ตรัง “เจ้าแสนรู้” แม่หมูสายพันธุ์ผสม ระหว่างหมูบ้าน-หมูป่า วัยเกือบ 2 ปี ทำหน้าที่พาฝูงข้ามถนนไปกินหญ้า และนำพาฝูงข้ามถนนอีกครั้ง เพื่อกลับบ้านอย่างปลอดภัยในทุกวัน จนใคร ๆ ที่เห็นต่างอดยิ้มไม่ได้
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า บริเวณใกล้สี่แยกทุ่งควน- หลังแขวง หมู่ที่ 5 ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง มีการเลี้ยงหมูสายพันธุ์ผสม ระหว่างหมูบ้าน กับหมูป่า จำนวนหลายตัว แต่มีพฤติกรรมที่น่ารักน่าเอ็นดู โดยเฉพาะทุก ๆ ครั้งที่พวกมันจะต้องข้ามถนนในหมู่บ้านเพื่อไปกินหญ้า ก็จะมีแม่หมูตัวหนึ่ง อายุเกือบ 2 ปี คอยทำหน้าที่เดินนำหน้าเพื่อพาฝูงหมู ทั้งที่รุ่นราวคราวเดียวกัน และรุ่นลูกๆ ข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง และหลังจากกินหญ้าจนอิ่มแล้ว แม่หมูตัวนี้ก็จะนำพาฝูงข้ามถนนอีกครั้งเพื่อกลับบ้านอย่างปลอดภัย และไม่เคยมีตัวใดถูกรถชน ซึ่งเป็นเช่นนี้ทุกวัน จนใคร ๆ ที่เห็นต่างอดยิ้มไม่ได้
นายสมชาย เหมนแก้ว อายุ 53 ปี เจ้าของหมูฝูงนี้ บอกว่า ครั้งแรกตนได้ซื้อหมูสายพันธุ์ผสม ระหว่างหมูบ้าน กับหมูป่า มาเลี้ยงไว้จำนวน 4 ตัว เพื่อต้องการอนุรักษ์ไว้ แต่ได้นำไปแก้บนถวายหลวงปู่ทวด 1 ตัว เพื่อให้ลูกสอบเข้าทหารได้ ทำให้หมูเหลือ 3 ตัว แต่ต่อมาพวกมันได้ออกลูกมาเป็นจำนวนมากหลายสิบตัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโดยส่วนตัวจะไม่กินหมูที่เลี้ยงไว้เหล่านี้ ยกเว้นถ้าใครมาขอทำพันธุ์ ตนเองก็จะให้ไป จนรวม ๆ เกือบ 10 ตัวแล้ว กระทั่งล่าสุดเหลือหมูสายพันธุ์ผสมเหล่านี้ จำนวน 12 ตัว เป็นตัวเมีย 4 ตัว ตัวผู้ 2 ตัว และลูกๆ อีก 6 ตัว
ทั้งนี้ ตนเองจะเลี้ยงหมูฝูงนี้ ด้วยการซื้ออาหารกระสอบมาให้กิน และไปหาเศษอาหารมาให้กินเสริมด้วย แต่พวกมันจะชอบออกไปหาหญ้ากินกันเองตามธรรมชาติมากกว่า โดยมีแม่หมูตัวหนึ่ง ซึ่งตนเองขอเรียกว่า เจ้าแสนรู้ ทำหน้าที่พาฝูงข้ามถนนไปกินหญ้าในทุก ๆ วัน โดยก่อนข้าม มันจะมองซ้ายมองขวาก่อน หากไม่มีรถมา มันก็จะรีบพาฝูงข้ามฝั่งไปทันที กระทั่งเมื่อกินหญ้าจนอิ่มแล้ว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มักก็จะนำฝูงข้ามถนนกลับบ้าน ซึ่งเจ้าแสนรู้ทำเช่นนี้มานับตั้งแต่มันเกิด จนขณะนี้อายุเกือบ 2 ปีแล้ว โดยที่ตัวมันเองและฝูงไม่เคยโดนรถชนเลย
และตนยอมรับว่าหมูของตนสร้างความรำคาญให้ชาวบ้านใกล้เคียง เพราะบ่อยครั้งที่พวกมันเข้าไปในที่ดิน ในสวนของชาวบ้าน และคนที่ใช้ขับขี่รถผ่านทางนี้บ่อย ๆ จะรู้ และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ซึ่งตนก็ได้กั้นคอกให้พวกมันอยู่ แต่พวกมันยังใช้ตัวดันประตูคอกออกมาจนได้ ซึ่งทุกวันนี้ตนแก้ปัญหาด้วยการขายออกไปบ้าง ในราคาตัวละ 400-500 บาท หรือ หากใครมาขอไปเลี้ยง ก็จะให้ไปฟรี ๆ
