รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบคุณภาพน้ำยางพาราสดของ สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด เน้นย้ำชาวสวนยางขอให้รักษาคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ทั้งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการปริมาณผลผลิต และให้ความสำคัญกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ด้าน ธ.ก.ส. เดินหน้านโยบายสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร เติมทุนสนับสนุนการสร้างห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีให้แก่สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตยางพารา
โรงรมหนองสามห้อง สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว ตำบลเกาะเปียะ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในพิธีเปิดห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบคุณภาพน้ำยางพาราสดของ สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด และเยี่ยมชมการดำเนินธุรกิจรวบรวมน้ำยางสดจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และเครือข่ายชาวสวนยาง เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพผ่านห้องปฏิบัติการและรับรองคุณภาพน้ำยางพาราผ่านการบ่งชี้ค่าทางเคมีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การหาค่า DRC (Dry Rubber Content) และค่าความบูดของน้ำยางสด VFA (Volatile Fatty Acid) เพื่อประเมินราคาให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลในการจำหน่ายไปยังตลาดและเกษตรกรไม่ถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง โดยมี นายจำเริญ โพธิยอด รองปลัดกระทรวงการคลัง นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรรมการ ธ.ก.ส. นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. นายมณฑล รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนล่าง นายชาญยุทธ กาญจนพรหม ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดตรัง และพนักงานในพื้นที่เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ห้องตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำยางสด จะช่วยเพื่อเพิ่มมาตรฐานให้กับศูนย์รวบรวมน้ำยางสด เสริมสร้างความเชื่อมั่น ลดความเสี่ยงทางธุรกิจจากความผันผวนของราคาและคุณภาพของน้ำยาง อย่างไรก็ตาม ขอให้รักษาคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งนอกจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพแล้ว จะต้องมีการบริหารจัดการปริมาณผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ผ่านมา มีความต้องการถุงมือยางทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ช่วงปลายน้ำ จึงต้องให้ความสำคัญกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้วย
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส. ตระหนักถึงสภาพการณ์ปัญหากลไกราคายางพาราเสถียรภาพและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนจากยางแผ่นรมควันและยางแท่ง เป็นน้ำยางพาราสด ทำให้สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาวต้องปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด จึงได้พัฒนา LAB หรือห้องปฏิบัติการสำหรับตรวจสอบคุณภาพน้ำยางที่สามารถบ่งชี้ค่าทางเคมีต่าง ๆ ได้อย่างมีมาตรฐาน เช่น การตรวจสอบกรณีน้ำยางบูด ค่าความเข้มข้นของน้ำยางที่สมาชิกนำส่ง ต้องมีค่าใกล้เคียงกับที่บริษัทผู้รับซื้อต้องการ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ผู้รับซื้อเชื่อมั่นและ ลดปัญหาการถูกกดราคาในการรับซื้อ ขณะเดียวกันยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรในการรักษาคุณภาพการผลิตและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ข่าวน่าสนใจ:
ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ในช่วงฤดูการผลิตที่ผ่านมา สหกรณ์การเกษตร ย่านตาขาว จำกัด ทำธุรกิจรวบรวมผลผลิตน้ำยางสด ยางแห้ง ยางแผ่นรมควัน จากเกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกยางพารา ประมาณ 10,866 ตัน มูลค่ากว่า 467 ล้านบาท และดำเนินธุรกิจการแปรรูปผลผลิตยางแผ่นรมควันอัดก้อน น้ำยางสด และยางแผ่นรมควัน ประมาณ 2,686 ตัน มูลค่ากว่า 158 ล้านบาท ซึ่งการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาห้อง LAB ในครั้งนี้ ธ.ก.ส. ร่วมสนับสนุนเงินทุนในวงเงิน 1 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกการเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพิ่มพูนโอกาสในการแข่งขันทางการตลาด ทำให้เกษตรกรสมาชิกกว่า 5,600 ครัวเรือน มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาด้านราคาที่ ผันผวนได้อย่างยั่งยืน “อย่างไรก็ตามจากความสำเร็จในการดำเนินโครงการของสหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของการขับเคลื่อนงาน ธ.ก.ส. ที่มุ่งเน้นการพัฒนา ฟื้นฟูและยกระดับคุณภาพการผลิต เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้เพิ่ม ลดปัญหาภาระหนี้สินครัวเรือน ทำให้ภาคเกษตรกรรมและระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนอีกต่อไป”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: