ตรัง รถโดยสารประจำวอนขอปรับราคาค่าโดยสาร ดือดร้อนหนักจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ผลพวงเดิมตลอดระยะเวลาประมาณ 3 ปี ได้รับความเดือดร้อนหนักอยู่แล้วจากสถานการณ์โควิด เพราะไม่มีผู้โดยสาร ทำ ธุรกิจเดินรถโดยสารได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ผู้โดยสารเดินทางน้อยมาก ทำรถโดยสารประจำทางทั้งรถตู้ และรถทัวร์ปรับอากาศแทบจะหายไปจากสารบบ
ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตรัง บรรดาผู้ประกอบการเดินรถสาธารณะทั้งระยะใกล้ ระยะไกล ต่างบอกว่าได้รับความเดือดร้อนหนักจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ผลพวงเดิมตลอดระยะเวลาประมาณ 3 ปี ได้รับความเดือดร้อนหนักอยู่แล้วจากสถานการณ์โควิด เพราะไม่มีผู้โดยสาร ทำ ธุรกิจเดินรถโดยสารได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ผู้โดยสารเดินทางน้อยมาก ทำรถโดยสารประจำทางทั้งรถตู้ และรถทัวร์ปรับอากาศแทบจะหายไปจากสารบบ เพราะแต่ละสาย แต่ละเดือนได้วิ่งรับส่งผู้โดยสารน้อยมาก ต้องวิ่งสลับกับการหยุดวิ่งเป็นเวลานานเพื่อหมุนให้แต่ละคันได้วิ่งบ้าง เช่น รถตู้โดยสารสายตรัง – หาดใหญ่ ปกติวิ่งประมาณวันละ 20 – 30 เที่ยว แต่ขณะนี้เหลือประมาณวันละ 10 – 12 เที่ยว ต้องหมุนเวียนกันวิ่ง แก๊สรถยนต์ก็ปรับจากเดิมเติมละ 300 บาท แต่ขณะนี้ต้องเติม 500 บาท เดิมน้ำมันต้องเติมไปกลับวันละ 600 -700 บาท แต่ตอนนี้ต้องเติมเพิ่ม 1,200 – 1,300 บบาท ส่วนรถทัวร์สายตรัง – ภูเก็ต ,สตูล – ภูเก็ต จากเดิมวิ่ง ไป-กลับ รวม 26 เที่ยว แต่ขณะนี้เหลือวันละ 6 – 8 เที่ยว หรือบางวันไปแล้วไม่ได้กลับในวันเดียวกัน ต้องกลับอีกวัน เพราะไม่มีผู้โดยสาร และยังมาพบกับปัญหาน้ำมันแพงอีก
นอกจากนั้นรถที่จอดเป็นเวลานาน หรือไม่วิ่งบ่อย ก็ต้องมาประสบกับปัญหากับความเสื่อมสึกหรอ ต้องเสียเงินเพิ่ม เช่น หม้อแบ็ตเตอร์รี่เสื่อม ยางในยางนอกบวก แตก และอะไหล่รถ ทุกชนิดก็ปรับราคา น้ำมันเครื่องก็ปรับ ล้วนเป็นปัญหาให้ผู้ประกอบการทั้งหมด ทุกรายบอกว่าอยากให้รัฐบาลและกรมการขนส่งทางบกเห็นใจ ให้มีการปรับราคาค่าโดยสาร เพื่อพยุงสถานการณ์ ที่ผ่านมาทางบริษัทเคยหารือไปยังกรมการขนส่งทางแล้ว แต่ได้รับคำตอบว่าราคานี้ยังสูง ไม่กระทบ สามารถวิ่งได้ แต่ในสภาพความเป็นจริง รถทุกคันขาดทุนหมด และไม่ได้วิ่งสม่ำเสมอ เพราะไม่มีผู้โดยสาร บางคันได้วิ่งวันนี้ ขณะที่ผู้โดยสารเพียงไม่กี่คน แต่จะได้วนกลับมาวิ่งใหม่อีก 3 วัน จึงอยากให้เห็นใจช่วยปรับราคา
ขณะที่นาย สุเทพ ศรีสุด ประธานคิวรถตู้สายตรัง – หาดใหญ่ กล่าวว่า อาจจะมีการหารือกับกรรมการ เพื่อหารือหาทางออกปัญหาเรื่องราคาน้ำมันแพงนี้ เพราะเห็นใจทุกคน อยากให้มีการปรับราคาค่าโดยสาร
เช่นเดียวกับคนขับรถตุ๊กๆหัวกบวิ่งเฉพาะในตัวเมืองตรัง บอกว่า ต้องใส่น้ำมันวันละ 200 บาท แต่รายได้แต่ละวัน หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมีเงินกลับบ้านประมาณวันละ 80 – 150 บาทเท่านั้น แต่ก็ต้องทำ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่ก่อนรถ 620 คัน ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 120 คัน ทำงานตอนนี้ประมาณ 70 คันเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องจอด เพราะไม่คุ้มค่าน้ำมันแต่ละวันไม่มีลูกค้า ทุกคนเดือดร้อนหนัก
