่ปลายนิ้วมือ รวมทั้งนางประคอง มีอาการหวาดผวา และมีอาการเพ้อ รวมทั้งมีอาการแขนขาอ่อนแรง จนไม่สามารถเดินเหินได้อย่างเคย โดยนางประคอง บอกว่า ถูกพยาบาลร่างอ้วนกระทำรุนแรงกับตน ซึ่งต่างไปจากก่อนเข้าทำการรักษาที่ รพ.ตรัง โดยที่ระหว่างพักรักษาตัวทางลูกๆ ซึ่งป่วยติดเชื้อโควิดด้วย แต่แยกรักษาตัวที่บ้าน และศูนย์แยกกักชุมชนตำบลโคกหล่อ พยายามโทรศัพท์สอบถามอาการแม่ด้วยความเป็นห่วงตลอดเวลา และพยายามร้องขอนำตัวแม่มารักษาที่บ้านด้วยกัน รวมทั้งขอย้ายรพ.และร้องขอให้ลูกซึ่งป่วยโควิดขอเข้าไปรักษาที่ รพ.กับแม่ เพื่อจะได้ดูแลแม่ด้วย แต่ไม่เป็นผลนั้น จนกระทั่งรอครบกำหนด 10 วันของการรักษา ลูกๆจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐานไปขอรับตัวแม่ออกจากรพ.โดยระบุว่า แม่อาการทรุดลงเรื่อยๆ  อาจจะเกิดการรักษาผิดวิธี หรือเกิดจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงาน หรืออาจดูแลไม่ทั่วถึง จนสามารถรับตัวกลับมาได้ในที่สุด แต่มีบาดแผลร่องรอยฟกช้ำดำเขียวหลายจุดตามร่างกาย ซึ่งเกิดจากรักษาพยาบาล โดยที่ไม่ได้แจ้งญาติและครอบครัวให้ร่วมตัดสินใจในการรักษาด้วยนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด นางนฤทัย ทองหวาน อายุ  50  ปี พร้อมด้วย นายอนันต์วิทย์ ทองหวาน (น้องชาย) อายุ 47 ปี  อาชีพรับราชการ ยืนยันจนถึงขณะนี้หลังรับตัวแม่กลับบ้านแล้ว ทางครอบครัว ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือพูดคุยกับผู้บริหารของ รพ.ตรัง ล่าสุด เดินทางไปที่รพ.ตรัง เพื่อติดต่อขอประวัติการรักษาแม่ เพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานในการร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้แม่ต่อไป โดยเบื้องต้นกำหนดจะเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง หากไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกก็จะร้องต่อสำนักงานสาธารณสุขต่อไป โดยทางครอบครัวต้องการอยากได้กล้องวงจรปิด ขณะที่แม่รักษาตัวในรพ. เพื่อจะดูว่าเจ้าหน้าที่กระทำการอย่างใดกับแม่บ้าง จนทำให้แม่มีอาการหวาดกลัว และมีรอยฟกช้ำดำเขียวหลายจุด จะยกตัวหรือพลิกตัวแม่ได้ แต่ขณะนี้ผ่านมา 4 วัน อาการดีขึ้นอย่างมาก สามารถลุกขึ้นนั่งได้เอง เดินได้เอง กินข้าวได้ ยิ้มแย้มแจ่มใส  เชื่อไม่กี่วันก็จะหายไปปกติ โดยนางนฤทัย ระบุว่า ต้องการจะให้เจ้าหน้าที่ที่ทำกับแม่ มากราบเท้าขอโทษแม่ และให้เดินรอบรพ.พร้อมกับประกาศว่าจะปฏิบัติหน้าที่ตามจรรยาบรรณวิชาชีพ จะไม่กระทำกับผู้ป่วยรายอื่นในลักษณะนี้อีก เพราะมองว่ากระทำดังกล่าว เป็นทารุณผู้ป่วย

ยืนยันที่ผ่านมาทางครอบครัวพยายามติดต่อขอแม่กลับมารักษาที่บ้าน รวมทั้งขอย้าย รพ.หรือขอลูกสักคนซึ่งป่วยติดเชื้อเหมือนกันขอตามไปรักษาตัวและดูแลแม่ที่รพ.ด้วย แต่ทางรพ.ไม่อนุญาต และไม่แจ้งปรึกษาก่อนจะกระทำการใดๆในการรักษาพยาบาลแม่ ในการมัดตรึงตัวแม่ ทำให้แม่บาดเจ็บ เครียดเบาหวานขึ้นสูง จนต้องนอนติดเตียงสลึมสลือ และจะขอให้แม่นอนรักษาตัวที่รพ.ต่อไปจนครบ 21 วัน  โดยครอบครัวต้องอดทนรอจนครบ 10 วัน ตามกำหนดการเดิม จึงต้องเข้าแจ้งความ เพื่อขอนำตัวแม่กลับบ้าน  เพราะหากไม่ตัดสินใจนำแม่กลับบ้าน และให้อยู่ต่อจนครบ 21 วัน ตามที่รพ.ระบุเชื่อว่าแม่อาจจะทรุดหนัก จนอาจเหลือแต่ชื่อแล้ว และบอกว่าหากนำแม่กลับบ้าน อาจทำเสียชีวิตได้ แต่ขณะนี้ก็เห็นชัดว่า การรักษาตัวที่บ้านเป็นการรักษาที่ถูกวิธี สภาพร่างกายแม่พวกตนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่การรักษาที่รพ.เป็นการกระทำทารุณทำให้บาดเจ็บและอาการทรุด จึงยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแม่และคนอื่นๆด้วย ที่อาจถูกกระทำเหมือนแม่ เพราะมีบางคนมาโพสต์ในเฟซบุ๊กตนว่า แม่ของเขามีอาการเดียวกันคือ รอยฟกช้ำดำเขียวหลายจุด และไม่อยากให้ไปทำกับใครอีก

อย่างไรเมื่อเวลา 16.00 น ของวันที่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องอำนวยการโรงพยาบาลตรัง โดยเจ้าหน้าที่หน้าห้องผู้อำนวยการได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่านายแพทย์สมบัติ สธนเสาวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง กำลังประชุม และ ให้เลขาหน้าห้อง ออกมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า” ไม่สะดวกที่จะชี้แจงกับผู้สื่อข่าว แต่จะขอทำหนังสือชี้แจงกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับเท่านั้น”

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน