X

“กระท่อมฟีเวอร์” เกษตรกรหันปลูกพืชกระท่อมแปลงใหญ่ เชื่ออนาคตเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ

ตรัง – เกษตรกรหันปลูกพืชกระท่อมแปลงใหญ่และเป็นแปลงสาธิตต้นแบบกระท่อมพันธุ์ดี เพื่อเป็นแปลงตัวอย่างแก่เกษตรกรทั่วไปรองรับความเติบโตด้านการตลาดพืชกระท่อมที่ขณะนี้กำลังมีบริษัทต่างๆเกิดขึ้นจำนวนมาก เพื่อผลิตเป็นสารสกัดป้อนโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ เชื่อในอนาคตจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญเช่นเดียวกับกับยางพาราและปาล์มน้ำมัน  

ที่แปลงต้นแบบกระท่อมพันธุ์ดี โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกปาล์มรายย่อย อ.สิเกา หมู่ที่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ของนายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกอบต.กะลาเส และเป็นเกษตรกรเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งได้แบ่งพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน จำนวน 4 ไร่ ทำแปลงปลูกพืชกระท่อม โดยร่วมกับนายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่เกษตร สมาชิกเกษตรกร และเจ้าหน้าที่อบต.ร่วมกันปลูกพืชกระท่อมพันธุ์ก้านแดง จำนวนประมาณ 400 ต้น ที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จ.ตรัง และสำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ภายใต้โครงการผลิตและขยายต้นกล้ากระท่อมพันธุ์ดี เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เพื่อเป็นแปลงสาธิตต้นแบบคุณภาพ และเป็นแปลงเรียนรู้สำหรับเกษตรกรต่อไป ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และในอนาคตจะมีการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชกระท่อมด้วย

นายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง กล่าวว่า เกษตรจังหวัดตรังได้รับความร่วมมือจากศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง ซึ่งรับผิดชอบดูแล 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นนโยบายของอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร สนับสนุนไปให้ประชาชนปลูกหลังบ้านคนละ 3-5 ต้น ในส่วนของจังหวัดตรัง ศูนย์ขยายพันธุ์ที่ 2 จ.ตรัง สนับสนุนพืชกระท่อมมาให้แล้ว 3 รอบ รวมประมาณ 30,000 ต้น ผ่านไปทางเกษตรอำเภอ ศูนย์เรียนรู้แปลงใหญ่ , Young Smart Farmer และทำเป็นแปลงสาธิตผ่านกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบว่าวันข้างหน้าถ้าขับเคลื่อนจากแปลงสมุนไพรไปสู่เศรษฐกิจ จะต้องมีแปลงที่ผ่าน GMP ปลอดสารเคมี มีโรงงานรองรับแน่นอน โดยทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกปาล์มรายย่อย อ.สิเกา ต.กะลาเส จึงอาสาที่จะเป็นแปลงต้นแบบประจำอำเภอสิเกา นอกจากนั้นยังมีที่ อ.กันตัง 1 แปลง และอ.ปะเหลียนอีก 1 แปลง โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดตรังก็ได้ขับเคลื่อน เพื่อที่จะเป็นต้นแบบในอนาคต

ทางด้านนายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกปาล์มรายย่อย อ.สิเกา เจ้าของแปลงสาธิตพืชกระท่อม อ.สิเกา กล่าวว่า จากการเข้าร่วมสัมมนาและศีกษาทิศทางตลาดของพืชกระท่อม และได้รับความรู้จากบริษัทผู้ส่งออกคาดว่า พืชกระท่อมจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มพื้นที่ภาคใต้ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น ดังนั้น ในส่วนวิสาหกิจชุมชนจึงยึดหลักการตลาดนำการผลิต โดยจะทำ MOU กับบริษัทผู้ผลิตและส่งออกสารสกัดจากพืชกระท่อมรายใหญ่ และให้บริษัทมาเป็นที่ปรึกษาในการปลูก เพื่อให้ได้คุณภาพตามที่โรงงานกำหนด และหากไม่เพียงพอก็จะขยายพื้นที่การปลูกไปยังสมาชิกกลุ่มรายอื่นๆ รวมเป็นแปลงใหญ่ โดยพืชกระท่อมใช้เวลาปลูก 8 เดือน ก็สามารถเก็บใบขายได้ ซึ่งจากข้อมูลเศรษฐกิจพบว่าในเนื้อที่ 1 ไร่ จะทำให้มีรายได้ประมาณเดือนละ 16,000 บาท ซึ่งในพื้นที่เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ จะมีรายได้ประมาณ 500,000 บาทต่อปีตามที่บริษัทให้ข้อมูล ซึ่งถือว่าสูงมาก ซึ่งเข้าใจว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในวันข้างหน้า และจะไม่ซ้ำรอยโกโก้ เพราะว่ามีโรงงานชัดเจน และสามารถป้อนโรงงานอุตสาหกรรมไปผลิตเป็นนวัตกรรมใหม่หลายประเภท และเป็นที่ต้องการของทั่วโลก

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน