วัยรุ่นเมืองตรังเหิม ตำรวจชุดสืบสวนเข้าตักเตือน ขับรถยนต์แต่งซิ่งส่งเสียงดังเดือดร้อนรำคาญยามวิกาล กลับไม่ฟังเมื่อตำรวจแยกออกมา ขับกระบะปาดหน้าก่อนที่คนในรถยนต์กระบะจะลงมาจากรถกระหน่ำแทงตำรวจไม่ยั้งมือบาดเจ็บปางตาย ตำรวจอีกนายตามหลังมาชักปืนยิงสกัดคนร้ายหลับรถหลบหนี ตำรวจติดตามรถยนต์คนร้ายด้วยกล้องโครงการ”สมาร์ทซิตี้” ตามจับคนได้หลังก่อเหตุ 10 ชั่วโมง นำรถมาทิ้งไว้ในพื้นที่ ต.นาพละ อ.เมืองตรัง ตามรวบคนขับและคนแทงตำรวจ ประวัติก่อคดีโชกโชนเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้าย ด้วยการใช้อาวุธมีดแทง ด.ต.พงศธร คงศรีทอง ผบ.หมู่ ป.ฯ ทำหน้าที่ฝ่ายสืบสวน (ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองตรัง) ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 00.03 น.บริเวณ ถนนพระราม 6 หน้าสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ที่ถูกอาวุธมีดแทง คือ ด.ต.พงศธร คงศรีทอง ผบ.หมู่ ป.ฯ ทำหน้าที่ฝ่ายสืบสวน (ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองตรัง) โดยก่อนเกิดเหตุ ด.ต.พงศธร ฯ แต่งกายนอกเครื่องแบบได้ออกปฏิบัติหน้าที่สืบสวนหาข่าว ตรวจสถานบันเทิง ที่บริเวณตลาดชินตา ต่อมาได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฯ ว่า มีผู้ขับขี่รถยนต์ ส่งเสียงดัง ได้ทำการเบิร์นยางรถ ก่อความเดือดร้อนรำคาญในยามวิกาล จากนั้น ด.ต.พงศธรฯ จึงได้ขับรถไปว่ากล่าวตักเตือน และได้ขับรถออกไปเพื่อที่จะกลับที่พัก จากนั้น คนร้ายได้ขับขี่รถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ตามมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และได้จอดรถปิดทางปาดหน้ารถจยย,ของ ด.ต.พงศธรฯ จากนั้น คนร้ายได้ลงจากรถ จากฝั่งผู้โดยสารเบาะหลัง และได้ใช้อาวุธมีดสั้น แทง ด.ต.พงศธร ฯ ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลบริเวณ ลำคอ แผ่นหลัง และบริเวณศีรษะ นอนจมกองเลือด
ขณะนั้น ส.ต.อ. ฤทธิพร ช่วยมาก ซึ่งจอดรถรออยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเหตุการณ์ จึงได้ใช้ปืนพกยิงขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุ คนร้ายจึงได้ขึ้นรถยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นจากการสอบสวนพยาน ทราบว่า คนร้ายที่มากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มากันสี่คน มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย หนึ่งในคนร้ายซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง ได้ลงมาจากรถและใช้อาวุธมีดแทง ด.ต.พงศธร ฯ ได้รับบาดเจ็บ
ข่าวน่าสนใจ:
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล้อง CCTV ของโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน สภ.เมืองตรัง สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ได้ และทราบรถยนต์ ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว เป็นกลุ่มวัยรุ่น ชาย-หญิง รวม 4 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสืบสวนประมาณ 10 ชม.จนสามารถติดตามรถคันที่ใช้ก่อเหตุมาได้ ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวถูกนำไปจอดทิ้งไว้ ในพื้นที่ ม.3 ต.นาพละ อ.เมืองจ.ตรัง ซึ่งรถจอดอยู่ในสภาพมีผ้าคลุมมิดชิด ตัวรถมีร่องรอยถูกยิงที่ล้อหลังด้านซ้ายยางแตกละเอียด ซุมล้อมีรอยกระสุนปืน 1 นัด ตรงกรอบป้ายทะเบียนด้านหลังมีรองรอยกระสุน 1 นัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อเจ้าของรถ มาแสดงตัวกับตำรวจรีบพาตัวมาทำการสอบสวนที่สืบสวนสภ.เมืองตรังทันที ซึ่งเจ้าของรถให้การเบื้องต้นว่า”รถเป็นของตัวเอง แต่เมื่อคืนช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มหรือ 19.00 น น้องชายมาขอยืมรถยนต์เข้าไปในเมืองตรัง เพิ่งมาทราบเรื่องวันนี้ที่ตำรวจมาตามหาตนเอง
ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรัง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตรวจสภาพรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและขับหลบหนีหลังก่อเหตุ รวมทั้งตรวจ DNA ในรถว่ามีใครบ้างที่โดยสารในรถคันดังกล่าวก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุแล้วหลบหนี
พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ตร.ได้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปตรวจสอบสถานบริการ เมื่อสถานบริการปิดตร.ก็ได้แยกย้ายกันกลับ ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านแจ้งมาที่ 191 ว่ามีการเบิ้ลเครื่องรถยนต์เสียงดัง สร้างความรำคาญ ตร.ชุดสืบ เห็นว่าพื้นที่นั้นอยู่ใกล้จึงเข้าไปตักเตือน และได้แยกย้ายออกมา แต่ระหว่างทางก่อนถึง สภ.เมือง รถยนต์กระบะที่ก่อเหตุได้ขับมาปาดหน้าและมีคนที่โดยสารมากับรถลงมาแทงทำร้ายเจ้าหน้าที่ตร.ตอนนี้ทราบกลุ่มคนร้ายแล้ว โดยมีทั้งชาย-หญิง รวม 4 คน ซึ่งกล้องของโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ คาดว่าจะได้ตัวเร็วนี้ คนร้ายใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตูสีขาว ลักษณะแต่งดัดแปลงสภาพรถ โดยใช้กล้องวงจรปิดในโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ติดตามเส้นทางของรถได้ทั้งหมด ตอนนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามประกบแล้ว ส่วนจนท.ตร.ที่ถูกทำร้าย ตอนนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนการติดตามรถที่ก่อเหตุต้องขอขอบคุณพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนชนวนเหตุเกิดจากกลุ่มคนร้ายไม่พอใจที่ตำรวจเข้าตักเตือน ไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านยามวิกาล ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ผกก.สภ.เมืองตรัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตำรวจสามารถติดตามรถยนต์ของคนร้ายได้รวดเร็ว 10 ชั่วโมงสามารถติดตามยึดรถยนต์ที่ก่อเหตุ หลบหนีและควบคุมตัวคนขับรถยนต์ เจ้าของรถยนต์มาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองตรังได้รวดเร็ว ประกอบกับมีชาวบ้านชี้เบาะแสให้ตำรวจจนสามารถติดตามและตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมาได้ เพราะกล้องวงจรปิดจากโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้นโยบายสภ.เมืองตรัง ต้องทำโครงการและติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งหลังเปิดใช้กล้องวงจรปิดในโครงการนี้แล้ว ก็สามารถติดตามผู้กระทำผิด ติดตามคนร้ายและอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็ว โครงการนี้เกิดประโยชน์เป็นอันมากในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการรวบรวมหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับในช่วงเย็นของวันนี้ (11 พ.ค.65) โดยรายงานข่าวระบุว่า 2 ใน 4 ผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษจากคดีฆ่าผู้อื่น และ คดียาเสพติด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: