ที่จังหวัดตรัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นำประชาชนชาวตรังตักบาตรสงกรานต์ กรีด การเมืองธุรกิจ ซื้อเสียงมาโกง ยก กม.-กฎแห่งกรรมเล่นงานแล้วตั้งแต่นายกฯ-อธิบดี ยาหอมสารพัดโครงการพัฒนาตรัง ได้งบเพราะเครดิตทำเพื่อส่วนรวมไม่มีโกง เผย “ประยุทธ์” พูดกลางวงงบประมาณ ให้ 1.8 พันล้านขยายสนามบิน เพราะประธานสภาฯอยู่ตรัง
เมื่อวันที่ 13 เม.ย.65 ที่บริเวณสวนสาธารณะ สระกะพังสุรินทร์ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกันสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดตรัง พร้อมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์ สามเณร จำนวน 59 รูป เนื่องในวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย โดยมีพระราชวรากร เจ้าคณะจังหวัดตรัง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายไพบูลย์ โอมาก, นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเข้าร่วม
ทั้งนี้ นายชวน ได้กล่าวกับประชาชนผู้มาร่วมทำบุญตักบาตรตอนหนึ่งว่า ที่เขตเทศบาลนครตรัง ในปีงบประมาณ 2565 นี้ จะมีการก่อสร้างจตุรัสเมืองตรัง หรือตรังสแควร์ งบประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายกเทศมนตรีนครตรัง ช่วยดูแล ตอนนี้ยังไม่มีการประมูลงาน แต่ได้ออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว พี่น้องในเขตเทศบาลอย่าตกใจ ถ้าอีกไม่นานเขาจะรื้อเกาะกลางถนนบริเวณหอนาฬิกาทั้งหมด ให้เป็นที่โล่ง ให้เหมือนกับสแควร์ในต่างประเทศ แต่ด้วยความที่เราเป็นเมืองร้อน จึงไม่สามารถปล่อยให้โล่งหมดได้ เราจึงต้องหาต้นไม้ใหญ่มาปลูกให้มีร่มเงา และโครงการต่อไปคือการเปลี่ยนแปลงของสนามบินตรัง ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 3 ปี ทำที่จอดเครื่องบินใหม่ ใช้เงินทั้งหมด 2,000 ล้านบาท เฉพาะที่จอดเครื่องบิน 800 ล้านบาท จากเดิมจอดได้ 4 ลำ เป็น 10 ลำ ที่พักผู้โดยสารใช้เงิน 1,200 ล้านบาท ซึ่งกำลังทำ เราได้ช่วยกันออกแบบหลังคาเป็นสีฟ้าอมเทา ซึ่งก้าวหน้าไปเร็วมาก แต่เครื่องบินใหญ่จะลงได้ต้องขยายทางวิ่ง จาก 2,100 เมตร เป็น 2,990 เมตร ใช้เงิน 1,800 ล้านบาท
“รวมทั้งโครงการของสนามบินตรังทั้งสิ้น เกือบ 4,000 ล้านบาท ได้งบประมาณ 1,800 ล้านบาทมาแล้วในปีนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพูดในที่ประชุมงบประมาณ ว่า สำหรับจังหวัดตรัง จะให้ความสนับสนุน เพราะท่านประธานสภาฯท่านก็อยู่มานานแล้ว เราจึงได้เงินมาเกือบ 4,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสนามบิน ถือเป็นงบประมาณที่สูงที่สุดในจังหวัดตรัง และผมได้มอบหมายให้อดีตส.ส.สมบูรณ์(อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ) ไปเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อพัฒนาคลองน้ำเจ็ดในเขตเทศบาลซึ่งเป็นโครงการเดียวกับตรังสแควร์ เพราะได้คุยกับผู้ว่าฯและนายกฯเทศมนตรีแล้ว โครงการทั้งประเทศมีมากมาย ถ้าเราไม่ไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อขอโครงการมาก่อน เหมือนหน้าเทศบาลนครตรัง ก็คงจะไม่ได้ ต้องไปพบผู้ใหญ่ เพื่อขอให้สนับสนุนโครงการ ซึ่งเขาเข้าใจเพราะในที่ประชุมเราก็เข้าไปคุย เขาก็รู้ว่าเราไม่มีผลประโยชน์ ทุกอย่างที่ได้มา เขารู้ว่าเราทำเพื่อส่วนรวม ไปพูดอะไรก็ง่าย”นายชวนกล่าว
ประธานสภาฯกล่าวว่า ตนเป็นผู้แทนพี่น้องมา 53 ปี งานปีใหม่สงกรานต์ไม่เคยขาด เพราะเป็นบุญคุญที่ชีวิตนี้ใช้ไม่หมด เพราะเรามาจากประชาชนเลือก เราไม่ใช้เงิน ที่อื่นใช้เงินซื้อเสียง แต่เราไม่มี นี่คือสิ่งที่เราภูมิใจ เพราะการเมืองมันมีแนวโน้มไปในทางธุรกิจมากขึ้น ใช้เงินซื้อตำแหน่งกันมาไม่มีที่ไม่โกง ถ้าเราต้องการให้บ้านเมืองมีความสุจริต ประชาชนต้องเลือกระบบที่ไม่ใช้เงินแลกคะแนนเสียง บ้านเมืองจึงจะอยู่ได้ เรื่องนี้มันมีกฎแห่งกรรม ถ้ากฎหมายตามไม่ทัน กฎแห่งกรรมก็จะตาม ถ้ากฎแห่งกรรมตามไม่ทัน กฎหมายก็จะตาม จะเห็นได้ว่าพวกที่มีปัญหาต่อบ้านเมือง มันติดหราง(คุก) ตั้งแต่นายกฯ รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี
นายชวนกล่าวอีกว่า สำหรับคลองผันน้ำที่กำลังขุดที่บริเวณบ้านคลองช้าง-บ้านบางรัก ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำตรัง ความจริงต้องเสร็จในปี 2561 ตามที่นายกฯเคยประกาศเอาไว้ แต่ปี 2565 แล้ว ก็ยังไม่เสร็จ เพราะผู้รับเหมาทิ้งงาน ซึ่งถ้าเสร็จแล้ว เราจะมีเมืองเล็กๆเมืองใหม่ ตนได้เตือนชาวบ้านตลอดเวลาว่า อย่าขายที่ดิน เพราะต่อไปตรงนั้นจะเป็นเงินเป็นทอง ถ้าขายไปจะเสียใจ เพราะต่อไปจะมีเมืองเล็กๆ มีแม่น้ำตรังเลียบกับคลองใหม่ที่ขุด ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร จะเป็นแก้มลิงในหน้าฝน เป็นที่กักเก็บน้ำในหน้าแล้ง จะมีถนนชลประทานเลียบทั้งสองฝั่งคลอง ซึ่งได้คุยกันว่าจะปลูกต้นไม้ตรงนั้น ต้นไม้ใหญ่ขึ้นจะได้ไปเที่ยว ไปเล่นน้ำ เป็นที่จัดแข่งเรือของภาคใต้
ด้านนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า โครงการต่างๆที่ท่านชวน ได้พูดไปแล้วนั้น เป็นโครงการที่ท่านได้กดดัน และมีความห่วงใยชาวจังหวัดตรัง ซึ่งที่ผ่านมาตรังช้ากว่าจังหวัดอื่น แต่ ณ ขณะนี้จังหวัดตรังเตรียมตัวพัฒนาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาจังหวัดตรัง หมายไปถึงเศรษฐกิจและรายได้ของชาวตรังทุกคน 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราประสบปัญหาสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งตนทราบดีว่าพี่น้องประชาชนลำบาก ขาดรายได้ ประสบปัญหาเศรษฐกิจ แต่ชาวตรังอดทน และเข้าใจคำสั่งศบค.ตรังที่ออกมา บางครั้งคำสั่งของจังหวัดตรังเข้มกว่าจังหวัดอื่น
“อยากเรียนชาวจังหวัดตรังว่า เราคิดอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องเศรษฐกิจ ควบคู่กับการป้องกันโควิด อาจทำให้ประชาชนอึดอัดบ้าง แต่ในภาพรวมทุกคนเข้าใจ สิ่งที่เห็นผลตามมา คือ วันนี้จังหวัดตรังได้มีมติจาก ศบค.ชุดใหญ่ ปรับลดระดับความรุนแรงจากจังหวัดสีส้ม เป็นสีเหลือง หมายถึงว่า ศบค.ชุดใหญ่เห็นผลงานการควบคุมโควิดของจังหวัดตรัง ทำให้สามารถดำเนินกิจกรรมได้มากกว่าจังหวัดสีส้ม ซึ่งจะสังเกตได้ว่าวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวมาจังหวัดตรังมากขึ้น และเราได้พัฒนาในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นท่าเทียบเรือหาดปากเมง และสิ่งต่างๆ ที่ท่านชวนได้ผลักดัน รวมถึงสนามบินที่จะเป็นสนามบินนานาชาติในอนาคต”ผู้ว่าฯตรังกล่าว
