รพ.ตรังยังเงียบไม่ติดต่อพูดคุย ลูกเตรียมร้องศูนย์ดำรงธรรม ยัน แม่ติดโควิดตายจากรพ.แน่นอน เผย คลิปขณะย้ายผู้ป่วยโควิดออกจากวอร์ดเดียวกัน
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 จากกรณี นางประจบ เป้าทอง อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/2 ม.5 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ป่วยเป็นโรคไตและเกาท์ เป็นผู้ป่วยติดเตียงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา โดยมีลูกสาวชื่อ นางจิตราภรณ์ เคลือกล่อม อายุ 56 ปี ทำหน้าที่นอนเฝ้าดูอาการแม่ของตัวเอง จนถึงวันที่ 10-13 ก.พ.ได้ขอผลัดเปลี่ยนเวรกับพี่สาว ตนเองขอกลับบ้านและมาทราบ ซึ่งในระหว่างนั้นก็รู้สึกไม่สบายตัวก็ได้ไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 พบติดเชื้อโควิด 19 และมั่นใจว่าติดเชื้อโควิดมาจากโรงพยาบาลตรังอย่างแน่นอน ขณะที่เฝ้าดูแลแม่ตนเองไม่ได้ไปไหนต้องระมัดระวังแต่ก็ยังติดเชื้อ ซึ่งโดยปกติแล้วญาติๆที่เฝ้าทุกคนต้องผ่านการสวอปก่อนจะที่ขึ้นตึกเฝ้าไข้ผู้ป่วยได้ ส่วนพี่สาวที่มาช่วยเฝ้าไข้ได้ทำการสวอปแต่ผลเป็นลบ ในขณะที่แม่ที่นอนรักษาโรคไตกลับติดโควิด ทางเจ้าหน้าที่พยาบาลจึงได้แยกตัวและพาเข้ารักษาตามขั้นตอน จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนตนเองรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 15 วัน โดยลูกๆติดใจแม่ป่วยโรคไตรักษาตัวในรพ.แต่กลับติดเชื้อโควิด-19 ลงปอดเสียชีวิต ด้านนายแพทย์สมบัติ สธนเสาวภาคย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง เผยเตรียมประสานเข้าพูดคุยกับญาติ แจงข้อเท็จจริง และในส่วนเรื่องของการเยียวยาเนื่องจากว่าทางกระทรวงสาธารณสุขไม่มีงบประมาณในส่วนนี้ก็จะทำการพูดคุยกับญาติต่อไป เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย
คืบล่าสุด ที่วัดหนองยวน ม.7 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 มี.ค. นางจิตราภรณ์ เคลือกล่อม อายุ 56 ปี พร้อมด้วยลูก หลานและบรรดาญาติ ๆ ต่างนำอาหาร มาร่วมทำบุญและนำอัฐิของนางประจบ เป้าทอง อายุ 87 ปี เก็บเข้าโกศไว้ที่วัด โดยมีเฉพาะลูกๆ ญาติๆที่สนิท พากันมาทำบุญ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจที่แม้แต่หน้าแม่ก็ยังไม่ได้เห็น
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางจิตราภรณ์ ว่าหลังจากที่มีข่าวออกไปและทางรพ.ตรังเตรียมเข้ามาชี้แจง ในขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ขอเข้ามาติดต่อพูดคุยบ้างหรือไม่นั้น นางจิตราภรณ์ บอกว่า วันนี้ทั้งลูกๆ หลานๆ และญาติๆก็มานำกระดูกแม่ใส่โกศ แล้วก็มาทำพิธีทอดผ้าบังสกุล วางดอกไม้จันทน์ ตักบาตรกระดูก ใส่โกศ แล้วก็มีการทำกับข้าวเลี้ยงเพลพระและญาติ ๆ ตามอัตภาพ เนื่องจากไม่มีศพแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลตรังหรือใครติดต่อตนเองเข้ามาเลย โดยตนเองก็รออยู่ ซึ่งก็ยังขอยืนยันว่าอยากให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบ ยังติดใจที่แม่ป่วยเป็นโรคไตและโรคเก๊า หากเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวทางญาติๆ ก็จะไม่ติดใจอะไรเลย แต่แม่กลับมาเสียชีวิตด้วยโรค covid-19 ลงปอด ซึ่งบรรดาลูกๆ ก็ไม่ได้เห็นหน้าแม่เลย ตอนนี้ก็เลยมาร้องเรียน ก็คุณแม่ใคร ๆ ก็รัก หากยังเงียบอยู่จะดำเนินการต่อ โดยจะเข้าไปโรงเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมต่อไป ได้หลังจากที่ตัวเองทราบข่าวทางผอ.รพ.ตรัง แจ้งว่าอาจจะเกิดจากเหตุสุดวิสัยนั้นตนเองยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมีคลิปหลุดมาจากวอร์ดชั้น 4 ตึก 298 ที่แม่นอนรักษาอยู่ ได้มีการขนเตียงผู้ป่วยติดเชื้อโควิค 19 ออกมาจากวอร์ดชั้น 4 ซึ่งไม่ใช่เตียงของแม่ จะไม่ให้ตนเองแน่ใจได้ยังไงว่าไม่ได้ติดมาจากโรงพยาบาล ตนเองมั่นใจว่าเชื้อโควิดติดมาจากที่โรงพยาบาล เพราะว่าที่บ้านก็ไม่มีใครเป็น ที่บ้านอยู่กันทั้ง 10 ชีวิตก็ไม่มีใครติดเชื้อโควิดสักคน มีแต่ตอนนี้กลับมาจากโรงพยาบาลเฝ้าแม่คนเดียว
ส่วนเรื่องคลิปญาติขอยืนยันว่ามีคลิปหลุดออกมาจากโรงพยาบาล ของคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ว่าขนคนไข้ติด covid ออกจากวอร์ด ซึ่งอยู่ในวอร์ดเดียวกับแม่ คุณแม่ติดจากวอร์ดนี้แน่นอน ก็ยังไม่ได้ติดจากบ้านไม่มีคนเป็น covid สักคนเดียว ส่วนที่โรงพยาบาลตนเองยืนยันได้ว่า หากออกไปซื้อข้าวกินก็จะลงมาที่สหกรณ์ของโรงพยาบาลตลอดไม่เคยออกนอกโรงพยาบาลเลย และก็ขึ้นกลับไปดูแลแม่ชั้น4 และตนเองก็ไม่เคยเดินไปที่เตียงไหนเลย อยู่เฉพาะเตียงของแม่เตียงที่ 14 ในส่วนที่ว่าน่าจะนำไปติด ในส่วนนี้เขาจะไม่ให้ญาติขึ้นไปเยี่ยม นอกจากลูกคนเดียวที่เฝ้าแม่ จึงอยากขอให้ทางโรงพยาบาลช่วยรับผิดชอบหน่อย ซึ่งเราก็รออยู่ หากแม่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวโรคไตและเกาท์ จะไม่มาร้องเรียนเลย ลูกๆ หลานๆ ทุกคนติดใจ
ด้านนางยุพา กลิ่นเพชร อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนางจิตราภรณ์ ที่มาเฝ้าแม่เปลี่ยนผลัดเวรในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ตนเองตรวจ ATK ก่อนเฝ้าไข้หลังเฝ้าไข้และตรวจซ้ำเพื่อยืนยันผล3รอบไม่ติดเชื้อโควิด19 และคนที่บ้านก็ไม่มีใครติด มีเพียงน้องสาวคนเดียวที่ไปเฝ้าแม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: