มหกรรมกัญชาตรัง คึกคัก โชว์สารพัดแปรรูป ยา-อาหาร เปิดตัว พริกแกงกัญชาเสริมสูตรเด็ดรสเผ็ดชาวปักษ์ใต้ เกษตรกรนับวันรอปลดล็อกสมบูรณ์ 9 มิ.ย.นี้ เชื่อสร้างมูลค่าทางศก.มหาศาล-ยกระดับรายได้ “ศุภชัย” ลั่น “ภูมิใจไทย” พูดแล้วทำ ไม่ดีแต่พูด ไม่ได้กั๊กปลดล็อก-ผูกขาด-เอื้อนายทุน ซีพีมากาบัตรให้ก็ไม่สน แต่ต้องเสรีภาพบนความรับผิดชอบ เหตุ ไทยเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านยาเสพติด เตรียมแจกกล้ากัญชา 1 ล้านต้น
นับถอยหลังสู่วันที่ 9 มิ.ย.นี้ ประเทศไทยจะเข้าสู่ปรากฎการณ์ ‘กัญชาเสรี’ หลังครบกำหนด 120 วันตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ถอดกัญชากัญชง ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจะส่งผลให้ทุกส่วนของกัญชา ไม่ว่าจะเป็น ช่อดอก ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น เมล็ด หรือแม้แต่ราก ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป เหลือเพียงแต่สารสกัด ที่มีค่า THC เกิน 0.2% เท่านั้นที่ยังเป็นยาเสพติดประเภท 5 โดยประชาชนสามารถปลูกกัญชาภายในครัวเรือนเพื่อใช้ในทางยาและประกอบอาหารได้ หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ มีอย่างน้อย 2 กรณีที่กลายเป็นคำถามกรณี ยายวัย 70 ปี ถูกตำรวจจับกุมเนื่องจากปลูกกัญชา 1 ต้น ที่จ.ขอนแก่น ก่อนถูกแจ้งข้อหาผลิตและมียาเสพติดให้โทษ และกรณี ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาคดีปลูกกัญชา 1 ต้น มีโทษจำคุก 3 เดือน 15 วัน โดยให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับเงิน 17,500 บาท พร้อมคุมประพฤติ 1 ปี
โดยที่จ.ตรัง กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน แพทย์แผนไทย ประชาชนทั่วไป ต่างเฝ้ารอให้ถึงวันปลดล็อกกัญชาเสรี และร่วมกันจัดกิจกรรม “มหกรรมกัญชาตรัง” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการแปรรูปเป็นอาหาร มีการจัดเสวนาวิชาการ และการออกบูทจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากกัญชาอย่างคึกคัก
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ร่วมกับสหกรณ์ชาวสวนยางรัษฎานุสรณ์ จำกัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต.น้ำผุด อ.เมือง โรงพยาบาลห้วยยอด อ.ห้วยยอด จัดงานมหกรรมกัญชาตรัง หัวข้อ “จากนโยบายสู่เกษตรกร ปลูกได้ ใช้เป็น” ตามโครงการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งจ.ตรังมี 4 วิสาหกิจชุมชนที่ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ได้แก่ 1.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ต.น้ำผุด 2.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำการเกษตรบ้านห้วยใหญ่อ่าวตง ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ 3.วิสาหกิจชุมชน ต.วังนกน้ำ อ.วังวิเศษ และ4.วิสาหกิจชุมชนบ้านควน ต.บ้านควน อ.เมือง โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้ร่วมงานกว่า 300 คน อาทิ ประชาชนผู้สนใจการปลูกกัญชาทางการแพทย์ กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายอสม. ผู้ประกอบการรายย่อยแปรรูปชิ้นส่วนจากต้นกัญชา เป็นต้น มีการเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง และกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ผู้ดูแลนโยบายการเปิดเสรีกัญชา และนายเนติวิทย์ ชาวดี ประธานกลุ่มกัญชาจ.ตรัง เสวนาการใช้กัญชาอย่างไรให้ไดผลดีต่อสุขภาพ กัญชากับการพัฒนาสู่การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยสำนักงานสาธารณสุขจ.ตรัง
นอกจากนี้ยังมีการออกบูท อาทิ บูทจำหน่ายยาตำรับแพทย์แผนไทยศุขไสยาศน์ ที่มีส่วนผสมของกัญชาช่วยในเรื่องการเจริญอาหารและการนอนหลับจากโรงพยาบาลห้วยยอด ซึ่งใช้กับผู้ป่วยของโรงพยาบาล บูทจำหน่ายสินค้าแปรรูปจากชิ้นส่วนต้นกัญชา ทั้ง ใบ ลำต้น ราก อาทิ ชากัญชาทั้งแบบพร้อมดื่มและชาอบแห้ง กัญชาดองน้ำผึ้ง โดยเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่โดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ต.น้ำผุด สำหรับพริกแกงกัญชาแบบผสมกะปิแล้ว จัดเป็นบรรจุภัณฑ์ในขนาดพร้อมใช้ สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทันทีใน 1 มื้อ ราคา 12 บาท ซึ่งเป็นพริกแกงหลักคู่ครัวคนไทยโดยเฉพาะคนใต้ 3 ชนิด ได้แก่ พริกแกงส้ม พริกแกงเผ็ด และพริกแกงคั่ว ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานต่างมารุมกันซื้อจนขายหมด
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้รวบกัญชาเอาไว้เอง และกั๊กในเรื่องการปลดล็อกให้เกิดเสรีกัญชา เพราะกฎหมายที่ออกไปนั้นเพื่อประโยชน์ประชาชน แต่ส่วนหนึ่งเพราะกัญชาต่างจากพืชกระท่อมที่ปลดล็อกได้เลย เพราะกัญชาในประเทซไทยขณะนี้ไม่ใช่ยาเสพติดแล้วก็จริง แต่ยังติดเงื่อนไขระหว่างประเทศที่ไทยเคยลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการค้ายาเสพติด ซึ่งมีการระบุว่ากัญชาคือยาเสพติด ดังนั้นในสายตาต่างชาติ เราต้องรับผิดชอบต่อส่วนรวม แต่อย่าไปห่วงว่าต่อไปเยาวชนจะเสพมากขึ้น เพราะร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชงกำหนดห้ามอายุต่ำกว่า 20 ปีใช้ รวมทั้งผู้หญิงมีครรภ์ ผู้หญิงให้นมบุตร
“อย่าห่วงว่ากฎหมายนี้จะไปเอื้อให้ใครผูกขาด ขอย้ำว่าไม่มีใครผูกขาดได้ สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยร่วมผลักดันกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนางมนัญญา ไทยเศรฐ์ รมช.เกษตร กำลังจะแจกต้นกล้ากัญชาทั่วประเทศ 1 ล้านต้น ให้ประชาชนเข้าถึง ใครจะผูกขาดได้ ใครบอกว่าพวกผมทำกฎหมายมาเพื่อประโยชน์นายทุน พวกผมไม่ต้องการนายทุน ผมไม่ได้ทำให้เจ้าสัวซีพีเพื่อให้เขาคนเดียวเข้าคูหากากบาทให้ ผมไม่เอาอย่างนั้น หากท่านติดตามจะเห็นว่ามีคนตามชำแหละร่างพ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทยอยู่ตลอดเวลา แต่เขาลืมไปว่าพรรคภูมิใจไทยสู้มาเพื่อให้กัญชาหลุดจากบัญชียาเสพติด เราเป็นผู้บริสุทธิ์ปลูกกัญชาเพื่อรักษาตัวเอง เลือกที่จะทะเลาะกับตำรวจเพื่อปกป้องประชาชน ภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เราจะไม่เป็นคนที่ดีแต่พูด เช่น จ.กระบี่ เราบอกว่าจะสร้างสะพานไปเกาะลันตา เร็วๆ นี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมก็จะไปวางศิลาฤกษ์ สะพานเชื่อมจากทะเลน้อย พัทลุงไปสงขลา ก็วางศิลาฤกษ์ ไปแล้ว”นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัยกล่าวด้วยว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจว่านี่คือการเริ่มต้น หากมีปัญหา ข้อผิดพลาด ต้องช่วยกันแก้ไข รวมทั้งเรื่องภาพลักษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีสื่อมาถามว่า มีแพทย์ท่านหนึ่งออกมาระบุว่าหลายปีที่ผ่าน มีเยาวชนติดกัญชาประมาณ 1 ล้านคน ตนว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เพราะเท่าที่รู้คือกัญชามีประโยชน์ด้านการแพทย์ การทำยารักษาโรค และวันนี้สินค้ากัญชาที่อยู่ใต้ดินก็ไม่รู้ว่าคุณภาพเป็นอย่างไร จึงให้ได้มาใช้กันอย่างถูกต้อง และมีคุณภาพ เช่น จ.ตรังมียาศุขไสยาศน์ ของโรงพยาบาลห้วยยอด หรือ น้ำมันกัญชา ของอาจารย์เดชา ศิริพัฒน์ เป็นต้น
ด้านนายศิววงศ์ นวลสุวรรณ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกกัญชา กัญชง แก่เกษตรกรทั่วไป และประชาชนที่สนใจนโยบายการปลูกกัญชา ที่จะมีการปลดล็อกในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ สำหรับวิสาหกิจชุมชนในจ.ตรัง ได้เริ่มต้นปลูกกัญชาครั้งแรกเมื่อเดือนพ.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน ทั้ง 4 วิสาหกิจชุมชน มีการร่วมคิดร่วมทำ นำผลผลิตจากกัญชามาแปรรูป ทั้งผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ยา และใช้ทางการแพทย์ในครัวเรือน และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เช่น ชากัญชา ข้าวยำกัญชา ไอศกรีมกัญชา และในส่วนของวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ 3 รูปแบบ คือ น้ำใบกัญชา กัญชาดองน้ำผึ้ง เครื่องแกงผสมใบกัญชา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลห้วยยอด เพื่อนำช่อดอก และเมล็ดกัญชา เพื่อผลิตเป็นยาสมุนไพร แต่ในส่วนของรพ.สต.น้ำผุด ซึ่งทำ MOU ด้วยกันมาก่อน ได้นำใบกัญชาไปแปรรูปเป็นขนม ชา แคปซูลใบกัญชา ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับ
“ตอนนี้เกษตรกรให้ความสนใจเรื่องการปลูกกัญชา ต่างติดตามข่าวสารและข้อกฎหมาย หลังจากวันที่ 9 มิ.ย.นี้ มีกลุ่มคนให้ความสนใจนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ และใช้ในครัวเรือน ใช้เพื่อปรุงอาหาร และหลังจากการปลดล็อก คิดว่ากลุ่มเกษตรกร หรือ วิสาหกิจชุมชน จะนำผลผลิตกัญชาแปรรูป สร้างรายได้เสริม ซึ่งสมาชิกกลุ่มมีอาชีพทำสวนยางพาราเป็นหลัก แต่หลังจากการดำเนินการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เกษตรกรได้มีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน ประมาณ 3,000 บาท/เดือน/คน ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหลังจากการปลดล็อกจะมีคนสนใจมากขึ้น เกษตรกรเองน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น”นายศิววงศ์กล่าว
นายศิววงศ์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนของเรา ได้ขายใบกัญชาสดกิโลกรัมละ 8,000 บาท มีตลาดต้องการ ทั้งตลาดภาครัฐที่นำไปใช้ทางการแพทย์ และการศึกษาวิจัย รวมทั้งตลาดผู้ผลิตอาหาร ที่มีการคิดเมนูกัญชา คาดว่าในอนาคตตลาดจะกว้างขึ้น ส่วนลำต้นและรากมีการส่งขายกันจนหมดเกลี้ยง โดยมีราคาขายกิโลกรัมละ 3,000-4,000 บาท ผู้สนใจสอบถามได้ที่ เพจ รัก กัญ ณ. น้ำผุดตรัง หรือโทร 061-982-6298
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ณ วันที่ 18 เม.ย.2565 ระบุมีการขออนุญาตเกี่ยวกับกัญชาทั้งหมด 2,351 ฉบับ ประกอบด้วย นำเข้า 12 ฉบับ ครอบครอง 106 ฉบับ ผลิต (ปลูก) 458 ฉบับ ผลิต (แปรรูป/สกัด) 41 ฉบับ ผลิต (ปรุง) 6 ฉบับ ส่งออก 1 ฉบับ และจำหน่าย 1,650 ฉบับ โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชา แบ่งเป็นผู้รับอนุญาตปลูก 397 ราย พื้นที่ปลูกมากกว่า 110 ไร่ จำนวนมากกว่า 245,000 ต้น ส่วนการขออนุญาตกัญชง ทั้งหมด 2,361 ฉบับ ประกอบด้วย นำเข้า 110 ฉบับ ครอบครอง 21 ฉบับ ผลิต (ปลูก) 2,041 ฉบับ ผลิต (แปรรูป/สกัด) 14 ฉบับ ส่งออก 1 ฉบับ และจำหน่าย 174 ฉบับ พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชง แบ่งเป็นผู้รับอนุญาตปลูก 2,041 ฉบับ (877 ราย) พื้นที่ปลูก 4,845 ไร่
สำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ มีการอนุญาตผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชา กัญชง และสารสกัดแคนนาบิไดออล (CBD) รวม 80 รายการ ได้แก่ น้ำมันจากเมล็ดกัญชง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ซอสปรุงรส ขนมเยลลี่ อาหารสำเร็จรูปที่พร้อมบริโภคทันที เป็นต้น ด้านการอนุญาตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวม 754 รายการ ได้แก่ เครื่องสำอางที่มีสารสกัดที่มีสาร CBD จากกัญชาและกัญชง 95 รายการ เครื่องสำอางที่ใช้ส่วนของกัญชา 56 รายการ เครื่องสำอางที่ใช้ส่วนของกัญชง 18 รายการ และใช้น้ำมัน/สารสกัดเมล็ดกัญชง 585 รายการ เพื่อบำรุงผิวทำความสะอาดผิวและขัดผิว อนุญาตผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมทั้งสิ้น 12 รายการ ได้แก่ ยาแผนไทย 11 รายการ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ จำนวน 1 รายการ
