ตรัง-เปิดปากครั้งแรก! ดร.สัญญานครตรัง ตอบทุกคำถามร้อน “ทนายหมี” รับโอนซุ้มประตูก่อสร้างผิดกม.ใช้หลัก “รัฐศาสตร์” มากกว่า “นิติศาสตร์” ยืนยัน ไม่เคยรับเงินใต้โต๊ะ ยอมรับ สนามแข่งรถ “กะพังสุรินทร์” ไม่ได้มาตรฐาน เป็นแค่สนามภูธร
เปิดปากครั้งแรก! ดร.สัญญานครตรัง ตอบทุกคำถามร้อน “ทนายหมี” รับโอนซุ้มประตูก่อสร้างผิดกม.ควบคุมอาคาร-ปลอมแปลงเอกสารเอื้อประโยชน์ ขอใช้หลัก “รัฐศาสตร์” มากกว่า “นิติศาสตร์” เพราะบ้านเมืองได้ประโยชน์ ยืนยัน ไม่เคยรับเงินใต้โต๊ะ มีนอกมีใน ยอมรับ สนามแข่งรถ “กะพังสุรินทร์” ไม่ได้มาตรฐาน เป็นแค่สนามภูธร ปัดหนีหาย แต่ต้องไปแจงงบประมาณกทม. พร้อมรับผิดชอบเพราะให้รองนายกฯรักษาการอนุญาตแข่งรถ ยืนยัน ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ เผย ตำหนิสท.ปัดกล้องนักข่าวแล้ว อ้างอารมณ์ชั่ววูบไม่อยากให้ข่าวดัง แต่ได้ดังทั่วประเทศแล้ว
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ที่บริเวณซุ้มทางเข้ามูลนิธิกุศลสถานตรัง ริมคลองห้วยยาง ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ภายหลังพิธีเปิดโครงการ “ศิลป์สร้างสุข เทศบาลนครตรัง” นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง ให้สัมภาษณ์ “77-ข่าวเด็ด” ชี้แจงกรณีนายกัมปนาท อินทองมาก หรือ “ทนายหมีนครตรัง” อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครตรัง และอดีตผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครตรังออกมาเปิดเผยข้อมูลกล่าวหาทางเทศบาลนครตรังอาจมีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อรับโอนซุ้มประตูพร้อมที่ดินที่มีการก่อสร้างผิดแบบที่ยื่นขออนุญาตตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารหรือไม่ โดยมีการก่อสร้างประชิดแนวคลองห้วยยาง โดยไม่มีการถอนร่นจากแนวคลองตามกฎหมายกำหนด ว่า เรื่องนี้ทางเทศบาลได้มีการการพิจารณาของสภาเทศบาลนครตรังไปแล้ว โดยทางมูลนิธิกุศลสถานตรัง จะมอบให้เป็นที่สาธารณะ เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
“ผมคิดว่าเรื่องนี้ ถ้าเราจะเอาหลักนิติศาสตร์มาบริหารบ้านเมืองอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ด้วย ถามว่าบ้านเมืองเสียหายตรงไหน บ้านเมืองไม่ได้เสียหาย มีแต่ได้ คนเราต้องมองให้กว้าง มองให้ไกลเพื่อบ้านเมือง อย่าคิดว่าจะจ้องทำลายกัน คนเป็นบัณฑิตชนน่าจะคิดให้ถ่องแท้กว่านี้ ว่าได้หรือเสีย บ้านเมืองมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร มีแต่จะได้เพิ่มในสิ่งที่ดีขึ้น ผมคิดว่าเรื่องนี้บ้านเมืองได้ประโยชน์มากกว่า”นายสัญญากล่าว
นายสัญญากล่าวอีกว่า ส่วนที่นายกัมปนาทระบุว่าเทศบาลนครตรังเป็นตัวการประมาทร่วมกรณีการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบรายการ “กะพังโรดเรซซิ่ง” ที่เกิดอุบัติเหตุรถแข่งชนผู้ชมเสียชีวิตนั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องการจัดแข่งรถ เนื่องจากทางชุมชนกะพังสุรินทร์อยากให้มีการฟื้นประเพณีที่เคยแข่งขันกันมา และตนก็คิดว่าหลังเศรษฐกิจซบเซาเนื่องจากโควิด -19 โดยเฉพาะประชาชนในแถบกะพังสุรินทร์ได้ขายของและให้เข้าชมฟรีด้วยซ้ำ มีนักแข่งมาจากทั่วประเทศ โรงแรมและร้านอาหารก็เต็ม เป็นการได้มากกว่าเสีย แต่คำว่าอุบัติเหตุ คือสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน และเราไม่อยากให้เกิด
“ก็ต้องบอกว่ากะพังสุรินทร์เป็นสนามภูธร ไม่ได้เป็นสนามที่มาตรฐานเราก็ทราบอยู่ ผมก็ได้กำชับให้ทางผู้จัดป้องกันโดยสมควรแก่เหตุ ก็เก็บค่าตั๋วแค่ร้อยเดียว คนที่เข้าใจเรื่องรถแข่งจะรู้ ถามว่าในสนามอื่นก็มีคนเสียชีวิต ในระดับโลกก็มีที่เสียชีวิต แต่ความสูญเสียนั้นเราก็ไม่อยากให้เกิด และยืนยันว่านายกฯไม่ได้หนีหายในช่วงเกิดเหตุ แต่ผมต้องไปชี้แจงรายละเอียดงบประมาณต่อคณะกรรมมาธิการท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎรที่กรุงเทพฯ เพื่อของบมาพัฒนาเทศบาลนครตรัง ซึ่งก็มีนายถนอมพงษ์ หลีกภัย รองนายกเทศมตรี รักษาการอยู่แล้ว นายถนอมพงษ์ก็สามารถชี้แจงต่อประชาชนและสื่อมวลชนได้ ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็นายกฯ แต่นายกฯก็ต้องรับผิดชอบเพราะเป็นผู้บริหารสูงสุด รองนายกฯทำการใด(อนุญาตให้จัดการแข่งขัน) ก็ถือเป็นการทำการของนายกฯ ยืนยันว่า ทั้งเรื่องซุ้มประตูที่รับโอนจากมูลนิธิฯ และเรื่องจัดแข่งรถที่กะพังสุรินทร์ ผมไม่ได้ประโยชน์อย่างอื่น ผมประกาศเลย ผมไม่มีเงินบนโต๊ะใต้โต๊ะอะไรทั้งนั้น ยืนยันว่าผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีนอกมีในอะไรทั้งสิ้น ส่วนที่มีสท.ในเขต 2 รายหนึ่ง ปัดกล้องนักข่าวที่เข้าไปทำหน้าที่รายงานข่าวอุบัติเหตุรถแข่งชนผู้ชมที่กะพังสุรินทร์นั้น ผมก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนเขาไปแล้ว เพราะบางครั้งคนในเวลาอารมณ์ชั่ววูบ เขาก็อยากจะกันไม่อยากมีข่าวออกไปจนเป็นที่โด่งดัง ซึ่งเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม แต่ตอนนี้ข่าวก็ดังไปแล้วทั่วประเทศไทย”นายกเทศมนตรีนครตรังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: