ตรัง ร้องสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ใช้เงินเกือบ 15 ล้านบาท ซื้อที่ดินเพียง 3 ไร่เศษ เตรียมสร้างอาคารสนง. ใหม่ ขณะที่ราคาประเมินทั้งแปลงแค่ 4.7 แสนบาท ชี้แพงเกินจริงหลายสิบเท่า เตรียมร้องนายทะเบียนสหกรณ์ตรวจสอบและแจ้งความเอาผิดจ
จากกกรณีกระแสข่าวการทุจริตครั้งใหญ่ในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเวลานี้ กรณีพบเจ้าหน้าสหกรณ์รายหนึ่ง อาศัยโอกาสที่ตนเองรู้รหัสบัญชีเงินฝากสมาชิกไปแอบถอนเงินออกมา ความเสียหายที่ตรวจสอบพบแล้วในขณะนี้น่าจะมีจำนวนมากกว่า 30 ล้านบาท ขึ้นไป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การดำเนินงานของสหกรณ์หลายแห่ง ปรากฏข่าวการทุจริตมาเป็นระยะ ๆ ขณะที่การดำเนินงานของสหกรณ์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ซึ่งอยู่ในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ และกำลังดำเนินการติดตามตรวจสอบกันอยู่นั้นที่
สำหรับจังหวัดตรัง สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ได้เกิดปัญหากรณีการจัดซื้อที่ดินเพื่อจัดสร้างที่ทำการสหกรณ์แห่งใหม่ โดยสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ร้องเรียนสื่อมวลชน และนำสื่อมวลชนดูที่ดินนอกชานเมือง เนื้อที่ 3 ไร่เศษ ซี่งสหกรณ์ฯ ได้ใช้เงินจำนวนมากจัดซื้อรวม 14.7 ล้านบาท หรือสูงไร่ละเกือบ 5 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินทั้งแปลงเพียง 471,375 บาท ระบุเป็นการซื้อที่แพงเกินจริงหลายสิบเท่า แม้สมาชิกจะทำหนังสือทักท้วง แต่ไม่เป็นผล กรรมการแอบนัดโอนโดยไม่บอกสมาชิกไปแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากนี้เตรียมร้องนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดตรัง ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และดำเนินคดีทั้ง อาญา คดีแพ่ง เพราะเชื่อเป็นการร่วมกันทุจริตโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
พ.ต.ต.รชต มณีรัตน์ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง จำกัด ร้องผู้สื่อข่าวและพาผู้สื่อข่าวเดินเท้าเข้าไปยังที่ดินนอกชานเมือง แปลงที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง จำกัด ได้ซื้อและรับโอนจากเจ้าของเดิมเรียบร้อยแล้ว ตั้งอยู่ชานเมือง ริมถนนสายเลี่ยงเมือง แยกบ้านควน – นาบินหลา หมู่ที่ 4 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง โดยมีถนนคอนกรีตเข้าไประยะทางประมาณ 200 เมตร หลังพบว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง จำกัด ใช้เงินจำนวน 14.7 ล้านบาท ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นเอกสารโฉนดที่ดิน เนื้อที่รวม 3 ไร่ 57 ตารางวา ไว้สำหรับเตรียมก่อสร้างที่ทำการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรังแห่งใหม่ แทนที่อยู่เดิมซึ่งตั้งอยู่บนถนนรื่นรมย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งสมาชิกสหกรณ์ฯที่ทราบเรื่องต่างก็บอกว่าแพงเกินจริงมาก และเตรียมล่ารายชื่อเอาผิดคณะกรรมการสหกรณ์ รวมทั้งคณะกรรมการจัดหาที่ดินที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมา
ข่าวน่าสนใจ:
- กองถ่ายหนังอเมริกันชื่นชอบนโยบายไทย นายกฯ แพทองธาร ประกาศแคมเปญแคชรีเบต 30% หลังหารือ 7 บิ๊กผู้ผลิตภาพยนตร์…
- ตรัง เปิดความสวยงาม "เขาแบนะ-อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม" เส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบภูเขาชมทะเลงาม
- ตร.กมลารวบ ผจก.เกสเฮ้าส์สาวติดพนันออนไลน์ ฉกเครื่องเพชร-นาฬิกาหรูนายจ้างสาวลูกครึ่ง ขาย-แพ็คส่งให้แฟนหนุ่มเก็บ
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
โดย พ.ต.ต.รชต มณีรัตน์ กล่าวว่า ที่ดินแปลงนี้มีเนื้อที่ 3 ไร่ 57 ตารางวา สหกรณ์ฯซื้อมาในราคา 14.7 ล้าน โดยราคาประเมินที่ดินแปลงนี้ทั้งแปลงราคา 471,375 บาท หรือไร่ละเพียง 200,000 กว่าบาท เท่านั้น แต่สหกรณ์ฯซื้อมาไร่ละเกือบ 5 ล้านบาท ได้ทำการซื้อขายและโอนที่ดินเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 ซึ่งสมาชิกได้ทำหนังสือทักท้วงไปที่ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรังแล้ว ผู้ตรวจสอบกิจการฯก็ทำหนังสือทักท้วงให้คณะกรรมการทบทวน เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวไม่เหมาะสม ราคาสูงเกินไป ไม่เหมาะที่จะสร้างสหกรณ์ฯ เพราะอยู่ในถนนซอย ถนนแคบ แต่ว่าหลังจากวันที่ 18 มีนาคม เป็นเวลา 6 วัน คณะกรรมการแอบมีมติให้ผู้จัดการรับมอบอำนาจไปโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินจ.ตรัง โดยที่ไม่มีสมาชิกคนใดทราบเรื่อง แต่บังเอิญข้อมูลหลุดออกมา โดยสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรังมีสมาชิกประมาณ 1,000 คนมาติดต่อราชการ แต่สภาพพื้นที่แม้อยู่ไม่ไกลอำเภอเมืองมากนัก แต่ราคาที่ซื้อไม่เหมาะสม และสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรังมีเจ้าหน้าที่เพียง 3 คน ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ต้องซื้อที่ดินมากถึง 3 ไร่ เพื่อก่อสร้างสำนักงาน แต่ควรจะซื้ออาคารพาณิชย์ที่ติดถนนใหญ่ อยู่ในเขตเมือง ราคาประมาณ 5-10 ล้านบาท ประกอบกับในปัจจุบันนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจทั่วประเทศ ที่เป็นข่าวดังไม่ว่าจะเป็นประเด็นดอกเบี้ยแพง และมีการทุจริตในหลายๆสหกรณ์ และกรรมการมีการฝ่าฝืนคำสั่ง ฝ่าฝืนมติ และแอบนำเงินออกมาซื้อ ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น เงินส่วนที่นำมาซื้อล้วนเป็นเงินจากดอกเบี้ยเงินกู้ของสมาชิก ควรนำไปใช้ด้านอื่น เช่น ให้ทุนการศึกษากับลูกตำรวจ หรือ มอบทุนเป็นเงินให้กับลูกตำรวจแรกเกิด น่าจะคุ้มค่ามากกว่าในยุคนี้ โดยการจัดซื้อที่ดินแปลงนี้ คณะกรรมการอ้างว่าสำนักงานจังหวัดตรัง จะเอาที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจคืน เนื่องจากเป็นที่ดินราชพัสดุ และจะใช้พื้นที่นั้นก่อสร้างเป็นอาคารหอประชุม สหกรณ์ฯจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาที่ดิน หรือจัดหาที่ดินพร้อมอาคาร เพื่อเป็นสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง จำกัด ขึ้นมา 1 ชุด จนมาจบที่ที่ดินแปลงนี้ แต่ในการที่สหกรณ์ฯ ต้องใช้เงินจำนวนมากเกือบ 15 ล้านบาท มาซื้อที่ดิน ตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็น โดยช่วงแรกมีมติให้เช่าสำนักงานบริเวณถนนรักษ์จันทร์ ค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท แต่มากลับลำภายหลังมาซื้อที่ดินแปลงนี้ ซึ่งจริงๆแล้ว สามารถหาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานได้ด้วย หรือขอใช้พื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังก็ได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อในยุคนี้ ทั้งนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง มีเงินหมุนเวียนประมาณ 3,000 – 4,000 ล้านบาท
เป็นหุ้นของสมาชิกประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีเงินที่สหกรณ์ฯ กู้จากสถาบันการเงิน มาปล่อยกู้ให้กับสมาชิก โดยปี 64 สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจมีกำไรเกือบ 100 ล้านบาท และมีสมาชิกที่เป็นข้าราชการตำรวจ ข้าราชการบำนาญ และสมาชิกสมทบ รวม 1,900 คน ในขณะนี้สหกรณ์ฯ เองยังได้กู้เงินจากสถาบันการเงินมาปล่อยกู้ให้สมาชิก เพราะอ้างว่ามีเงินไม่พอ แต่กลับใช้เงินจำนวนมากมาซื้อที่ดินแปลงนี้ ซึ่งเป็นที่ดินเปล่า และยังต้องลงทุนก่อสร้างสำนักงานอีกประมาณ 3 ล้าน ซึ่งจะต้องใช้เงินทั้งหมดสูงถึงเกือบ 18 ล้านบาท ทั้งนี้ สหกรณ์ฯจะขึ้นตรงกับสหกรณ์จังหวัดตรัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายทะเบียนโดยตนจะนำเอกสารไปร้องเรียนต่อนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัด เพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิด หรือทุจริต นายทะเบียนจะต้องมีหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: