ตรังยังเดือด! ศึกคนกันเอง ปชป.ตรังยังไม่จบ หลุดไลน์กลุ่มส.ส.ปชป. “สุณัฐชา” เดือด! ถาม “สาทิตย์-สมบูรณ์” ความชอบธรรมที่แท้จริงคืออะไร? ทำไมถึงไม่ยอมให้ทำโพลล์เขต 4 ก่อนส่งผู้สมัคร ไม่เชื่อ “สมบูรณ์” เสียสละเปิดทางให้ตัวเองได้ลงเขต ย้อนกลับ ใคร?ดิ้นรนถึงขนาดส่งเมียไปอ้อนวอนผู้บริหารพรรคให้สามีได้ลง อัด “สาทิตย์” อย่า “ขี้แพ้ชวนตี-เต่าล้านปี” ทำงานการเมืองอย่าพูดเอาประโยชน์ตัวเอง ลั่น เป็นผู้แทนหญิงคนแรกของตรังโดยชอบธรรม คะแนนสูงสุดในจังหวัด-อันดับต้นๆ ของภาคใต้
จากกรณีสถานการณ์การเมืองในพื้นที่ จ.ตรัง ร้อนแรงเป็นพิเศษ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคอการเมืองพรรคประชิปัตย์ เมื่อนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ บิดาของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เดินสายเปิดเวทีร่วมกับ นายทวี สุระบาล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งประกาศตัวลงสมัครชนกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน โดยทางนายสมชาย ได้แสดงเจตนาชัดเจนในการสนับสนุนนายทวี โดยได้รวมมวลชน ส.อบจ. ผู้นำท้องถิ่น ร่วมเวทีสนับสนุนนายทวี และต่อต้านนายสาทิตย์ อย่างหนักหน่วงต่อเนื่องในหลายเวที ทำให้นายสาธร วงศ์หนองเตย อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ตรัง น้องชายนายสาทิตย์ ออกมาตอบโต้ระบุ บุคคลใดก็ตามหากจะมามีบทบาทในสถาบันการเมือง มันจะต้องมี Maturity หรือวุฒิภาวะเพียงพอ ต้องคำนึงถึงอุดมการณ์ของตัวเอง ถ้าไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ของตัวเอง ก็ต้องคำนึงถึงอุดมการณ์ของพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัดอยู่ด้วย สำคัญที่สุดคือต้องคำนึงถึงสมาชิกพรรค และประชาชนที่เข้าร่วมอุดมการณ์ ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของนายสมชาย ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.สุณัฐชา ซึ่งลูกสาวก็เป็นถึงกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ ผมกังวลว่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นต่ออุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ และอุดมการณ์ของตัวผู้เป็น ส.ส.เอง
“เรื่องการเมือง มันไม่ใช่เรื่องนักเลง เรื่องนักเรียนอาชีวะ ที่ถ้าไม่ถูกใจแล้วจะยกพวกไปตีกัน ใครจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ เราถือว่าขึ้นกับวุฒิภาวะของแต่ละคน เพราะเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ไม่มีใครไปห้ามใครได้ นายสาทิตย์ เป็น ส.ส.มา 27 ปี เราเคยต่อสู้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทย ในยุคที่ นายทวี สุระบาล ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่พรรคไทยรักไทยในตอนนั้น ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราถือว่าหนักที่สุดแล้ว ตอนนั้นนายทักษิณ ถึงกับเดินทางมา จ.ตรัง ประกาศจะสับหมูย่างเมืองตรัง พูดถึงขนาดว่าสับหมูย่างเมืองตรังนั้นง่ายกว่าที่คิด การเลือกตั้งครั้งนั้นจึงหนักที่สุดแล้ว แต่พี่น้องประชาชนในเขต 2 ก็ยังเชื่อมั่นในตัวพรรคประชาธิปัตย์ และตัวนายสาทิตย์ โดยเฉพาะตัว นายชวน หลีกภัย” นายสาธร ระบุ
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเขียนข้อความส่งผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ และมีการส่งต่อกันเป็นวงกว้าง ระบุกรณีของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.ตรังเขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันนั่งตำแหน่งเลขานุการนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ “หลายคนในพรรคถามผมว่านายสมบูรณ์ จะได้ลง ส.ส.เขต 4 ตรังหรือไม่ ผมตอบว่าต้องได้ลงสิครับ เพราะสมบูรณ์ เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคในเขตนั้น เพียงแต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2562 ที่ตรังถูกลดเขตเลือกตั้ง จาก 4 เขตเหลือ 3 เขต แต่ ส.ส.ตรัง จาก 4 คน ถูกศาลตัดสิทธิเลือกตั้ง 1 คน ในปี 2558 ความจริง คุณสมบูรณ์ ควรได้ลงเขตตามเดิม แต่เนื่องจากมีการขอให้คุณสมบูรณ์ไปลงระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อเปิดทางให้อีกท่านได้ลงเขต ซึ่งคุณสมบูรณ์ ก็ยินยอม ทั้งๆ ที่มีสิทธิลงเขต แต่คุณสมบูรณ์ ยอมหลีกทางเพื่อให้ทุกอย่างลงตัว” ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดในแวดวงแอพลิเคชั่นไลน์คอการเมืองพรรคปชป. โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดตรัง ได้มีการส่งต่อข้อเขียนโดยอ้างว่าเป็นข้อเขียนของน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน บุตรสาวของนายสมชาย ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันจากน.ส.สุณัฐชาว่า ยอมรับว่าเป็นผู้เขียนข้อความดังกล่าวจริง แต่เป็นข้อเขียนลับเฉพาะกลุ่ม จากการพิมพ์ในไลน์กลุ่มส.ส.ปชป. เพื่อตอบนายสาทิตย์ที่พิมพ์ข้อความในกลุ่มไลน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งจริงๆแล้วข้อมูลในไลน์กลุ่มส.ส.ปชป. ควรจะเป็นความลับ ไม่ควรมีใครนำออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่าข้อความดังกล่าวหลุดออกมาได้อย่างไร หรือใครเป็นคนปล่อยออกมาเพื่อหวังผลอะไรหรือไม่
ทั้งนี้ ข้อเขียนในกลุ่มไลน์ส.ส.ปชป.ของน.ส.สุณัฐชา ระบุว่า “ขออนุญาตใช้สิทธิพาดพิงให้ความเห็นท่านสาทิตย์ในฐานะ ส.ส.น้องใหม่ที่พรรคให้โอกาสเข้ามาทำหน้าที่ ทั้งๆที่ ส.ส. ตรังจาก 4 เขต เหลือ 3 เขต จริงๆต้องคิดเบื้องต้นว่าทำไมดิฉันเป็น ส.ส. น้องใหม่ เด็กเพิ่งจบ แล้วพรรคให้โอกาสมาเป็นผู้สมัคร ไม่เอาคนเก่าลง ทั้งๆที่ท่านสมบูรณ์(อุทัยเวียนกุล)ยื่นใบสมัครรอไว้แล้ว ทำแม้กระทั่งส่งภรรยามาร้องไห้อ้อนวอนผู้บริหาร ส่วนทางนี้ ดิฉันและคุณพ่อ แจ้งความจำนงทางวาจาจะลงสมัคร และไม่เคยต้องเดินเข้าพรรคมาอ้อนวอนผู้บริหารแม้แต่ครั้งเดียว เรื่องนี้อยากให้ท่านสมบูรณ์เจ้าตัว ไปถามหาความเชื่อมั่นกับผู้บริหารชุดก่อนหน้า ดีกว่าให้คนอื่นมาถามแทนค่ะ ถ้าจะถามหาความชอบธรรม ช่วยตอบคำถามเหล่านี้ซักนิด แล้วคิดใหม่”
น.ส.สุณัฐชา ระบุอีกว่า 1. ตรัง จาก 4 เขต เหลือ 3 เขต จริงอยู่ที่ท่านสมบูรณ์ยืนรอเป็นผู้สมัคร ความจริงคือ เขต ท่าน สมบูรณ์โดนแยกออก ครึ่งหนึ่งกลับมาเขตส.ส.สมชาย ครึ่งหนึ่งไปเขตท่านสาทิตย์ พื้นที่ที่ดิฉันมาลงสมัคร คือ เขต 3 เดิม ของส.ส.สมชาย นี่ไม่ชอบธรรม? อ้างเขตแบบนี้ ท่านสมบูรณ์ก็มีสิทธิไปลงเขตเดิม คือ เขต ท่านสาทิตย์เหมือนกัน 2. หลังจากพรรคเคาะให้ตนเป็นผู้สมัครและได้รับการเลือกตั้งคะแนนสูงสุดของจังหวัดตรัง 5.2 หมื่นคะแนน ที่ 1 ของจังหวัด และลำดับต้นๆของพรรค ทั้งๆที่ท่านสมบูรณ์ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือหาเสียงใดๆ ถ้าท่านไปเช็คทีมงานท่านสมบูรณ์ไปเดินหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เช็คซักนิดก่อนคุย ดิฉันก็ไม่มีปัญหาใดๆ อยู่ได้ ไม่สะเทือน ตนเข้าใจทุกอย่าง ท่านสาทิตย์ ยังคิดว่าพรรคเลือกผิดอีกหรือ 3.ในประเด็นที่ท่านสมบูรณ์เสียสละ ตนไม่ได้คิดเช่นนั้น วันที่พรรคเคาะมาให้ตนสมัครในนามพรรค ท่านสมบูรณ์ยังคงไม่ยอม พรรคจะหาทางออกด้วยการเปิดทำโพลล์ หลังจากเจ้าตัวทราบท่านก็ไปถอนใบสมัคร จริงๆทางเราก็ยอมให้ซาวเสียงชาวบ้าน ท่านสมบูรณ์กลัวอะไร ท่านสาทิตย์ช่วยเดินเรื่องแล้ว ก็ช่วยไปถามหน่อย 4.ถ้าท่านอ้างความเป็นธรรมเรื่องนี้ ว่าพรรคต้องมีเกณฑ์ เอาอดีตส.ส.มาพิจารณาก่อนนั้น คำถามคือ ทำไมท่านเมินเฉยกับการทำโพลล์ของจังหวัดกระบี่ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ที่ส.ส.น้ำผึ้ง(พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคปชป.)ต้องการเขตของ ส.ส.เคียว(สุชีน เอ่งฉ้วน อดีตส.ส.กระบี่พรรคปชป.) แล้วพรรคเปิดทำโพลล์ ทั้งๆที่ ส.ส.เคียว เป็นอดีต ส.ส.และครั้งที่แล้วยังไม่เคยสอบตก และส.ส.น้ำผึ้งไม่เคยเป็นส.ส.มาก่อน ท่านช่วยตอบเคสนี้หน่อย
“ถ้าจะอ้างความชอบธรรม ขอให้เป็นความชอบธรรมจริงๆ สู้เพื่อทุกคนไปเลยค่ะ อย่าเป็นเพราะตัวเองเสียประโยชน์ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค อยากให้ท่านทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่น้องๆเคารพนับถือค่ะ ขี้แพ้ชวนตี ไม่ใช่วิถีนักการเมืองที่ดีเท่าไร (ดิชั้นคิดแบบนั้น) ดิฉันที่มีความเห็นว่า ท่านสมบูรณ์ลงแล้วแพ้แน่รอบหน้า ท่านลองไปถามชาวบ้านในพื้นที่ดู เพราะไม่อยากให้เอาความเห็นคนกลุ่มเดียว การทำโพลล์คือคำตอบ น่าจะยุติธรรมที่สุดนะ จำได้ว่า 3 ปีที่แล้ว ตัวท่านสาทิตย์เองก็เคยพูดถึงท่านสมบูรณ์นะคะ ตอนท่านไปหาเสียงเขตพื้นที่เก่าท่านสมบูรณ์รอบก่อนใน อ.สิเกา ท่านพูดว่า ห่….ฉ…หาย! ทำพื้นที่ ชาวบ้านด่าตามหลังมา ดิฉันจำได้ดีค่ะ ท่านลืมเหรอคะ สร้างความชอบธรรมให้ตัวเองก่อน ก่อนถามหาความชอบธรรมจากพรรค อย่าตั้งกฎเกณฑ์ตามจังหวะเวลาตามใจตัวเองในสิ่งที่ควรจะเป็น กับ ยุคปัจจุบัน ประชาธิปัตย์ยังยึดหลักเกณฑ์แบบท่านสาทิตย์อีกหรอ? เต่าล้านปีไปไหม ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง … สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: