X

พัฒนาที่ดิน หนุนวิสาหกิจชุมชนตรัง ผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง “ตราพะยูน” ลดต้นทุนให้เกษตรกร

กรมพัฒนาที่ดินสบช่องราคาปุ๋ยเคมีราคาแพง  เร่งเดินหน้าขับเคลื่อน โครงการส่งเสริมผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงทดแทนปุ๋ยเคมีราคาแพง มุ่งลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมชูจ.ตรังเป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างเครือข่ายการผลิตและการตลาดที่เข้มแข็ง  ยกระดับอาชีพและรายได้ให้ชุมชนแบบยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1สิงหาคม 65 ที่สำนักงานพัฒนาที่ดิน อ.เมือง จ.ตรัง นายศรีศักดิ์ ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12      นำคณะสื่อมวลมาฟังบรรยายสรุป โครงสร้างโครงการการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรกรมพัฒนาที่ดินลดการใช้ปุ๋ยเคมีราคาแพง(ปุ๋ยอินทรีย์ตราพะยูน)ในพื้นที่จังหวัดตรัง คณะได้เดินทางไปชมขบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ที่กลุ่มเกษตรกร นางพูนสุข พิทยาสุนทร  ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง ทางกลุ่มบรรยากาศให้คณะสื่อมวลชนทราบถึงส่วนผสมขบวนการผลิตกำลังผลิตและการรักษาคุณภาพให้ได้มาตรฐานซึ่งสื่อก็สอบถามจนแล้วเสร็จ

นางพูนสุข พิทยาสุนทร ประธานกลุ่มผลิตปุยอินทรีย์ตราพะยูน กล่าวว่า โรงผลิตปุยแห่งนี้เริ่มทำปุยอินทรีย์เมื่อปี 2558 ตอนนั้นผลิตไม่มากนัก เน้นทำขายในชุมชน คนนิยมนำไปใส่พืชสวน เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล และพืชผักสวนครัว ต่อไปได้ขยายการผลิตให้มากขึ้น และส่งขายให้กับ กยท.ตรัง ซึ่งปัจจุบันนี้จะผลิตและส่งให้ กยท.จังหวัดตรัง 3 เดือนต่อหนึ่งครั้ง โดยส่งครั้งละ 10 ตัน ในราคาตันละ 5,000 บาท ซึ่งปุยอินทรีย์ที่ผลิตได้นิยมใช้มากขึ้น เพราะผู้ใช้ต่างก็ยอมรับในคุณภาพ ใช้แล้วยางพาราให้น้ำยางดี เปลือกของต้นย่างนิ่มทำให้กรีดง่าย หากใส่ต้นปาล์มน้ำมัน ต้นจะโตเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ในพืชทุกชนิด รวมทั้งในนาข้าว เพราะเมื่อใช้ปุ๋ยอินทรีย์จะช่วยบำรุงดินไปในตัว

กรมพัฒนาที่ดินยังได้นำคณะสื่อมวลชนไปเยี่ยมแปลงพริกไทยพันธุปะเหลียน นายมนตรี ศรียงยศ   ซึ่งใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตราพะยูน ในพื้นที่  บ้านป่ากอ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นอกจากนั้นได้เยี่ยมชมไร่สมประสงค์ ของนายสมประสงค์  หยงสตาร์ เกษตรกอีกหนึ่งท่านที่ประสบความสำเร็จในการทำการเกษตรจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรกรมพัฒนาที่ดิน

นายศรีศักดิ์ ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 เปิดเผยว่า “การใช้ปุยอินทรีย์สามารถลดต้นทุนการซื้อปุ๋ยเคมีของเกษตรกรได้มากถึง 10 เท่าของปุ๋ยเคมี และยังทำให้คุณภาพของดินที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สามารถทำให้มีจุลลินทรี และสิ่งมีชีวิตเพิ่มมาในดิน เช่น ไส้เดือน ไส้เดือนมีหน้าปรับโครงสร้างดินให้ดีขึ้น และในปุ๋ยอินทรีย์ พด.1 มีจุลลินทรีจำนวนมาก มีคุณภาพดินฟื้นขึ้นมา และสินค้าอย่างพริกไทยปะเหลียนอินทรีย์ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพด้วย  ทั้งนี้หากมองเรื่องกำไร ต้นทุน ปรากฏว่าเกษตรกรสามารถลดต้นทุนได้ 10% และมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% และกำไรต่อสุขภาพของเกษตร กำไรต่อผู้บริโภค

เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตรยังได้จัดอบรมหมอดินอาสา สร้างเครือข่ายหมอดินอาสากระจายไปยังทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งอบรมทั้งเรื่องพืช ดิน และเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ ให้เรียนรู้ตามยุค และมีการสอนผ่านระบบออนไลน์ให้เกษตรกรด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน