ตรัง-“นายกฯชาย” ออกโรงยุติศึกคนกันเอง หลัง ปชป.ตรังบ้านนายหัวชวนฟัดกันนัว เหตุ “สมชาย” ออกโรงจัดงาน “คนไม่เอาสาทิตย์-ช่วยทวี สุระบาล พปชร.” ขัดแย้งลามเขต 4 ส่งคนแข่ง “สมบูรณ์” เผยชนวนร้างตั้งแต่ก่อตั้ง “ทีมกิจปวงชน” ชนกันเองสนามอบจ.ตรัง “รองหน.พรรคคุมภาคใต้” ขอทำโพลกลางส.ค.นี้ยุติปัญหาเขต 4 อ้าง “ชวน-จุรินทร์-เฉลิมชัย” เห็นชอบแล้ว ตัดเชือกว่าที่ผู้สมัคร ตรังเขต 4 หลังศึกศักฟอกเคลียร์ศึก 2 ตระกูลอีกครั้ง เผย “สมชาย” โกรธ เพราะเชื่อว่า “สาทิตย์” หนุนคลิป “จอมพลปฏิวัติ” แฉบ่อนเรือนไทย แต่เจ้าตัวบอกไม่รู้เรื่อง
จากกรณีสถานการณ์การเมืองในพื้นที่ จ.ตรัง ร้อนแรงเป็นพิเศษ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคอการเมืองพรรคประชิปัตย์ เมื่อนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ บิดาของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เดินสายเปิดเวทีร่วมกับ นายทวี สุระบาล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งประกาศตัวลงสมัครชนกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน โดยทางนายสมชาย ได้แสดงเจตนาชัดเจนในการสนับสนุนนายทวี โดยได้รวมมวลชน ส.อบจ. ผู้นำท้องถิ่น ร่วมเวทีสนับสนุนนายทวี และต่อต้านนายสาทิตย์ อย่างหนักหน่วงต่อเนื่องในหลายเวที ทำให้นายสาธร วงศ์หนองเตย อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ตรัง น้องชายนายสาทิตย์ ออกมาตอบโต้ระบุ บุคคลใดก็ตามหากจะมามีบทบาทในสถาบันการเมือง มันจะต้องมี Maturity หรือวุฒิภาวะเพียงพอ ต้องคำนึงถึงอุดมการณ์ของตัวเอง ถ้าไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ของตัวเอง ก็ต้องคำนึงถึงอุดมการณ์ของพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัดอยู่ด้วย สำคัญที่สุดคือต้องคำนึงถึงสมาชิกพรรค และประชาชนที่เข้าร่วมอุดมการณ์ ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของนายสมชาย ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.สุณัฐชา ซึ่งลูกสาวก็เป็นถึงกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนี้ ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ ผมกังวลว่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นต่ออุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ และอุดมการณ์ของตัวผู้เป็น ส.ส.เอง
“เรื่องการเมือง มันไม่ใช่เรื่องนักเลง เรื่องนักเรียนอาชีวะ ที่ถ้าไม่ถูกใจแล้วจะยกพวกไปตีกัน ใครจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ เราถือว่าขึ้นกับวุฒิภาวะของแต่ละคน เพราะเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ไม่มีใครไปห้ามใครได้ นายสาทิตย์ เป็น ส.ส.มา 27 ปี เราเคยต่อสู้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคไทยรักไทย ในยุคที่ นายทวี สุระบาล ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่พรรคไทยรักไทยในตอนนั้น ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราถือว่าหนักที่สุดแล้ว ตอนนั้นนายทักษิณ ถึงกับเดินทางมา จ.ตรัง ประกาศจะสับหมูย่างเมืองตรัง พูดถึงขนาดว่าสับหมูย่างเมืองตรังนั้นง่ายกว่าที่คิด การเลือกตั้งครั้งนั้นจึงหนักที่สุดแล้ว แต่พี่น้องประชาชนในเขต 2 ก็ยังเชื่อมั่นในตัวพรรคประชาธิปัตย์ และตัวนายสาทิตย์ โดยเฉพาะตัว นายชวน หลีกภัย” นายสาธร ระบุ
ข่าวน่าสนใจ:
- อบจ.ลำปางห่วงใยชาวลำปางช่วงเทศกาลลอยกระทง อย่างปลอดภัย
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
- กกต.อบจ.เพชรบูรณ์ สั่งเช็กเอกสารคล้ายประกาศรับรองผู้สมัครฯ หลุด หลัง"ลุงโทนี"โพสต์โชว์ก่อนลบทิ้ง
- ตรัง เปิดความสวยงาม "เขาแบนะ-อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม" เส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบภูเขาชมทะเลงาม
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเขียนข้อความส่งผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ และมีการส่งต่อกันเป็นวงกว้าง ระบุกรณีของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.ตรังเขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันนั่งตำแหน่งเลขานุการนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ “หลายคนในพรรคถามผมว่านายสมบูรณ์ จะได้ลง ส.ส.เขต 4 ตรังหรือไม่ ผมตอบว่าต้องได้ลงสิครับ เพราะสมบูรณ์ เป็นอดีต ส.ส.ของพรรคในเขตนั้น เพียงแต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2562 ที่ตรังถูกลดเขตเลือกตั้ง จาก 4 เขตเหลือ 3 เขต แต่ ส.ส.ตรัง จาก 4 คน ถูกศาลตัดสิทธิเลือกตั้ง 1 คน ในปี 2558 ความจริง คุณสมบูรณ์ ควรได้ลงเขตตามเดิม แต่เนื่องจากมีการขอให้คุณสมบูรณ์ไปลงระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อเปิดทางให้อีกท่านได้ลงเขต ซึ่งคุณสมบูรณ์ ก็ยินยอม ทั้งๆ ที่มีสิทธิลงเขต แต่คุณสมบูรณ์ ยอมหลีกทางเพื่อให้ทุกอย่างลงตัว”
นอกจากนี้ยังมีข้อความหลุดออกมาจากแอพลิเคชั่นไลน์ของกลุ่มส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรังเขต 3 พิมพ์ตอบโต้นายสาทิตย์ อย่างดุเดือดโดยน.ส.สุณัฐชาได้ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมที่แท้จริงที่นายสาทิตย์กล่าวอ้างให้แก่นายสมบูรณ์ และไม่เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานายสมบูรณ์ได้เสียสละเปิดทางให้ตัวเองได้ลงเขต และอัดตรงไปถึงนายสาทิตย์อย่างรุนแรงว่า อย่า “ขี้แพ้ชวนตี-เต่าล้านปี” ทำงานการเมืองอย่าพูดเอาประโยชน์ตัวเอง
“ถ้าจะอ้างความชอบธรรม ขอให้เป็นความชอบธรรมจริงๆ สู้เพื่อทุกคนไปเลยค่ะ อย่าเป็นเพราะตัวเองเสียประโยชน์ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค อยากให้ท่านทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่น้องๆ เคารพนับถือค่ะ ขี้แพ้ชวนตี ไม่ใช่วิถีนักการเมืองที่ดีเท่าไร (ดิชั้นคิดแบบนั้น) ดิฉันที่มีความเห็นว่า ท่านสมบูรณ์ลงแล้วแพ้แน่รอบหน้า ท่านลองไปถามชาวบ้านในพื้นที่ดู เพราะไม่อยากให้เอาความเห็นคนกลุ่มเดียว การทำโพลคือคำตอบ น่าจะยุติธรรมที่สุดนะ จำได้ว่า 3 ปีที่แล้ว ตัวท่านสาทิตย์เองก็เคยพูดถึงท่านสมบูรณ์นะคะ ตอนท่านไปหาเสียงเขตพื้นที่เก่าท่านสมบูรณ์รอบก่อนใน อ.สิเกา ท่านพูดว่า ห่….ฉ…หาย! ทำพื้นที่ ชาวบ้านด่าตามหลังมา ดิฉันจำได้ดีค่ะ ท่านลืมเหรอคะ สร้างความชอบธรรมให้ตัวเองก่อน ก่อนถามหาความชอบธรรมจากพรรค อย่าตั้งกฎเกณฑ์ตามจังหวะเวลาตามใจตัวเองในสิ่งที่ควรจะเป็นกับยุคปัจจุบัน ประชาธิปัตย์ยังยึดหลักเกณฑ์แบบท่านสาทิตย์อีกหรอ? เต่าล้านปีไปไหม ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง… สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ”
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ตรังเขต 4 ซึ่งเป็นเขตของนายสมบูรณ์เดิม ทั้งนายสมชายและน.ส.สุณัฐชา ได้ออกมาแสดงความสนับสนุนและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคแล้ว คือ นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) เมืองกันตัง บุตรชายของนายวิสิษฐ์ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง ย่านตาขาว และสิเกา โดยส.ท.กาญจน์ ถือเป็นแคนดิเดตอีก 1 คนที่ต้องการลงสมัคร โดยการสนับสนุนของตระกูลโล่สถาพรพิพิธ มีดีกรีปริญญาโท ได้คะแนน ส.ท.เมืองกันตัง เป็นอันดับที่ 1 สำหรับ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นบุตรสาวของ “โกหนอ” นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง ชื่อดังหลายสมัย และยังเป็นหลานสาวของ “โกเล้ง” นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง ซึ่งการที่ น.ส.สุณัฐชา ออกมาเปิดตัวสนับสนุน ส.ท.กาญจน์ ให้เป็นหนึ่งในแคนดิเดตผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ ในครั้งนี้ ทำให้เป็นที่จับตามองของแวดวงการเมืองเป็นอย่างยิ่ง
.
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า ต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตรังบ้านของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่แวดวงกรรมการบริหารพรรคสายภาคใต้ รวมถึงสมาชิกพรรคสายใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตรัง เพราะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็เสียพื้นที่ไข่แดงเขต 1 ให้กับพรรคพลังประชารัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สำหรับสาเหตุของการกระทบกระทั่งระหว่างนายสมชายกับนายสาทิตย์ครั้งนี้นั้น เป็นชนวนความขัดแย้งเดิมปะทุขึ้นหลายครั้งแล้ว ด้วยฝ่ายนายสมชาย และฝ่ายนายสาทิตย์ มีความขัดแย้งทางอุดมการณ์เป็นรอยร้าวกันมายาวนานนับตั้งแต่การเลือกตั้งอบจ.ตรังในสมัยที่ “ครูกิจ” หรือ นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกฯอบจ.ตรังพี่ชายนายชวนลงสมัครครั้งแรก เมื่อปี 2555 ในนาม “ทีมกิจปวงชน” ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ต่างช่วงชิงการลงสมัครในนามพรรคเนื่องจากไม่สามารถรวมเป็นทีมเดียวกันได้ ในการลงสมัครส.อบจ.ตรังในครั้งนั้นในนามพรรคประชาธิปัตย์ จึงแบ่งเป็น 2 ทีม ได้แก่ “ทีมกิจปวงชน” นำโดย “ครูกิจ” และทีม “ศรีตรัง” ที่มีนายสาทิตย์สนับสนุน โดย “ทีมกิจปวงชน” ภายใต้การสนับสนุนของครูกิจที่จับมือกับนายสมชายสามารถ พาลูกทีมเข้าสภาได้ 18 ที่นั่ง ขณะที่ทีมนายสาทิตย์ พาลูกทีมเข้าสภาได้เพียง 1 ที่นั่งในเขตเลือกทั้งที่ 1 อำเภอห้วยยอด นอกนั้นเป็นของกลุ่มย่อยอย่าง ‘กลุ่มแม่น้ำตรัง’ และ ‘กลุ่มอิสระต่างๆ’
“ภาพในครั้งนั้นได้สะท้อน ความสับสนในชายคาประชาธิปัตย์เอง ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่มกลายๆ ระหว่าง ‘ทีมของบ้านใหญ่วิเศษกุล’ กับ ‘บ้านห้วยยอด’ ของ ‘ส.ส.สาทิตย์’ และก็เกิดขึ้นอีกเมื่อการเลือกตั้งอบจ.ในปี 2563 ที่ผ่านมา เมื่อครูกิจประกาศวางมือส่งไม้ต่อให้นายบุ่นเล่ง โส่สถาพรพิพิธ พี่ชายนายสมชายรับช่วงต่อ และความขัดแย้งก็ยังคงเกิดขึ้นเช่นเดิมเมื่อนายสมชายกับนายสาทิตย์ตกลงกันไม่ได้เรื่องการรวมทีมลงสมัคร ทำให้นายสาทิตย์และผู้สนับสนุนแยกออกไปส่งนายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายนายสาทิตย์ ลงชนกับนายบุ่นเล้ง ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งชันหาเสียงกันอย่างดุเดือด มีคดีร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งหลายคดี โดยเฉพาะคดีจับกุมการซื้อเสียงเลือกตั้งในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอวังวิเศษ นอกจากนี้ ล่าสุดยิ่งเกิดปรากฏการณ์คลิปจากเฟสบุ๊ค “จอมพลปฏิวัติ” ออกมาแฉเรื่องบ่อนบ้านเรือนไทยร้อยล้าน และมีการอ้างถึงอดีตส.ส.ที่เคยถูกจับคาบ่อนแห่งนี้ แม้ไม่เอ่ยชื่อแต่คนตรังรู้กันว่าคือใครเพราะเคยตกเป็นข่าวดังเมื่อปี 2544 โดยฝ่ายนายสมชายเชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังให้ข้อมูลจอมพลปฏิวัติ ที่ต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามตัวเองอย่างแน่นอน
.
นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ นายกฯชาย ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคใต้และการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ของพรรค ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า กรณีการประทบกระทั่งกันระหว่างนายสมชายกับนายสาทิตย์นั้น ตนติดตามอยู่ตลอด ก่อนหน้าที่มีปัญหากระทบกระทั่งกันครั้งล่าสุด ตนเคยเคลียร์ไปครั้งหนึ่งแล้ว จบไปแล้วรอบหนึ่ง แล้วก็เกิดอีก ตอนนั้นคนไปเคลียร์ผ่านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค แล้วก็เกิดเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกเมื่อเดือนกว่าๆที่ผ่านมาเรื่องคลิปจอมพลปฏิวัติ นายสมชายเลยโกระและเชื่อโดยสนิทใจว่ามาจากนายสาทิตย์ แต่ตนถามนายสาทิตย์ก็ว่าไม่รู้เรื่อง จากนั้นที่ผ่านมาก็ไม่มีใครเข้าไปเจรจา จึงเกิดปัญหาขึ้น
“ผมเชื่อว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายสมชายกับนายสาทิตย์น่าจะคุยกันได้ เพราะขนาดสงครามโลกเขายังเจรจากันได้ เรื่องนี้มันก็ต้องเจรจากันได้ และยืนยันว่าไม่กระทบต่อความนิยมพรรคเลย เพราะนายสมชายไม่ได้เป็นทั้งส.ส.และสมาชิกพรรค เป็นแต่เพียงหัวคะแนนพรรคคนหนึ่งเท่านั้นเอง เดี๋ยวเสร็จจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ผมจะลงไปคุย ส่วนที่นายสมชายประกาศสนับสนุนนายทวี สุระบาล จากพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งในพื้นที่ เขต 2 ของคุณสาทิตย์ รวมถึงแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยหากพรรคจะส่งนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ลงสมัคร เขต 4 ตรัง นั้น ยืนยันว่าไม่มีอะไร เพราะในพื้นที่จังหวัดตรัง ผมชี้ขาดไปแล้ว 3 ใน 4 เขต ได้แก่ เขต 1-2-3 เหลือเพียงเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่ต้องทำโพลจากประชาชนในพื้นที่ ในกลางเดือนสิงหาคมนี้ก็จะรู้ผล ก็ว่ากันไปตามผลโพล คนอื่นไม่มีสิทธิ์ ผมได้หารือกับนายชวน หลีกภัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคแล้วว่า ในเมื่อมีผู้เสนอตัวมากกว่า 1 คนในการลงสมัคร ผมขอทำโพลเพื่อตัดสินเรื่องดังกล่าวโดยผมเป็นผู้ดูแลเอง จะไม่ให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามายุ่งเกี่ยว ซึ่งทั้ง 3 ท่านเห็นด้วยกับวิธีนี้ โดยเฉพาะนายชวนได้บอกกับผมว่า ในเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้ ก็ต้องทำโพล ใช้วิทยาศาสตร์มาวัด เพราะไม่อยากให้ใครถูกตำหนิ”รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: